ฉายคลิปอุกอาจ หลังรั้วกรงขัง ‘คืนยุติธรรม’ กลับมาจัดอีกครั้ง ตั้งเวทีทวงเสรีภาพ ตามหาคนหาย

ฉายคลิปอุกอาจ หลังรั้วกรงขัง ‘คืนยุติธรรม’ กลับมาจัดอีกครั้ง ตั้งเวทีทวงเสรีภาพ ตามหาคนหาย

เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน ที่ Cartel Artspace ภายใน The Jam Factory เขตคลองสาน กรุงเทพฯ กลุ่มโมกหลวงริมน้ำ, พรรคไฟเย็น, สถาบันปรีดี พนมยงค์, มูลนิธิผสานวัฒนธรรม และเครือข่าย จัดนิทรรศการ คืนยุติธรรม : Dawn Of Justice เพื่อเรียกร้องความเป็นคน ให้ผู้เรียกร้องสิทธิเสรีภาพและผู้สูญหายจากการเคลื่อนไหวทางการเมือง และเรียกร้องให้มีการคืนความยุติธรรม ตามกระบวนการทางกฎหมายและหลักสิทธิมนุษยชน

โดยการจัดงานครั้งนี้ ได้รับความร่วมมือภาคประชาชน ภาคประชาสังคม ตลอดจนภาคธุรกิจ ภายหลังเลื่อนการจัดงานดังกล่าว ที่ช่างชุ่ย ในวันที่ 20-25 กันยายนที่ผ่านมา ด้วยเหตุผล เจ้าของสถานที่มีความไม่สบายใจ นั้น

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศ เวลา 15.00 น. มีนักกิจกรรมและประชาชน ที่ร่วมเคลื่อนไหวทางการเมือง ทยอยเดินทางมาร่วมงาน อาทิ น.ส.ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล หรือมายด์ น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ หรือตะวัน กลุ่มทะลุวัง ผู้ต้องหามาตรา 112 เป็นต้น โดยเข้ามารับประทานอาหารที่จำหน่ายภายในงาน ระหว่างรอกิจกรรมเริ่ม

ทั้งนี้ กลุ่มโมกหลวง ได้ตั้งจุดลงทะเบียนที่หน้างาน พร้อมวางแบ๊กดร็อปขนาดใหญ่ จำลองฉากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้ถ่ายภาพผู้ต้องหา โดยมีผู้ร่วมงานแวะเวียนเข้ามาถ่ายภาพ ส่วนหนึ่งนั่งจับกลุ่มสนทนาเรื่องคดีความทางการเมือง

ADVERTISMENT

สำหรับนิทรรศการ “คืนยุติธรรม” มีเนื้อหากล่าวถึงการลิดรอนสิทธิจากการใช้สิทธิในการแสดงออกและแสดงความคิดเห็น พาผู้ชมดำดิ่งไปกับศิลปะและชีวิตของมนุษย์ธรรมดาที่ต้องพบเจอกับความเจ็บปวด จากความอยุติธรรมในสังคมจนไม่อาจหวนคืนสู่วิถีเดิมได้อีก

ภายในห้องนิทรรศการ แบ่งเป็น 2 โซน โซนแรก มีการติดตั้งรูปภาพ นักเคลื่อนไหว ทั้งประเด็นการเมืองและสิทธิด้านที่อยู่อาศัย ที่ทำกิน ซึ่งถูกดำเนินคดี รวมทั้งถูกอุ้มหายและทำให้หายสาปสูญ ได้แก่

1.นายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ หรือต้าร์ นักกิจกรรมทางการเมือง ถูกนำตัวขึ้นรถ ขณะแวะซื้อของหน้าอาคารที่พัก ณ กรุงพนมเปญ ช่วงเย็นของวันที่ 4 มิถุนายน 2563 หลังลี้ภัยในกัมพูชา กรณีไม่ไปรายงานตัวตามคำสั่ง คสช. (ไม่ทราบชะตากรรม)

2.เด่น คำแหล้ นักต่อสู้เพื่อสิทธิที่ดิน สูญหายเมื่อ 16 เมษายน 2559 ที่ ต.ทุ่งลุยลาย อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ (เสียชีวิต)

3.พอละจี รักจงเจริญ หรือ ‘บิลลี่’ นักกิจกรรมกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยง ในผืนป่าแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี สูญหายเมื่อ 17 เมษายน 2557 (เสียชีวิต)

4.อิทธิพล สุขแป้น หรือ ‘ดีเจซุนโฮ’ สูญหายเมื่อ 22 มิถุนายน 2559 ที่ สปป.ลาว (ไม่ทราบชะตากรรม)

5.วุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือ ‘โกตี๋’ สูญหาย 29 กรกฎาคม 2560 ที่ สปป.ลาว (ไม่ทราบชะตากรรม)

6-8.สุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ หรือสุรชัย แซ่ด่าน (ไม่ทราบชะตากรรม), ชัชชาญ บุปผาวัลย์ หรือ ‘สหายภูชนะ’ (เสียชีวิต) และไกรเดช ลือเลิศ หรือ ‘สหายกาสะลอง’ (เสียชีวิต) ผู้ลี้ภัยทางการเมืองไปยัง สปป.ลาว หลังรัฐประหาร 2557 ทั้ง 3 สูญหายเมื่อ 12 สิงหาคม 2561 ที่ สปป.ลาว

9-11.สยาม ธีรวุฒิ หรือสหายข้าวเหนียวมะม่วง, กฤษณะ ทัพไทย หรือสหายยังบลัด และ ชูชีพ ชีวะสุทธิ์ หรือลุงสนามหลวง 3 ผู้ลี้ภัยทางการเมือง ที่ถูกส่งตัวกลับจากเวียดนามมายังไทย แต่ยังคงหายสาบสูญไม่ทราบชะตากรรม ตั้งแต่วันที่ 8 พฤษภาคม 2562

โดยมีชื่อและรายละเอียดของการสูญหาย รวมทั้งเสื้อผ้าของผู้ถูกอุ้มหาย แขวนไว้ในตู้ที่ตั้งอยู่ทางด้านขวา

ส่วนโซนที่ 2 ติดตั้งภาพและข้อมูลสถิติ ที่นักกิจกรรมทางการเมืองในปัจจุบัน ถูกดำเนินคดีด้วยข้อหา ม.112 และข้อหาอื่นๆ ซึ่งถูกคุมขังโดยไม่ได้รับสิทธิประกันตัว สำหรับไฮไลต์ของนิทรรศการ คือการฉายคลิปอุกอาจใต้รั้วกรงขัง สะท้อนเหตุการณ์ที่เจ้าหน้าที่จับกุมเยาวชน และนักกิจกรรม อาทิ กลุ่มทะลุวัง ที่ทำกิจกรรมโพล สำรวจความเห็น โดยมีการผูกเชือกสีแดงไว้กับรองเท้าภายในกรงขังจำลองดังกล่าว สื่อถึงการจับกุมคุมขัง เพื่อหยุดไม่ให้นักกิจกรรมเคลื่อนไหวทางการเมืองต่อไป

สำหรับ บรรยากาศภายนอกนิทรรศการ มีการตั้งเวที และเก้าอี้ เตรียมปาฐกถาและเสวนา โดยรอบมีการตั้งบูธจำหน่ายสินค้า เพื่อสนับสนุนประชาชน และการรณรงค์เพื่อสนับสนุนสิทธิมนุษยชน ประชาธิปไตย จำนวนหลายบูธ อาทิ แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย ตั้งบูธโดยขึงผ้าเป็นห้องลับ ให้ผู้ร่วมงานเขียนจดหมายให้ประชาชนที่ยังถูกคุมขังในเรือนจำ การเคลื่อนไหวทางการเมือง

บูธร้านครอบครัวไฟเย็น จำหน่าย น้ำดื่มสะอาดตราลุงสนามหลวง ต้นไม้ สบู่ หมูทอดรวนเค็ม น้ำพริกข้าวหอมมะลิ

บูธโมกข์หลวงริมน้ำ จำหน่ายแมสก์ผ้า สเปรย์แอลกอฮอล์ และเสื้อยืดคืนยุติธรรม

บูธ Art to ease for Myanmar friends ระดมทุนเพื่อเพื่อนเมียนมา สอนทำผ้าอนามัย และรับบริจาคผ้าอนามัย

บูธ We Volunteer ของกลุ่มการ์ดอาสา วีโว่ จำหน่ายร่ม ปลาร้า เสื้อยืดและเสื้อสงกรานต์

บูธไข่แมวชี้จำหน่ายสินค้าจากเพจ ตาใส Shop, กระเป๋าผ้าตาใส, เสื้ออุนจิตาใส ไปจนถึงเครื่องดื่มโกโก้ตาใส

ร้าน Phantom Kit จำหน่าย คอนเฟล็กน้ำผึ้งคาราเมล บราวนี่กรอบ เค้กกล้วยหอม และ บูธ sleep in forest เทียนคราฟต์ น้ำสมุนไพร

สำหรับ ประชาชนเบียร์ ก็ได้ร่วมกิจกรรมครั้งนี้ด้วย โดยจะตั้งบูธจำหน่ายเบียร์คราฟต์ ในวันเสาร์-อาทิตย์นี้

น.ส.วรรณวลี ธรรมสัตยา หรือตี้พะเยา กลุ่มราษฎรเอ้ย จำหน่ายกาแฟดอยปางขอน และซูเฟล่ ขนมฝรั่งเศส, ป้าน้อย และป้าสาคร เสื้อและหมวก ไปจนถึงอาหาร ฮาลาล ฮาหร่อย

ภายในงาน ยังมีกิจกรรมเวิร์กช้อป ในประเด็นการคืนความเป็นธรรมให้แก่ผู้ถูกละเมิดสิทธิ ครอบครัวของผู้ถูกละเมิดสิทธิ และการคืนความเป็นธรรมแก่สังคม ไปจนถึงวงเสวนา “เสรีภาพกับราคาที่ต้องจ่าย” ที่จัดขึ้นทุกวัน ไม่ซ้ำประเด็น การแสดงดนตรี การแสดง Performance art และกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมาย

ทั้งนี้ เวลา 17.00 น. จะมีการปาฐกถา เรื่อง เสรีภาพและราคาที่ต้องจ่าย ต่อด้วย บรรยายนิทรรศการ และวงเสวนาเรื่อง “เสรีภาพกับราคาที่ต้องจ่าย : คนชายขอบ” คนชาติพันธุ์ที่ถูกรัฐผลักเป็นคนชายขอบ เพื่อแลกเปลี่ยนความเห็น สะท้อนโครงสร้างสังคมที่เหลื่อมล้ำ ทำให้เกิดการมองคนไม่เท่ากัน อันส่งผลให้คนบางกลุ่มถูกผลักไปเป็นคนใช้ขอบ ไม่ได้รับสิทธิและสวัสดิการขั้นพื้นฐานตามที่ควรจะเป็น ซึ่งผู้ร่วมเสวนาได้ต่อสู้เคลื่อนไหวในประเด็นดังกล่าว

ได้แก่ นายฮาหมื่อ มาเยอะ ตัวแทนกลุ่มชาติพันธุ์อาข่า-ลีซู บ้านรินหลวง จ.เชียงใหม่ นายพชร คำชำนาญ ภาคีsaveบางกลอย ดำเนินรายการโดย น.ส.แทนหฤทัย แท่นรัตน์ หรือพิมพ์ ภาคีsaveบางกลอย

จากนั้น เวลา 18.30 น. จะมีการแสดงดนตรี จาก 3Bone, JJJ และ Eleven Finger

สำหรับนิทรรศการคืนยุติธรรม : Dawn Of Justice จัดขึ้นระหว่างวันที่ 3-6 พฤศจิกายนนี้ ตั้งแต่เวลา 12.00 น. ที่ The Jam Factory เขตคลองสาน