‘ผตห.การเมือง’ พ้อ ตกงาน-จิตใจเจ็บปวด งง แค่ติดสติ๊กเกอร์โพล โดนใส่ ‘กำไลอีเอ็ม’

‘ผตห.การเมือง’ งง แค่ติดสติ๊กเกอร์โพล โดนใส่ ‘กำไลอีเอ็ม’ พ้อ ตกงาน ไปสมัครก็ไม่รับ-จิตใจเจ็บปวด

เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน ที่ Cartel Artspace ภายใน The Jam Factory เขตคลองสาน กรุงเทพฯ กลุ่มโมกหลวงริมน้ำ, พรรคไฟเย็น, สถาบันปรีดี พนมยงค์, มูลนิธิผสานวัฒนธรรม และเครือข่าย จัดนิทรรศการ คืนยุติธรรม : Dawn Of Justice ระหว่างวันที่ 3-6 พฤศจิกายนนี้ เพื่อเรียกร้องความเป็นคน ให้ผู้เรียกร้องสิทธิเสรีภาพและผู้สูญหายจากการเคลื่อนไหวทางการเมือง และเรียกร้องให้มีการคืนความยุติธรรม ตามกระบวนการทางกฎหมายและหลักสิทธิมนุษยชน

อ่านข่าว : ฉายคลิปอุกอาจ หลังรั้วกรงขัง ‘คืนยุติธรรม’ กลับมาจัดอีกครั้ง ตั้งเวทีทวงเสรีภาพ ตามหาคนหาย

โดยเวลา 12.30 น. มีการเสวนาในหัวข้อ “เสรีภาพกับราคาที่ต้องจ่าย : การดำเนินคดี” โดยมี น.ส.กุณฑิกา นุตจรัส ทนายความ ที่ว่าความในคดีซึ่งประชาชนและนักกิจจกรรมถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดทางอาญา, น.ส.อรวรรณ ภู่พงษ์ ผู้ถูกดำเนินคดีจากการติดดสติ๊กเกอร์บนโพลสำรวจ, มนูญ วงษ์มะเซาะห์ เจ้าหน้าที่ฝ้ายรณรงค์ แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย ในแคมเปญ ปล่อยเพื่อนเรา FREERATSADON และ หิน ทะลุแก๊ซ นักเคลื่อนไหวทางการเมือง’ ผู้ถูกดำเนินคดี

สำหรับเนื้อหาวงเสวนา ว่าด้วยการต่อสู้เพื่อสิทธิในสังคมที่ไม่เคารพสิทธิ ซึ่งมีราคาที่ต้องจ่ายเสมอ โดยอาจไม่ใช่เงินทอง แต่มาในรูปแบบอื่นอย่าง “การถูกดำเนินคดี” ซึ่งในสังคมที่ปกติ การเรียกร้องเสรีภาพเป็นเรื่องที่ยอมรับได้ แต่ในสังคมไทยเพียงเห็นต่างจากผู้มีอำนาจ ก็สามารถถูกดำเนินคดีได้

ในตอนหนึ่ง น.ส.อรวรรณ ภู่พงษ์ ผู้ถูกดำเนินคดี ม.112 จากการติดดสติ๊กเกอร์บนโพลสำรวจ ของกลุ่มทะลุวัง กล่าวถึงความรู้สึกที่ค่อนข้างสับสน เหตุใดตนจึงโดนข้อหา จากการติดสติ๊กเกอร์ในโพลสำรวจความเห็น

ADVERTISMENT

“นั่นสิ ทำไมต้องโดน เราแค่ไปติดสติ๊กเกอร์ที่โพลสำรวจเอง ตอนนี้โดนติดกำไลอีเอ็มที่เอาไว้คุมประพฤติสำหรับนักโทษที่ไม่ต้องอยู่ในเรือนจำตามเงื่นไขของศาล ได้ประกันตัวออกมาโดยมีเงื่อนไข” น.ส.อรวรรณกล่าว

น.ส.อรวรรณกล่าวถึงผลกระทบจากการติดกำไลอีเอ็มด้วยว่า เราต้องทำงาน แต่ตอนนี้ว่างงานอยู่ หลังจากถูกติกำไลอีเอ็ม จะไปสมัครงานก็ยากขึ้น สำหรับคนที่ไม่ได้ติดตามเรื่องการเมืองก็จะสงสัยว่าไปโดนคดีร้ายแรงมาหรือไม่ เพราะในประเทศนี้คนใส่อีเอ็มไม่เยอะ และยิ่งคดีทางการเมือง ใส่กันแค่ 56 คนในประเทศนี้ ยังไม่รวมคดีอื่นๆ ที่ไม่ใช่คดีการเมือง

“เรื่องการทำงานจะยากนิดนึง ด้วยบริบทของสังคม ไม่ได้มองว่ การติดอีเอ็ม คือเรื่องดี เป็นเรื่องน่าอาย ที่จะไปอยู่ในองค์กรการทำงาน ดูไม่น่าเชื่อถือ ถ้าไม่ได้ตามการเมืองก็จะถูกมองไม่ดี คนรับสมัครงานไม่รับเข้าทำงาน นอกจากว่างงาน ตอนนี้ก็ต้องหาจ็อบทำแทน ไม่มีเงินเดือน

ชีวิตประจำวัน ลำบากตรงที่มีแผลพุพองบ้าง การกิน นอน พูดตรงๆ น่ารำคาญมาก เวลาวิ่งก็จะตีกับตาตุ่ม เหงื่อออกก็คัน ใส่ถุงเท้าไม่ใช่ทางออกที่ดี ซึ่งความจริงเราไม่จำเป็นต้องใส่ด้วยซ้ำ ทำไมต้องมาทนกับอะไรแบบนี้ หงุดหงิดรรำคาญใจอยู่ตลอดเวลา แม่ก็ถามเมื่อไหร่จะถอด ถือว่าใช้จิตวิทยากับเราได้สำเร็จ เพราะค่อนข้างมีผลกระทบกับจิตใจ” น.ส.อรวรรณกล่าว และว่า

การโดนคดี ไม่สามารถปิดปาก สิ่งที่เราจะพูดต่อไปได้ ยิ่งเราโดนคดี มันไม่ได้แปลว่าเราจะแพ้ แต่คือแรงผลักดันอย่างหนึ่ง ที่ทำให้เรามีชีวิตต่อไป เพื่อสู้กับความอยุติธรรมในประเทศนี้ มันคือการเปลี่ยนทั้งประเทศที่เรากำลังต่อสู้อยู่