เมื่อเวลา 16.40 น. ที่สำนักงานมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ หลังจากนายศรยุทธ เอี่ยมเอื้อยุทธ และ ผศ.ทัศนัย เศรษฐเสรี อาจารย์ภาควิชาสื่อศิลปะและการออกแบบสื่อ (Media Art and Design) คณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และนายยศสุนทร รัตตประดิษฐ์ นักศึกษาคณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ รับทราบข้อกลาวหาร่วมกันเข้าไปในอสังหาริมทรัพย์ของผู้อื่นฯ ที่ สน.ภูพิงคราชนิเวศน์ จังหวัดเชียงใหม่ (อ่านข่าว ‘ทัศนัย’ แซะ ‘มช.ต้องภูมิใจ’ ให้ติดอันดับโลก มหา’ลัย ที่ฟ้องกันเอง แบ่งคดีแพ่ง-อาญา ให้ น.ศ.-อาจารย์)
ผศ.ทัศนัย ได้เดินเท้าจาก สน.ภูพิงคราชนิเวศน์ มายังบริเวณหน้าสำนักงานมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เพื่อยื่นหนังสือถึงอธิการบดี ม.เชียงใหม่ ผ่าน นายอรัญ กันธิยะ ผู้อำนวยการกองกฎหมาย มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งเป็นผู้รับมอบหนังสือดังกล่าว
ผศ.ทัศนัย กล่าวว่า วันนี้พวกตนเป็นตัวแทนในการยื่นหนังสือถึงอธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ผ่านผู้อำนวยการกองกฎหมาย โดยเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับคดีความในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และการเรียนการสอนในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ รวมถึงข้อพิพาทของบุคลากรในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งคดีนี้เกิดขึ้นในปีที่แล้ว ในความเป็นจริงควรจะสิ้นสุดหลังจากมีคำสั่งตัดสินของศาลปกครองต่อกรณีพิพาททั้งหลายในปีที่แล้ว
“พวกผมมีความกังวล มีความสงสัยว่าคดีนี้ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ผู้บริหารชุดใหม่ คือท่านหมอพงษ์รักษ์ (ศ.ดร.นพ.พงษ์รักษ์ ศรีบัณฑิตมงคล)อธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่คนปัจจุบัน แล้วต้นสังกัดของผมเองคือคณบดีวิจิตรศิลป์ เป็นผู้แทนของนิติบุคคล ในการเป็นคู่ความ เป็นปรปักษ์ เป็นคู่ขัดแย้งของพวกผมทั้ง 3 คน ที่ถูกฟ้องในคดีความปีที่แล้วหรือไม่ แล้วท่านก็ทราบดีว่ามหาวิทยาลัยเชียงใหม่เป็นนิติบุคคล แล้วผู้ที่ฟ้องคดีก็หมดวาระในการบริหารไปแล้วผ่านท่านอธิการบดีและคณบดี วันนี้จะมาทวงถามว่าบทบาทและพันธกิจของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และท่าทีของท่านผู้บริหาร ผ่านผู้อำนวยการกองกฎหมาย ถึงท่านอธิการบดีเป็นอย่างไร ต่อกรณีที่เกิดขึ้นนี้ จากกรณีนี้ถูกจับตามองจากสาธารณะอย่างกว้างขวางมาเป็นปีแล้ว” ผศ.ทัศนัย กล่าว
ผศ.ทัศนัย กล่าวว่า ตอนนี้สาธารณะก็อยากทราบกันมาก เพราะทางมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ที่ประกาศตัวว่าอยากจะเป็นเวิลด์คลาส เป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำหรือมหาวิทยาลัยที่มีความก้าวหน้าทางวิชาการ เป็นมหาวิทยาลัยที่มอบความสุขให้กับพนักงาน คณาจารย์และนักศึกษา มีท่าทีต่อเรื่องนี้อย่างไร นักศึกษาจะแสดงงานตัวจบก็คือการสอบ ย้อนไปเมื่อปีที่แล้ว หอศิลปวัฒนธรรมก็คือห้องสอบ แต่เมื่อจะสอบแล้วมีบุคคลบางกลุ่มไปล็อคห้องสอบ เพื่อไม่ให้นักศึกษาได้สำเร็จการศึกษาหรือมีการส่งเกรด และกลุ่มคนที่ไปขัดขวางก็ถูกฟ้องร้องคดี โดยอธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่คนก่อนเป็นผู้มอบอำนาจ ตนอยากสอบถามบรรทัดฐานและทัศนคติของผู้บริหารชุดใหม่ โดยมีข้อเรียกร้อง 2 ข้อ เพื่อบรรเทาความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อตัวข้าพเจ้าทั้ง 3
ผศ.ทัศนัย ระบุว่า ขอให้มีการดำเนินการดังต่อไปนี้
1. ถอนคำแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ. ภูพิงคราชนิเวศน์ และให้ปากคำเพิ่มเติม ตามข้อเท็จจริงที่ปรากฏต่อศาลปกครองจังหวัดเชียงใหม่ ดังที่อ้างถึง
2. ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ผู้บริหารคณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ที่เกี่ยวข้องกับคำสั่งในเหตุการณ์ครั้งนี้ ว่ามีความผิดเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่หรือหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และแจ้งความเท็จต่อพนักงานสอบสวนหรือไม่อย่างไร โดยเร็ว และหากปรากฏข้อเท็จจริง มีบุคคลที่เกี่ยวข้องกับกรณีนี้ ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ขอให้ดำเนินคดีและเอาผิดทางวินัยอย่างถึงที่สุด
“หากท่านไม่ดำเนินการดังกล่าวมาในเวลาอันสมควร ก็มีเหตุให้เชื่อได้ว่าท่านทราบดีอยู่แล้วถึงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับที่อ้างถึงในข้อที่ 1 และ 2 แล้วสิ่งที่แนบมาด้วย แต่กลับเพิกเฉยและละเว้นไม่ปฏิบัติหน้าที่ โดยไม่มีเหตุอันสมควร เป็นเหตุให้ข้าพเจ้าทั้ง 3 ได้รับความเสียหาย ถูกดำเนินคดีทางอาญาโดยไม่เป็นธรรม ข้าพเจ้าทั้ง 3 จึงจำเป็นต้องดำเนินการทางกฎหมายตามขั้นตอนต่อไป” ผศ.ทัศนัยกล่าว
