ศาล รธน.เสียงข้างมาก ชี้ พ.ร.บ.วิธีพิจารณาคดีทุจริต ม.46 ขัด รธน.

ศาล รธน.เสียงข้างมาก ชี้ พ.ร.บ.วิธีพิจารณาคดีทุจริต ม.46 ขัด รธน. กำหนดให้คำวินิจฉัยมีผลหลัง 360 วัน

เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม ศาลรัฐธรรมนูญ ประชุมปรึกษาคดี กรณีพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) วิธีพิจารณาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ พ.ศ.2559 มาตรา 46 วรรคสี่ ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 27 วรรคหนึ่ง หรือไม่ สืบเนื่องจาก ศาลฎีกาส่งคำโต้แย้งของจำเลยที่ 1 ในคดีอาญาหมายเลขดำ ที่ อท. 63/2564 คดีหมายเลขแดงที่ 5538/2564 นายวิทยา ศุภศิริโภคา อดีตนายกเทศมนตรีตำบลดอนยายหอม อำเภอเมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐม ที่ถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช. ) ชี้มูลความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 มาตรา 151 จากกรณีเรียกรับผลประโยชน์ตอบแทนในการอนุมัติให้เบิกจ่ายเงิน และลงนามในใบถอนเงิน/เช็คธนาคารเพื่อจ่ายเป็นค่าจ้างเหมา โครงการก่อสร้างสะพานคอนกรีตเสริมเหล็ก และรื้อถอนสะพานคอนกรีตเสริมเหล็กเก่า)

โดยผลการพิจารณา ศาลรัฐธรรมนูญมีมติโดยเสียงข้างมาก 6 ต่อ 3 วินิจฉัยว่า พ.ร.บ.วิธีพิจารณาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ พ.ศ.2559 มาตรา 46 วรรคสี่ ที่บัญญัติให้ในกรณีที่อัยการสูงสุดลงลายมือชื่อรับรองในฎีกาของพนักงานอัยการว่ามีเหตุอันควรที่ศาลฎีกาจะได้วินิจฉัย ให้ถือว่าเป็นปัญหาสำคัญและให้ศาลฎีการับฎีกา ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 27 วรรคหนึ่ง และกำหนดคำบังคับให้คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ มีผลเมื่อพ้น 360 วันนับแต่วันที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัย

ข่าวน่าสนใจอื่น:

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image