ศาลให้ปล่อยตัว ‘แบม-ตะวัน’ ผอ.รพ.ธรรมศาสตร์ ยื่นคำร้อง เผยอาการป่วยวิกฤต

ศาลให้ปล่อยตัว ‘แบม-ตะวัน’ ผอ.รพ.ธรรมศาสตร์ ยื่นคำร้อง เผยอาการป่วยวิกฤต ไม่มีพฤติกรรมหลบหนี 8 เจ้าตัวขอยังไม่เซ็นรับคำสั่ง ผู้ต้องหากลุ่มทะลุแก๊ซยังไม่ได้ประกัน

เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ นพ.พฤหัส ต่ออุดม ผู้อำนวยการโรงพยาบาล (รพ.) ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ยื่นคำร้องต่อศาลอาญา ขอปล่อยชั่วคราวในคดีหมายเลขดำ อ.1237/2565 ที่พนักงานอัยการยื่นฟ้อง น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ หรือตะวัน นักศึกษาและนักกิจกรรมวัย 20 ปีเป็นจำเลย ในความผิดหมิ่นสถาบัน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และข้อหาอื่นๆ โดย ผอ.รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติอ้างถึงสถานะในฐานะเจ้าหน้าที่รัฐในสถานพยาบาลที่ได้รับมอบตัว

ผู้ต้องควบคุมภายใต้อำนาจศาลไว้ดูแลและได้รับมอบหมายจากกรมราชทัณฑ์ ขอปล่อยชั่วคราวจำเลย ซึ่งได้รายงานถึงสุขภาพของจำเลยที่อดข้าวและน้ำเพื่อเรียกร้องตามข้อเรียกร้อง ตั้งแต่เย็นวันที่ 18 มกราคมที่ผ่านมา โดยระบุถึงอาการล่าสุดวันที่ 6 กุมภาพันธ์ ด้วยว่าอาการโดยรวมของผู้ถูกควบคุมตัวมีภาวะคีโตนในเลือดสูงมากขึ้นและประสิทธิภาพการทำงานกรองของเสียของไตลดลงอย่างมาก อาจมีอันตรายถึงชีวิตได้ ซึ่งโรงพยาบาลเห็นว่าจำเลยอยู่ในสภาพที่ไม่เหมาะแก่การควบคุมตัวระหว่างพิจารณา และสุขภาพร่างกายอยู่ในภาวะวิกฤตอย่างยิ่ง

จึงขอให้ศาลพิจารณาเพิกถอนหมายขังและให้ปล่อยชั่วคราวระหว่างพิจารณาคดีโดยไม่มีเงื่อนไขตามหลักเกณฑ์ที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ในเรื่องการสันนิษฐานจำเลยเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะมีคำพิพากษา และหลักการการควบคุมผู้ต้องหาหรือจำเลยให้ทำได้เท่าที่จำเป็นเพื่อมิให้มีการหลบหนี ซึ่งจะทำให้การรักษาตัวและฟื้นฟูสภาพร่างกายของจำเลยทำได้สะดวกและลดเงื่อนไขที่อาจจะเป็นอันตรายแก่ชีวิต

ทั้งนี้ ศาลอาญาพิเคราะห์แล้วเห็นว่าจำเลยอยู่ในความดูแลรักษาของ รพ.ที่ผู้ร้องเป็นผู้ควบคุมดูแลอยู่ เมื่อผู้ร้องซึ่งเป็นนายแพทย์รายงานมาว่าจำเลยอยู่ในภาวะวิกฤตอาจเสียชีวิตได้ ประกอบกับการเข้าเยี่ยมจำเลยจากบุคคลใกล้ชิดในกรณีที่จำเลยยังอยู่ในความควบคุมดูแลของเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ต้องเป็นไปตามระเบียบ อาจจะเป็นปัญหาในการเยียวยาจิตใจของจำเลยขณะอยู่ในภาวะวิกฤต กรณีมีเหตุสมควรให้ออกหมายปล่อยจำเลยชั่วคราว มีกำหนดระยะเวลา 1 เดือน ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 71 วรรคสาม เมื่อครบเวลาปล่อยชั่วคราวแล้วให้จำเลยมารายงานตัวต่อศาล โดยให้ออกหมายปล่อยจำเลยวันนี้ และแจ้งผู้ร้องทราบด้วย

ADVERTISMENT

นอกจากนี้ ผอ.รพ.ธรรมศาสตร์ฯได้ยื่นคำร้องศาลอาญากรุงเทพใต้ เช่นเดียวกันกับกรณีของ น.ส.อรวรรณ ภู่พงษ์ หรือแบม ทั้งนี้ ศาล พิเคราะห์แล้วเห็นว่า ผู้ร้องเป็น ผอ.รพ.ธรรมศาสตรฯที่ทําการรักษาจำเลยที่ 7 ผู้ร้องจึงมิใช่ผู้มีประโยชน์เกี่ยวข้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 106 แต่เมื่อความปรากฏตามคำร้องทำนองว่า จำเลยยืนยันปฏิเสธการรักษาและแจ้งความประสงค์ที่จะรับการรักษาจาก รพ.ภายนอก โดยยังคงไม่รับประทานอาหาร

อาการโดยรวมของจําเลยที่ 7 เลวร้ายลงมากจนอาจมีอันตรายถึงชีวิตได้ เนื่องจากมีภาวะคีโตนในเลือดสูงมากขึ้นและประสิทธิภาพการทำงานกรองของเสียของไตลดลงอย่างมาก จำเลยอยู่ในสภาพที่ไม่เหมาะแก่การควบคุมตัวระหว่างพิจารณาคดีและสุขภาพร่างกายอยู่ในภาวะวิกฤตอย่างยิ่ง หากยังคงควบคุมตัวจำเลยเอาไว้มีโอกาสที่จำเลยอาจเสียชีวิต ฯลฯ ทั้งนี้ จึงน่าเชื่อว่า อาการเจ็บป่วยของจำเลยที่ 7 อยู่ในขั้นวิกฤต เช่นนี้การกำหนดเงื่อนในการปล่อยชั่วคราวใดๆ

ADVERTISMENT

ในช่วงเวลานี้ จึงมิใช่สาระอันสำคัญและจำเป็นยิ่งไปกว่าการคุ้มครองดูแลชีวิตของจำเลยที่ 7 ทั้งจำเลยที่ 7 เจ็บป่วยถึงขั้นเป็นอันตรายแก่ชีวิต โอกาสที่จำเลยที่ 7 จะก่อภัยอันตรายหรือสร้างความเสียหายหลังจากการปล่อยชั่วคราว จึงเป็นไปได้ยาก อีกทั้ง จำเลยที่ 7 เคยได้รับการปล่อยชั่วคราวมาแล้วช่วงเวลาหนึ่งและไม่มีพฤติการณ์ที่จะหลบหนี เมื่อความปรากฏต่อศาลเช่นนี้ อาศัยอำนาจตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 71 วรรคสาม และมาตรา 108 วรรคสอง จึงเห็นควรอนุญาตให้ปล่อยจำเลยที่ 7 ชั่วคราวโดยไม่มีประกัน ออกหมายปล่อยจําเลยที่ 7 และหมายแจ้งคำสั่งให้จำเลยที่ 7 และผู้ร้องทราบ กำชับให้จำเลยที่ 7 มาศาลตามที่นัดไว้แล้วด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามที่ทนายยื่นคำร้องต่อศาลอาญาขอปล่อยตัวชั่วคราว 8 ผู้ต้องหากลุ่มทะลุแก๊ซ ศาลพิจารณายังไม่ปล่อยตัวขณะที่ สถาบันปรีดี พนมยงค์ เผยแพร่แถลงการณ์ กรณีข้อเรียกร้องให้ปล่อยตัวชั่วคราว ผู้ถูกตั้งข้อหาคดีการเมือง

เวลา 18.00 น. ที่ รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความศูนย์ทนายเพื่อสิทธิมนุษยชน แถลงถึงความเห็นของ น.ส.ทานตะวัน และ น.ส.อรวรรณ ว่า เฉพาะกรณีของผู้ต้องหาทางการเมืองทั้ง 8 คน ทนายยื่นขอปล่อยตัวชั่วคราวไปตั้งแต่เมื่อวานนี้ โดยวันนี้ศาลอาญามีการประชุมกัน ก่อนมีคำสั่งว่า ไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว โดยกรณีของนายสิทธิโชค ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งลงมา ส่วนของผู้ต้องหา 8 คน กรณีครอบครองวัตถุคล้ายระเบิดที่ดินแดง ศาลอาญายังไม่ให้ประกัน

โดยแบ่งเป็น 4 คน ที่ไม่ให้ประกันทันที และมี 1 คน ที่ศาลขอให้ส่งเอกสารเกี่ยวกับเรื่องการเรียน และอีก 4 คน ที่ศาลให้สืบเสาะ สรุปว่าคนที่ตะวันและแบมเรียกร้องให้ปล่อยตัวชั่วคราว ศาลไม่ให้ประกัน ส่วนกรณีของตะวันและแบม เพิ่งทราบหลังจากศาลอาญาโทรศัพท์มาแจ้ง ว่าวันนี้ผู้อำนวยการ รพ.ธรรมศาสตร์ฯ ได้ไปยื่นหนังสือกับศาลอาญา เพื่อขอให้ยกเลิกหมายขังตะวัน แล้วไปยื่นกับศาลอาญากรุงเทพใต้พร้อมกัน เพื่อให้ยกเลิกขังแบม ซึ่งตามกฎหมายถ้ากรณีที่จำเลยที่ถูกคุมขัง มีอาการเจ็บป่วยจนอาจเป็นอันตรายต่อชีวิต ผู้ที่ดูแลอยู่ หรือราชทัณฑ์ ญาติพี่น้องมีสิทธิยื่นคำร้องขอให้ศาลปล่อยตัว

ทั้งสองคนบอกว่าผิดหวังที่ไม่ให้ประกันตัวผู้ต้องหาการเมืองที่ขอให้ปล่อยตัวชั่วคราวมาสู้คดี ส่วนกรณีที่ศาลอาญา และศาลอาญากรุงเทพใต้ให้ปล่อยตัวทั้ง 2 ก็แปลกใจว่า อีกทั้งไม่ได้ยินยอมที่จะให้ถอนประกันตัวทั้งคู่เลย เพราะความจริงก็ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวอยู่แล้ว ไปยื่นถอนประกันตนเองที่ศาล ต้องการที่จะอดอาหารและน้ำ และขังตัวเองไว้เพื่อให้กระบวนการยุติธรรมทุกระดับชั้นได้เข้าใจสิทธิที่ต้องได้รับการรับรอง คือการปล่อยตัวชั่วคราว เขาแปลกใจในสิ่งไม่ได้เป็นความประสงค์

นายกฤษฎางค์กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ดี เมื่อมีคำสั่งมาแล้ว ได้ถามว่าจะทำอย่างไรต่อ อยากให้บอกทุกคนว่ายังยืนยันที่จะอดอาหารและน้ำต่อไป เพราะยังเชื่อมั่นว่าสิ่งที่เรียกร้องเป็นไปตามหลักนิติธรรมอย่างเต็มที่ ถ้าวันนี้เจ้าหน้าที่เอาหมายปล่อยมาจะไม่เซ็นรับ

ส่วนอาการของทั้งสองคนยอมรับน้ำเกลือแต่ขอตัดสินใจก่อนว่าจะใส่สายน้ำเกลือต่อหรือดึงออก ส่วนถ้ามีอาการวิกฤต จะดำเนินการอย่างไรต่อ แล้วแต่พ่อแม่ ทนายความและหมอจะร่วมปรึกษาหารือ
เมื่อถามว่า ตะวันและแบม ยังต้องรักษาตัวที่ รพ.ธรรมศาสตร์ฯใช่หรือไม่ นายกฤษฎางค์กล่าวว่า ตอนนี้คุยกันอย่างเร็วๆ ว่าจะให้อยู่ที่นี่ก่อน เพราะโดยสภาพ เคลื่อนไหวไม่ได้ รวมทั้ง รพ.รู้รายละเอียดเกี่ยวกับคนไข้ ดังนั้น ถ้าเพื่อรักษาชีวิตต้องอยู่ที่นี่ที่เดียว

ข่าวน่าสนใจอื่น :

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image