พิธา ชูรัฐสวัสดิการ จุดแข็งก้าวไกล ลั่นถ้าทำการเมืองดี ปากท้องดีด้วยแน่นอน

‘พิธา’ ชู ‘รัฐสวัสดิการ’ เป็นจุดแข็งพรรค พาประเทศเจริญ-ลดเหลื่อมล้ำ ลั่นกาก้าวไกลประเทศไทยไม่เหมือนเดิม

เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2566 เวทีแรกของแคมเปญ “มติชน: เลือกตั้ง 2566 บทใหม่ประเทศไทย” ซึ่งจัดที่โรงแรม พูลแมน คิง เพาเวอร์ กรุงเทพฯ (รางน้ำ) ภายใต้หัวข้อ “ย้ำจุดยืน ชูจุดขาย ประกาศจุดแข็ง” ที่มีตัวแทนจาก 8 พรรคการเมืองร่วมขึ้นเวทีประชันนโยบาย

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงจุดแข็งของพรรคก้าวไกลว่า ตนรู้สึกเสียดายที่ไม่ได้มีโอกาสพูดในช่วงที่ 1 และช่วงที่ 2 เนื่องจากเป็นเหยื่อของฝุ่นพีเอ็ม2.5 จนเป็นหลอดลมอักเสบ และเสียงไม่เต็มร้อย แต่ใจเต็มร้อยแน่นอน อย่างไรก็ตาม แค่ช่วงนี้ช่วงเดียวตนสามารถตอบทุกคำถามตั้งแต่ช่วงที่ 1 และช่วงที่ 2 ทั้งการปฏิรูปกองทัพ ฝุ่นพีเอ็ม2.5 และการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำด้วยเพียงหนึ่งสไลด์ ตนสามารถตอบจุดแข็งของพรรคก้าวไกลด้วยคำเดียวคือ รัฐสวัสดิการ ที่จะทำให้การเมืองดี ปากท้องดี และมีอนาคต มาจากจุดแข็งย่อยที่เราคิดมาตลอดว่าการเมืองกับเรื่องปากท้องเป็นเหรียญเดียวกันที่แยกกันไม่ออก

เรื่องเกี่ยวกับกัญชา เรื่องเกี่ยวกับแรงงาน เรื่องเกี่ยวกับฝุ่นพีเอ็ม2.5 ถ้าอำนาจทางโครงสร้างยังไม่ใช่ คนที่เข้ามาในการเมืองมาจากการลากตั้ง ไม่ใช่การเลือกตั้ง การใช้ภาษีของประชาชนเพื่อแก้ปัญหาปากท้องอย่างยั่งยืนจึงเป็นไปไม่ได้ ตนไม่เชื่อว่าประเทศไทยจะทำเหมือนเมื่อ 40 ปีที่แล้วได้ แต่เราต้องมองไปถึงอนาคตว่า ประเทศจะต้องเจริญเติบโต และลดความเหลื่อมล้ำไปพร้อมกันได้ เราไม่ได้มองแค่ว่า จุดแข็งให้กลายเป็นโอกาส แต่เรามองจุดอ่อนให้เป็นโอกาสด้วย ทั้งหมดนี้สามารถย่อยออกมาได้เป็นรัฐสวัสดิการ

Advertisement

นายพิธากล่าวว่า เมื่อพูดถึงคำว่ารัฐสวัสดิการ เราจะนึกถึงประเทศแถบยุโรปที่สวัสดิการดี ภาษีแพง แรงงานได้ค่าแรงดี แต่ทั้งหมดไม่ได้มีแค่นี้ เพราะความจริงคือเจตจำนงทางการเมือง การต่อสู้ของพี่น้องแรงงาน การที่พรรคใดพรรคหนึ่งได้ ส.ส.ในสภามากเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงงบประมาณ การเสนอรีดงบกองทัพแปลงมาเป็นสวัสดิการ คือคำพูดของประธานาธิบดีบิล คลินตัน ของสหรัฐอเมริกา เมื่อปี ค.ศ.1994 เพราะเห็นว่าความท้าทายเปลี่ยนแปลงไปแล้ว

เช่นเดียวกับไทย หลายพรรคการเมืองคิดว่าเบี้ยผู้สูงอายุต้องเป็น 3,000 บาทต่อเดือนแบบถ้วนหน้า เพราะทุกวันนี้เขาได้กันเดือนละ 600-700 บาท หาร 30 วัน ตกวันละประมาณ 20 บาท ถ้าคิด 3 มื้อ ตกมื้อละ 7 บาท เท่ากับไข่ต้ม 1 ฟอง เราจะเลี้ยงดูพ่อแก่แม่เฒ่าที่สู้มาก่อนเราด้วยไข่ต้ม 1 ฟองหรือ เราจึงต้องมีวิธีหาเงิน ซึ่งพรรคก้าวไกล มีเงินจ่ายทำได้จริง โดยการรีดไขมันจากกองทัพ การลดงบกลาง การทำภาษีความมั่งคั่ง รวมถึงต้องปรับโครงสร้างและปฏิรูปเรื่องต่างๆ ใครที่บอกว่าเป็นไปไม่ได้ต้องคิดใหม่ ที่สำคัญเลือกก้าวไกล เพื่อให้ไทยก้าวหน้า

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image