บิ๊กตู่ เย้ยพวกแลนด์สไลด์ ระวังเจ็บตัว สไลด์ออกนอกเลน โวเป็นสุภาพบุรุษ ให้อภัยศรัณย์วุฒิ

“บิ๊กตู่” ลั่นไม่ขอประกาศแข่งแลนด์สไลด์กับใคร ‘เย้ย’ระวังจะสไลด์ออกนอกเลนเจ็บตัว ‘คุย’ผมเป็นสุภาพบุรุษให้อภัย “ศรัณย์วุฒิ” หลังเข้าขอขมาหลังเคยด่ากราดในสภา ปัดกระแสข่าวไม่มีการเลือกตั้ง บอกข่าวลือก็คือข่าวลือ ไม่ขอพูดถึง ‘สมศักดิ์-สุริยะ’

เมื่อเวลา 10.10 น.วันที่ 24 มีนาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานในพิธีมอบรางวัลรัฐวิสาหกิจดีเด่นปี 2564 โดยเมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าจะมีการเชิญ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคลัง ร่วมงานที่พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ด้วยหรือไม่ว่า เดี๋ยวรอฟังก่อน แต่ก็ช่วยงานกันอยู่แล้ว ซึ่งในอนาคตก็คงต้องรอก่อน เพราะอนาคตก็คืออนาคต วันนี้ยังมีเวลาที่ยังต้องทำงานร่วมกันอยู่ตรงนี้ ตนเองก็อยู่ในฐานะสองบทบาทต้องระมัดระวังอย่างเต็มที่ เพราะตนยังเป็นนายกฯด้วย และวันนี้อำนาจต่างๆในการรักษาการมีจำกัดมีข้อห้ามในหลายประเด็น ก็อาจจะทำให้งานมีปัญหาล่าช้าไปบ้างในบางอย่าง แต่ทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับการเลือกตั้งว่าใครจะเป็นรัฐบาลต่อไป

“ผมไม่ได้รังเกียจใครอยู่แล้ว ก็แล้วแต่ ประเทศไทยไม่ใช่ของผม เป็นของคนไทยทุกคน”

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีการปรับกลุยุทธ์ลงพื้นที่หาเสียงอย่างไรบ้าง เพราะนายไตรรงค์ สุวรรณคีรี ประธานที่ปรึกษาพรรครวมไทยสร้างชาติ ระบุว่า ต้องการให้ พล.อ.ประยุทธ์ลาราชการ และไปช่วยพรรคหาเสียงมากขึ้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็ตั้งใจอยู่แล้วว่า จะลาราชการและเตรียม พร้อมที่จะลาอยู่แล้ว ซึ่งจากนี้ต่อไปก็คงต้องลางานราชการมากขึ้น ในเมื่อกฎหมายกำหนดไว้เราก็ต้องลา มันจะฝืนไปได้อย่างไร เมื่อกฎหมายกำหนดไว้อย่างนั้นก็ต้องทำเช่นนั้น ลงพื้นที่ก็ต้องลาไป

Advertisement

เมื่อถามว่า หลังวันที่ 25 มีนาคมที่ จะมีการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครทั่วประเทศ และเปิดแคนดิเดตนายกฯ รวมถึงการประชุมใหญ่สามัญประจำปีของพรรค หลังจากนี้จะมีแผนลงพื้นที่ทันทีเลยหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ ​กล่าวว่า แผนต่างๆเป็นเรื่องของพรรคที่เขาวางไว้แล้ว หลังเปิดตัวในวันที่ 25 มีนาคม ก็มีกำหนดที่จะไปหาเสียงในแต่ละพื้นที่

“ผมจะไปพูดในเรื่องที่ผมทำไปแล้ว และจะทำอะไรต่อ รวมทั้งจะมีอะไรที่จะทำใหม่บ้าง เราจะต้องแก้ปัญหาต่างๆให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของโลกในปัจจุบัน เราต้องมองอนาคตในการทำงานปัญหาเดิมเราก็ต้องแก้ ทั้งรายได้ของประชาชนผู้มีรายได้น้อยเราจำเป็นต้องแก้ไขให้เกิดความยั่งยืน มีการพัฒนาตัวเองต่างๆเป็นสิ่งที่เราต้องทำในการแก้ไขปัญหาเดิมๆให้ได้ ทั้งความยากจน ความเหลื่อมล้ำ ขณะเดียวกันเราก็ต้องเดินหน้าประเทศอีกขาหนึ่งเพื่อให้มีรายได้กลับมา เพื่อดูแลประชาชนกลุ่มเปราะบางเหล่านี้ และพัฒนาประเทศให้มีรายได้สูงขึ้น อนาคตเราต้องทำแบบนี้ ถ้าทำเฉพาะตรงนี้อย่างเดียวแล้วไม่มองอนาคตไม่มองส่วนประกอบทั้งหมดประเทศก็ไปไม่ได้” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีบางพรรคประกาศต้องการจะแลนด์สไลด์จากจำนวน ส.ส.ของแต่ละพรรค ทาง รทสช.ตั้งเป้าที่จะแลนด์สไลด์ด้วยหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ทุกคนก็หวังอย่างนั้น แต่ทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับประชาชนใช่หรือไม่

Advertisement

“แต่ไอ้คำว่า แลนด์สไลด์นั้นจะสไลด์ไปถึงไหนก็ยังไม่รู้ เพราะถ้าลงไม่ดีก็จะสไลด์ออกนอกเลนไป เจ็บตัวไปอีก เพราะฉะนั้นผมจะไม่พูดว่าจะสไลด์หรือไม่สไลด์ ผมขอแค่ให้ทุกคนเข้าใจและมองว่าประเทศไทยอยู่มาถึงวันนี้ด้วยอะไร แล้วจะอยู่ต่อไปกันอย่างไร เราต้องมีรัฐบาลที่ไว้ใจได้หรือไม่ มีรัฐบาลที่นึกถึงคนที่มีรายได้น้อยหรือไม่ พร้อมดูแลกลุ่มเปราะบางหรือไม่ และจะดูแลอย่างไร ซึ่งเราได้สตาร์ทเริ่มต้นมาแล้ว ครั้งนี้ผมพูดในนามรัฐบาลด้วย เพราะนโยบายของหลายพรรคการเมืองก็ตรงกัน ส่วนใหญ่เป็นเรื่องของรัฐสวัสดิการ ซึ่งถ้าเราทำกันจนมากเกินไปประเทศก็อาจเสียหายเยอะ ทำไมเราจะไม่อยากดูแล

“ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมารัฐบาลก็พยายามหามาตรการที่เหมาะสมไม่ให้มีผลกระทบต่อรายได้และงบประมาณของแผ่นดินในเรื่องของวินัยการเงินการคลัง ทำให้สถานการณ์ต่างๆดีขึ้นจนถึงปัจจุบัน แต่ก็ยังไม่ปลอดภัยเพราะสถานการณ์ทางด้านเศรษฐกิจการคลังของโลกมีความผันผวนตลอดเวลา โดยเฉพาะการขึ้นดอกเบี้ยต่างๆของธนาคารกลางทั้งยุโรปและสหรัฐฯวันนี้ก็ยังมีปัญหามากพอสมควร เราต้องเตรียมมาตรการรองรับ ซึ่งขณะนี้กระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย และรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องได้ติดตามกำกับดูแลใกล้ชิด ทั้งภาคการเงินการธนาคารทั้งหมดก็ยังถือว่าเรายังปลอดภัยอยู่

“แต่ก็ต้องระวังอนาคตด้วย เพราะโลกผันผวนและซับซ้อนมาก หลายเรื่องมีความทับซ้อนอยากจะให้ฟังในเรื่องเหล่านี้ไว้บ้าง อาจจะฟังดูแล้วไม่ค่อยรู้เรื่องตนเองก็ไม่ใช่คนที่รู้มาก่อนก็ต้องศึกษาทำความเข้าใจ สอบถามจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อที่จะเดินไปข้างหน้า เพราะนี่คือหน้าที่ของนายกฯในการบริหารประเทศจะต้องคำนึงถึงประชาชนทั้งหมด ตนไม่อยากจะพูดซ้ำจากที่พูดไป โดยเฉพาะเรื่องของการเมืองเพราะต้องระวังบทบาทของตัวเองด้วยในวันนี้ แต่วันข้างหน้าก็ไม่อยากให้เกิดความเข้าใจผิดหรือผิดพลาดในการชี้แจงเพราะเป็นคนละบทบาท” พล.อ.ประยุทธ์ ระบุ

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณี นายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ อดีตส.ส.อุตรดิตถ์ ที่ได้เข้าไปขอขมาและสมัครสมาชิกพรรครทสช. ถือเป็นสัญญาณที่ดีหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ผมเป็นสุภาพบุรุษอยู่แล้ว และผมก็เข้าใจดีว่าเวลาเขาทำงานในสภา ซึ่งทุกคนก็เห็นอยู่แล้วก็ต้องทำได้ทุกอย่าง พูดได้ทุกอย่างตามความเชื่อของเขา แต่เมื่อวานนายศรัณย์วุฒิก็มาขอโทษ ซึ่งผมก็เข้าใจบทบาทในสภาเมื่อเขาเป็นฝ่ายค้านก็พยายามค้านให้ได้มากที่สุด มันอาจจะเกินเลยไปบ้างผมก็ให้อภัยได้ เมื่อวานเขาก็มาพูดว่าเขายินดีที่จะมาร่วมงานที่นี่ ไม่ได้โดนใครบังคับอะไรทั้งสิ้น แต่เขาเห็นว่า ผมเป็นคนที่เชื่อถือได้จากการตรวจสอบของเขามาแล้ว มันไม่มีข้อเท็จจริงอะไรทั้งสิ้น เขาจึงอยากกลับมาและมาช่วยเราตรงนี้เพื่อให้ประเทศไทยเดินไปข้างหน้า ก็ให้อภัยกัน”

ผู้สื่อข่าวถามถึงความเคลื่อนไหวของ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน และ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตแกนนำพรรคพลังประชารัฐ ที่ย้ายไปสวมเสื้อพรรคเพื่อไทย พล.อ.ประยุทธ์ เดินออกจากวงให้สัมภาษณ์พร้อมกล่าวว่า เอาละอย่าไปพูดถึงเขาเลย

ผู้สื่อข่าวถามว่า อยากให้นายกฯสยบข่าวลือที่ว่าจะไม่มีการเลือกตั้งเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่มีข่าวลือแบบนั้น ข่าวลือก็คือข่าวลือ จากนั้นพล.อ.ประยุทธ์ได้เดินขึ้นไปห้องทำงานตึกไทยคู่ฟ้าทันที

ย้อนอ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image