‘ยืนหยุดขัง’ ต่อเนื่อง 310 วัน ครบ 30 วัน ‘หยก’ วัย 15 โดนควบคุมตัวจากคดี ม.112
เมื่อวันที่ 27 เมษายน ที่บริเวณหน้าศาลฎีกา ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการทำกิจกรรม “ยืนหยุดขัง” เพื่อเรียกร้องสิทธิประกันตัวให้ผู้ต้องหาคดีการเมือง โดยในวันนี้เข้าสู่วันที่ 30 ของการถูกควบคุมตัว ‘หยก ธนลภย์’ เยาวชนอายุ 15 ปี ในคดีมาตรา 112 จากการแสดงออกในกิจกรรมทางเมือง 13 ตุลา หวังว่าสายฝนจะพาล่องไป ที่บริเวณเสาชิงช้า เมื่อ พ.ศ.2565 (อ่านข่าว นักกิจกรรม-ทนาย แถลงหน้าศาลเยาวชน คาใจ ‘หยก’ วัย 15 ถูกรวบทั้งที่ยื่น ‘ตารางสอบ’ ให้ตร.-ไม่คิดหนี)
เวลา 17.30 น. ประชาชนจำนวนหนึ่งทยอยเดินทางสมทบบนทางเท้าหน้าศาลฎีกา โดยคล้องป้ายห้อยคอมีข้อความเรียกร้องให้ปล่อยตัวเพื่อนในเรือนจำ
นายพันธ์ศักดิ์ ศรีเทพ หรือ พ่อน้องเฌอ อายุ 56 ปี แกนนำกลุ่ม ‘พลเมืองโต้กลับ’ กล่าวว่า วันนี้กิจกรรมยืนหยุดครั้งรอบล่าสุด ดำเนินต่อเนื่องมา 310 วันแล้ว โดยถือเป็นรอบที่ 3 นับแต่แกนนำกลุ่มราษฎรโดนจับกุม โดยไม่ได้รับสิทธิในการประกันตัว
“จริงๆ มันย้อนไปตั้งแต่ปี 2558-2559 ที่มีรัฐประหาร พลเมืองโต้กลับก็มายืนเรียกร้องสิทธิการประกันตัวซึ่งเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานให้กับผู้ที่ถูกเผด็จการทหารจับเข้าค่ายบ้าง ขึ้นศาลทหารบ้างโดยไม่ได้รับสิทธิประกันตัวเราก็ออกมาเรียกร้องทำกิจกรรมด้วยการยืนเฉยๆต่อเนื่องมาจนถึงเมื่อปี 2564 แกนนำกลุ่มราษฎรที่เคลื่อนไหวในปี 2563 ทยอยถูกฟ้อง ไม่ได้สิทธิในการประกันตัว เราก็มาเรียกร้องสิทธิให้เขาเพราะมองว่าตามรัฐธรรมนูญปี 60 ถ้ายังไม่มีการตัดสินว่าผิด เราจะปฏิบัติเหมือนว่าเขาเป็นผู้กระทำผิดแล้วไม่ได้ เพราะฉะนั้นควรต้องให้สิทธิการประกันตัว มันเป็นคดีการเมือง การที่จำเลยจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานหรือหลบหนี มันไม่มีอยู่แล้ว เพราะส่วนใหญ่ก็ไปมอบตัวด้วยตัวเอง ไม่ได้ไปถูกจับกุมอะไรที่ไหน” นายพันธ์ศักดิ์ กล่าว
นายพันธ์ศักดิ์ กล่าวด้วยว่า ในกรณีของหยก ส่วนตัวมองว่า ม.112 ถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองในการทำลายฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลด้วยข้ออ้างต่างๆนานา นอกจากนี้ ‘หยก’ ตัดสินใจปฏิเสธกระบวนการยุติธรรม เพราะมองว่าไม่ยุติธรรม จึงไม่ยอมรับกระบวนการ
“น้องหยกเข้มแข็งอยู่แล้ว เขาทราบว่าจะต้องเจออะไรบ้าง แต่ก็ยืนยันจะต่อสู้ต่อไป ขอให้น้องปลอดภัย และรักษาสุขภาพ” นายพันธ์ศักดิ์กล่าว
ทั้งนี้ ในเวลา 18.42 น. เมื่อยืนครบกำหนด 1 ชั่วโมง 12 นาที ผู้เข้าร่วมกิจกรรมชู 3 นิ้ว พร้อมกล่าว ‘ปล่อยเพื่อนเรา ปล่อยผู้บริสุทธิ์’ และ ‘ศักดินาจงพินาศ ประชาราษฎร์จงเจริญ’