ครู กศน.ลำบากใจ ต้องทำโพลเลือกตั้ง อดีตอาจารย์รับมีจริง วอนอย่าเอาการเมืองมาเกี่ยว
จากกรณีเฟซบุ๊กแฟนเพจ พรรคก้าวไกล ได้โพสต์เอกสารร้องเรียน จากข้าราชการ กศน. ว่าถูกสั่งให้ทำโพลในชุมชน โดยมิใช่ภารกิจหลักของหน่วยงานในสำนักงาน และผลโพลมิได้เปิดเผยต่อสาธารณชน
- ร้องก้าวไกล ถูก ‘บิ๊กกศน.’ สั่งทำโพลลับในชุมชน สงสัยส่อเอื้อบางพรรคหรือไม่
- ‘ครูกศน.’ รับเจอสั่งจริง ลงชุมชนทำโพลลับ อึดอัดหวั่นผลลัพธ์ ทำชาวบ้านถูกข่มขู่
นางสาวนี (นามสมมุติ) ครู กศน.รายหนึ่งใน จ.เชียงใหม่ เปิดเผยถึงกรณีข้าราชการร้องพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ว่าถูกฝ่ายบริหาร กศน.ระดับสูงสั่งให้ทำโพลเลือกตั้ง ส.ส.ว่า ส่วนตัวรู้สึกอึดอัด ลำบากใจกับนโยบายดังกล่าว เพราะเป็นข้าราชการต้องวางตัวเป็นกลางทางการเมือง ที่สำคัญไม่ตกเป็นเครื่องมือฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง แต่ในฐานะครู และคณะกรรมการการศึกษาระดับตำบล ต้องสนองนโยบายดังกล่าว โดยให้ความรู้แก่นักศึกษา กศน.ส่วนใหญ่เป็นประชาชนทั่วไป ตามหลักสูตรส่งเสริมการปกครองในระบอบประชาธิปไตย พร้อมให้คำแนะนำประชาชน หรือผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ในฐานะวิทยากรที่เคยผ่านการอบรมการเลือกตั้งของ กกต. เพื่อเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจเลือกตั้งดังกล่าวไปสู่สาธารณชนด้วย
“ในฐานะผู้ปฏิบัติ ต้องวางตัวเป็นกลางไม่สามารถชี้นำใครได้ เพราะแต่ละพื้นที่ไม่เหมือนกัน บางพื้นที่สามัคคี ปรองดอง บางพื้นที่ขัดแย้ง อาจนำไปสู่ความรุนแรงได้ ดังนั้น ไม่สามารถเข้าข้างใครได้ เพราะครู กศน.ไม่ต้องการสร้างศัตรูกับใครหรือพรรคไหน มีหน้าที่และภารกิจส่งเสริมและพัฒนาการศึกษาเท่านั้น” นางสาวนีกล่าว
นางสาวนีกล่าวอีกว่า ไม่ว่าการทำโพล หรือกิจกรรมอื่นใดที่อยู่นอกเหนือภารกิจหน้าที่ ครู กศน.ต้องไม่เอาตัวไปเสี่ยง และกระทำหมิ่นกฎหมาย อาจถูกตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัย และถูกดำเนินคดีได้ ดังนั้น จำเป็นต้องปลอดภัยไว้ก่อน หากทำไม่ถูกต้องอาจมีผลเสียตามมาภายหลังได้
ขณะที่ นางขนิษฐี (ขอสงวนนามสกุล) อดีต ผอ.กศน.แห่งหนึ่งใน จ.นครศรีธรรมราช เปิดเผยถึงกรณีที่ครู กศน.ทำหนังสือร้องเรียนถึงพรรคก้าวไกลว่า เรื่องการทำโพลมีบ่อยมาก เพราะ กศน.เป็นหน่วยงานที่ใกล้ชิดประชาชนมากที่สุด และคนที่ว่าจ้างทำโพลก็มีทั้งหน่วยงานภาครัฐ และเอกชน สำรวจประชาชนในแต่ละหัวข้อนั้นๆ และเมื่อทำโพลเสร็จก็เป็นชิ้นงานสำรวจของหน่วยงานนั้นๆ จึงไม่แปลกที่ผู้ว่าจ้างจะเป็นของพรรคการเมืองใดก็ได้ เมื่อสำรวจแล้วพรรคนั้นก็เป็นเจ้าของโพลแต่ละโพล มันอยู่ที่ว่าพรรคการเมืองต้องการหัวคะแนนเป็น คน กศน.ด้วยหรือไม่
“หากเป็นช่วงการเลือกตั้ง ทุกพรรคก็จะมุ่งหน้ามาให้ กศน.ทำโพล มีการจ่ายเบี้ยเลี้ยงให้ครู ให้นักเรียน ก็จบกันไป และการทำโพลจะต้องไม่มีการเลือกข้าง เลือกพรรค คนของเรา พรรคของเรา คนทำโพลจะต้องทำหน้าที่เป็นคนเก็บข้อมูลและผลสำรวจเท่านั้น ไม่ได้เป็นผู้ชี้นำ ที่ผ่านมาเป็นเช่นนั้น” นางขนิษฐีกล่าว
นางขนิษฐีกล่าวอีกว่า ปัจจุบันมีเม็ดเงินเข้ามาเกี่ยวข้อง ได้มาก้อนใหญ่แต่ไม่มีการจ่ายลงมายังส่วนล่าง มันก็เลยเกิดปัญหา คนของพรรคนั้น คนของพรรคนี้ จะย้ายลูก ย้ายหลาน เลื่อนตำแหน่ง ล้วนมีอิทธิพลต่อการทำโพลแทบทั้งสิ้น ทุกอย่างจึงขึ้นอยู่ที่ข้างบนเท่านั้น หากเปิดไฟเขียว ทุก กศน.ที่สังกัดเขต เขาก็จะดำเนินการทำโพลเองจนเสร็จสิ้นกระบวนการ ส่วนค่าจ้างการทำโพลอยู่ที่การตกลงระหว่างผู้จ้างกับผู้ทำโพล ที่ผ่านมาจึงไม่เกิดปัญหา
“ครั้งนี้การเมืองค่อนข้างรุนแรง และต่างแย่งชิงความได้เปรียบ แย่งชิงผลประโยชน์ จึงเกิดปัญหามีการฟ้องร้องขึ้นมา จึงขอเรียนให้ทราบว่า กศน.ไม่ได้เป็นของพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง กศน.เป็นสถาบันการศึกษาที่มุ่งเน้นให้เด็กได้มีโอกาส ได้เรียนรู้ประสบการณ์ด้วยตัวเอง โพลจึงมิใช่การเปลี่ยนแปลงอะไรใน กศน. แต่อย่าเอาการเมืองมาเกี่ยวเนื่องกับ กศน. คน กศน.มาเป็นฐานเสียงของนักการเมือง อย่าถึงต้องด่าลูกน้องทางไลน์กลุ่ม หรือไลน์ส่วนตัว อย่าบังคับลูกน้องต้องเลือกพรรคนั้นพรรคนี้ และครูอย่าออกคำสั่งกับเด็กต้องเลือกพรรคนั้นพรรคนี้ ให้เป็นองค์กรอื่นที่มิใช่องค์กร กศน.” นางขนิษฐีกล่าว
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง