เครือข่ายแรงงานฯ จัดยาแรงตอกกลับ ‘สุชาติ’ ประณามสื่อฝั่งขวาปลุกปั่น หลังขู่ฟ้อง 112 – ถอนใบอนุญาต ‘ชาวกัมพูชา’ เหตุ ปราศรัยม็อบกรรมกรสากล
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 9 พฤษภาคม ที่หน้ากระทรวงแรงงาน เครือข่ายแรงงานเพื่อสิทธิประชาชน พร้อมด้วยเครือข่าย ร่วมอ่านแถลงการณ์ตอบโต้ ภายหลัง นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีกระทรวงแรงงาน แสดงท่าทีว่าจะฟ้องกฎหมายอาญา มาตรา 112 และถอนใบอนุญาตทำงานของแรงงานข้ามชาติ ที่เข้าร่วมการชุมนุมในวันกรรมกรสากล 1 พฤษภาคมที่ผ่านมา
โดยมีตัวแทนเครือข่ายแรงงานฯ นำโดย น.ส.ธนพร วิจันทร์ หรือ ไหม และนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข แกนนำกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย ร่วมแถลงถึงความสำคัญของวันแรงงานสากลและสิทธิเสรีภาพของประชาชนทุกคนในการแสดงออกทางการเมือง เพื่อชี้แจงปกป้องพี่น้องแรงงานทุกสัญชาติ ขจัดข่าวปลอมที่จงใจปลุกปั่นและโต้กลับเหล่าวาทกรรมคลั่งชาติ
น.ส.ธนพรกล่าวว่า เราขอแถลงชี้แจง กิจกรรมวันกรรมกรสากล เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคมที่ผ่านมา ตามที่ นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีกระทรวงแรงงาน ออกมาข่มขู่ถอนใบอนุญาตทำงานของแรงงานข้ามชาติ และปลุกปั่นสร้างความกลัว เพื่อฟ้องปิดปากด้วยกฎหมายมาตรา 112 โดยเครือข่ายแรงงานเพื่อสิทธิประชาชนและองค์กรร่วม ขอชี้แจงว่า เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคมที่ผ่านมาทางคณะได้จัดกิจกรรมเดินขบวนเรียกร้องสิทธิแรงงานตามปกติเหมือนทุกปี โดยแบ่งเป็นกิจกรรมช่วงเช้า ที่บ้านพิษณุโลกถึงสะพานชมัยมรุเชฐ และช่วงบ่ายถึงเย็น ที่สี่แยกราชประสงค์ถึงบริเวณหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ซึ่งในปีนี้เนื่องจากเป็นช่วงใกล้เลือกตั้ง องค์กรผู้จัดกิจกรรมจึงมิได้เรียกร้องเฉพาะคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นในในรั้วที่ทำงานของเราเท่านั้น แต่ได้พูดถึงข้อเสนอเชิงนโยบายอื่นๆ ในระดับประเทศที่เกี่ยวข้องและสำคัญต่อผู้ใช้แรงงาน ดังปรากฏบนป้ายที่พูดถึงรัฐสวัสดิการและกฎหมายมาตรา 112 ดังที่ปรากฏในข่าว
“เนื่องจากภายหลังจบกิจกรรม มีการปลุกระดมด้วยข้อมูลเท็จและข้อมูลที่บิดเบือนจากสื่อมวลชนฝ่ายขวาจัดเป็นจำนวนมาก รวมถึงรัฐมนตรีกระทรวงแรงงานได้ทำการปลุกระดมผ่านเพจส่วนตัวให้เกิดความหวาดกลัว ว่าแรงงานข้ามชาติที่เข้าร่วมกิจกรรมจะถูกฟ้องปิดปากด้วยกฎหมายอาญามาตรา 112 อีกทั้งข่มขู่ว่าจะถอนใบอนุญาตทำงาน
นอกจากนี้ ยังมีการสั่งการให้กรมจัดหางานตามหาตัวแรงงานที่เข้าร่วมกิจกรรมวันกรรมกรสากล และสั่งการให้ตำรวจโทรข่มขู่แรงงานข้ามชาติหลายต่อหลายครั้ง ยังไม่นับผู้นำแรงงานบางรายที่สนับสนุนให้มีการจัดการขั้นเด็ดขาดต่อแรงงานไทยที่เป็นองค์กรร่วมจัดกิจกรรมและกล่าวหาว่าแรงงานข้ามชาติที่ร่วมกิจกรรมเป็นคนไม่รู้เรื่องราว หวังเพียงแค่ได้ค่าเดินทางมาร่วมกิจกรรมเท่านั้น” น.ส.ธนพรกล่าว
น.ส.ธนพรกล่าวต่อว่า ในฐานะภาคีผู้ออกแถลงการณ์ขอชี้แจงว่า ในวันที่จัดกิจกรรมแรงงานข้ามชาติชาวกัมพูชาได้ปราศรัยในเรื่องการถูกเหยียดเชื้อชาติและความเจ็บปวดจากการถูกเลือกปฏิบัติอย่าง 2 มาตรฐานในฐานะแรงงานต่างด้าว โดยมีป้ายปฏิรูปสถาบันฯ สร้างและรัฐสวัสดิการที่ถือโดยผู้ชุมนุมชาวไทยจากกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตยเป็นฉากหลัง ซึ่งไม่เกี่ยวกับเนื้อหาที่แรงงานข้ามชาติรายดังกล่าวได้พูดถึง และในโลกสากลการชุมนุมในวันกรรมกรสากลเพื่อบอกเล่าความเดือดร้อนของผู้ใช้แรงงาน รวมถึงการยื่นข้อเรียกร้องเพื่อชีวิตที่ดีกว่าเป็นเรื่องปกติที่แรงงานจะตระหนักถึงสิทธิของตัวเองที่พึงกระทำได้ ไม่ใช่เรื่องอกตัญญูต่อชาติ หรือเป็นความไม่เจียมตัวอย่างที่สื่อฝ่ายขวาจัดนำเสนอ
“แรงงานข้ามชาติทุกคนที่เข้าร่วมขบวนการดังกล่าว เป็นแรงงานเข้าเมืองโดยถูกกฎหมายได้สร้างคุณูปการอย่างยิ่งต่อเศรษฐกิจไทยและมีความชอบธรรมอย่างที่สุด ที่จะมีพื้นที่บอกเล่าความเดือดร้อนของตัวเองในวันกรรมกรสากล เราเชื่อว่าคนไทยอื่นๆ ที่มาร่วมขบวนกับเราก็มีความชอบธรรมที่จะถือป้ายปฏิรูปฯ สร้างรัฐสวัสดิการเพื่อบอกเล่าความเดือดร้อนของตัวเองไม่ต่างกัน
ภาคีผู้ออกแถลงขอยืนยันว่าที่ผ่านมากฎหมายมาตรา 112 เป็นกฎหมายที่ลิดรอนสิทธิเสรีภาพการแสดงความคิดเห็น และถูกนำมาใช้เพื่อเป็นเครื่องมือกำจัดศัตรูทางการเมือง รวมถึงกลั่นแกล้งประชาชนผู้ใช้แรงงานมายาวนาน ผลกระทบการฟ้องปิดปากไม่เพียงแค่ทำลายเสรีภาพการแสดงออกทางการเมืองเท่านั้น แต่ยังกระทบถึงปากท้องของพี่น้องแรงงานเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการจับกุม ฟ้องร้องผู้บริสุทธิ์ กลั่นแกล้งให้ผู้ต้องหามีภาระทางการเงิน การเดินทางไปขึ้นศาล หรือการขู่ฟ้องเพื่อปิดปากไม่ให้แรงงานข้ามชาติได้ออกมาพูดเรื่องปัญหาความเดือดร้อนในฐานะแรงงาน ที่ไม่เกี่ยวกับสถาบันฯ ก็พูดไม่ได้ เพราะ รมว.กระทรวงแรงงาน ขู่จะเพิกถอนใบอนุญาตทำงาน” น.ส.ธนพรกล่าว
จึงขอเรียกร้องให้ นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีกระทรวงแรงงาน และสื่อมวลชนฝ่ายขวา ออกมาขอโทษต่อหน้าสาธารณชนเป็นเวลา 7 วัน กับการกระทำที่เหยียดเชื้อชาติ ข่มขู่จะถอนใบอนุญาตทำงาน และปลุกปั่นให้คนที่ทำงานเกิดความหวาดกลัว รวมถึงเรียกร้องต่อกระทรวงแรงงานและรัฐบาล ให้มีมาตรการเชิงรุกเพื่อปกป้องสิทธิมนุษยชนและสิทธิแรงงานของแรงงานข้ามชาติให้ได้รับสิทธิประโยชน์เท่าเทียมกับแรงงานไทย ยกเลิกระบบนายหน้ากินหัวคิว ยกเลิกการเก็บส่วยแรงงานข้ามชาติภายใต้หลักการคนเท่ากัน มีสิทธิแรงงานเท่ากันทุกคนทุกสัญชาติ และมีสิทธิเสรีภาพตามระบอบประชาธิปไตย
“เราขอประณาม นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีกระทรวงแรงงาน สื่อมวลชนฝ่ายขวาจัด ที่ปลุกระดมสร้างความเกลียดชังต่อพี่น้องแรงงานเพียงเพราะมีสัญชาติ หรือความเชื่อทางการเมืองไม่เหมือนกับตน อธิบดีกรมจัดหางาน เจ้าหน้าที่กระทรวงแรงงาน และตำรวจทุกนายที่เกี่ยวข้องกับการข่มขู่คุกคามแรงงานข้ามชาติ และขอประณามผู้นำแรงงานทุกคนที่กล่าวอ้างแรงงานทั้งผองเป็นพี่น้องกัน แต่กลับสนับสนุนให้มีการฟ้องปิดปากแรงงานข้ามชาติเพื่อหวังประจบประแจงรัฐมนตรีแรงงาน เป็นการกระทำที่ไม่มีศักดิ์ศรี ไม่มีกระดูกสันหลัง ไม่มีอุดมการณ์ การกดขี่เอารัดเอาเปรียบผู้ใช้แรงงานเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้อย่างยิ่ง สำหรับบุคคลที่เรียกร้องตัวเองว่าเป็นนักการเมือง รัฐมนตรี สื่อมวลชน ตำรวจ เจ้าหน้าที่กระทรวงแรงงาน และผู้นำแรงงานด้วยความเคารพในสิทธิแรงงานและประชาธิปไตย” น.ส.ธนพรกล่าว
อ่านข่าว : กลุ่มแรงงานเผาหุ่นฟางกลางสะพานชมัยฯ ประกาศเลือกพรรค ปชต. สั่งสอนเผด็จการให้สูญพันธุ์
‘สุชาติ’ รับปากดูแลผู้ใช้แรงงานทุกกลุ่ม เผยบางเรื่องไม่สำเร็จเพราะรัฐบาลหมดวาระ
รมว.สุชาติ รับ 7 ข้อเรียกร้องผู้ใช้แรงงาน ยันมุ่งยกระดับศักยภาพ-พัฒนาชีวิตทุกมิติ
