ส.ว.ลั่น ‘ไม่ทวนหรอกกระแส’ ยัน สบายใจได้ ปชช.คือเสียงสวรรค์ แต่ ‘เลือกนายกฯ’ ขอดูหน้านิดนึง

ส.ว.รับหนักใจ ลั่น ‘ไม่ทวนหรอกกระแส’ ยัน สบายใจได้ไม่มีทางโหวตสวน ประชาชนคือเสียงสวรรค์ แต่ ‘เลือกนายกฯ’ ขอใช้สิทธิ ดูหน้านิดนึง

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 11 พฤษภาคม ที่ห้อง Smart Classroom ชั้น 7 อาคารเกษมอุทยานิน คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ภาคีเพื่อรัฐธรรมนูญประชาธิปไตย กลุ่มสันติประชาธิปไตย สถาบันวิจัยสังคม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และสถาบันปรีดี พนมยงค์ จัดเสวนาในหัวข้อ “สมาชิกวุฒิสภาในฐานะหุ้นส่วนประชาธิปไตย”

จากนั้น เวลา 13.10 น. เข้าสู่การเสวนา โดย ดร.สถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ อดีตปลัดกระทรวงการคลัง และประธานกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านเศรษฐกิจ สภาขับเคลื่อนประเทศ, นายคำนูณ สิทธิสมาน อดีตสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ และสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ, นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ อดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ และประธานเครือข่ายชาวนาภาคเหนือ, นายเฉลิมชัย เฟื่องคอน อดีตสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ และอดีตผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ และนายมณเฑียร บุญตัน อดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ และกรรมการว่าด้วยสิทธิคนพิการแห่งสหประชาชาติ ดำเนินรายการโดย ดร.เอกพันธุ์ ปิณฑวณิช และ น.ส.ณัฏฐา มหัทธนา หรือ โบว์

ในตอนหนึ่ง นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ กล่าวถึงบทบาทของ ส.ว. ต่อการเลือกตั้ง 2566 ว่า เราในฐานะที่เหลืออายุการใช้งานปีเศษๆ เมื่อมี ส.ว.ชุดใหม่มา ชุดนี้ก็จะกลับไปเลี้ยงหลาน เราอยากบอกว่า เมื่อเรามีหน้าที่เราปฏิบัคติหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ

Advertisement

“กลับมาที่ วันอาทิตย์นี้จะมีการเลือกตั้ง ประชาธิปไตยแบบไทยๆ ของเราก็จะเกิดขึ้น เราในฐานะวุฒิสมาชิกโดยเฉพาะอยู่ในพื้นที่ต่างจังหวัด รู้สึกมีความหนักใจถึงหนักใจมาก เพราะการเลือกตั้งครั้งนี้เราเห็นแล้วว่า มีการใช้เงินซื้อเสียงกันมากที่สุดในประวัติศาสตร์เท่าที่เราไปลงพื้นที่มา ฉะนั้น เมื่อนักการเมืองลงทุนไปแล้ว ได้เข้ามาเป็น ส.ส. ปฏิบัติหน้าที่ในรัฐสภา ก็จะมีการเรียกทุนคืน ถอนทุนคืนหรือไม่” นายกิตติศักดิ์กล่าว

นายกิตติศักดิ์ กล่าวต่อว่า หนักใจประการต่อมาคือ ไม่ว่า ส.ว.จะเลือกใคร ฝ่ายไหน พรรคใด หรือเลือกลุง ความขัดแย้งไม่มีทางหาย ไม่มีทางเด็ดขาด

Advertisement

“นอกจากความขัดแย้งจะไม่จบสิ้นแล้วน่าจะเพิ่มดรีกรีร้อนแรงกว่าที่แล้วมาด้วยซ้ำไป ยกตัวอย่าง เลือกตั้งครั้งนี้มี 2 ฝ่าย คืออดีตพรรคร่วมฝ่ายค้าน กับรัฐบาล ซึ่งน่าจะเป็น 2 ฝ่ายเท่านั้น ไม่ว่าฝ่ายไหนได้จัดตั้งรัฐบาลก็ดี ความขัดแย้งของคนไทยมีแน่นอน ยืนยัน ตรงนี้เป็นความรู้สึกที่ ส.ว. ยอมรับว่า อยากจะช่วยแก้ไขความขัดแย้งตรงนี้ให้ได้มากที่สุด

ดังนั้น จึงอยากกราบเรียนว่า เมื่อพี่น้องคนไทยได้ใช้สิทธิเลือกตั้งแล้ว ถ้าหากท่านตัดสินใจเลือกฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด ไม่ว่าฝ่ายค้าน หรือรัฐบาล ถ้าเลือกแล้วจัดตั้งรัฐบาลได้แล้ว ส.ว.ไม่ทวนกระแสหรอก บอกได้เลยว่า ส.ว.ก็คือหุ้นส่วนประชาธิปไตย เสียงเหมือนกับพี่น้องประชาชน ดังนั้นท่านไม่ต้องห่วงว่า ส.ว.จะไปหลับหูหลับตาโหวตให้กับเสียงข้างน้อย โดยเฉพาะเสียงข้างน้อยมากๆ ซึ่งตามกฎหมายคือ ส.ส.เกิน 250 ขึ้น ไป ส่วนนายกฯ 376 ขึ้นไป เป็นตัวเลขที่ชัดเจน” นายกิตติศักดิ์เผย

นายกิตติศักดิ์ กล่าวต่อว่า ดังนั้น ขอให้สบายใจได้ว่า ส.ว.นั้นเป็นลูกเป็นหลาน เป็นพี่น้องของประชาชนเท่านั้น ดูเสียงท่านว่าถ้าท่านตัดสินใจแล้ว ส.ว.ไม่ขัดข้อง

“แต่ครั้งที่แล้วเรามีตัวอย่างให้เห็นว่า พรรคที่ได้ ส.ส.อันดับ 1 ไม่สามารถตั้งรัฐบาลได้ ฉะนั้นตามกติกา เมื่อพรรคได้อันดับ 1 ไม่สามารถรวม ส.ส.ได้เกินครึ่ง ก็เป็นหน้าที่ของพรรคที่ได้เสียงข้างน้อยรองลงมา นี่คือเหตุผลที่ ส.ว.ต้องพิจารณาตรงนั้น พิจารณาตัดสินใจเด็ดขาด ถ้ารวม ส.ส.ได้เกินครึ่ง

ส่วนนายกฯนั้น ถ้าผู้ที่ได้รับการเสนอตัวเป็นแคนดิเดตนายกฯ ขอดูหน้าดูตาตรงนั้นนิดหนึ่ง เพราะเป็น 2 เงื่อนไข จะไปบอกว่า ใครได้มาก็โหวตๆ ไป ไม่ต้องมี ส.ว.ก็ได้ ตรงนี้ขอให้สิทธินิดนึง แต่ให้คำมั่นสัญญาว่าเสียงประชาชนคือเสียงสวรรค์ที่แท้จริงฉะนั้นพี่น้องประชาชนไม่ต้องห่วงว่า ส.ว.จะตัดสินใจผิด ไปโหวตให้กับฝ่ายที่ได้เสียง ส.ส.น้อย ไม่มีทาง” นายกิตติศักดิ์กล่าวยืนยัน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image