‘ทนายด่าง’ ยกเคสเทียบ – ชมตำรวจนครปฐม ‘กล้าหาญ’ ใช้ดุลพินิจถูกต้อง ผิดหวังหลังอ่านคำชี้แจงศาลเยาวชนฯ ปม ‘หยก’
สืบเนื่องกรณี น.ส.ธนลภย์ ผลัญชัย หรือหยก เยาวชนอายุ 15 ปี กลุ่มนักเรียนล้ม ผู้ต้องหา ม.112 จากการชุมนุมเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2565 ถูกเซ็นให้ควบคุมตัวภายในศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนบ้านปรานี อ.สามพราน จ.นครปฐม โดยขณะนี้ปฏิเสธกระบวนการยุติธรรมเนื่องจากเจ้าตัวเห็นว่าเป็นการจับกุมโดยไม่ชอบตามกฎหมาย จึงถูกคุมขังเป็นเวลา 46 วัน ในขณะที่กำลังจะเปิดภาคการศึกษาในอีก 3 วันข้างหน้า (16 พ.ค.) เสี่ยงพ้นสภาพการเป็นนักเรียนนั้น
เมื่อเวลา 11.40 น. วันที่ 13 พฤษภาคม นายกฤษฎางค์ นุตจรัส หรือทนายด่าง ศูนย์ทนายเพื่อสิทธิมนุษยชน เผยแพร่เอกสารชี้แจงจาก ศาลเยาวชนครอบครัวกลาง (ลงวันที่ 12 พ.ค.) ต่อกรณีของ น.ส.ธนลภย์ หรือหยก พร้อมแสดงความคิดเห็นถึงคำชี้แจงของศาลเยาวชนฯ ว่ายังใช้ดุลพินิจไม่เป็นไปตามกฎหมาย นอกจากนี้ยังหยิบยกกรณีตำรวจใน จ.นครปฐม มาชื่นชม เนื่องจากพูดคุยกับเด็กวัย 6 ขวบที่ตรวจพบว่ามียาเสพติดไว้ในครอบครอง อย่างมีเมตตา ไม่ได้จับกุมไปโรงพักโดยทันที
นายกฤษฎางค์ระบุว่า ในฐานะที่ตนเป็นคนหนึ่งที่พูดถึงเรื่องของหยกมาหลายครั้ง เห็นว่า คำชี้แจงของศาลเยาวชนฯ ยังไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ ไม่เป็นไปตามอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็กที่ไทยเป็นภาคี และให้สัตยาบันไว้ และไม่เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองและพิจารณาคดีเด็ก
“ที่สำคัญที่สุด ในคำชี้แจงผมไม่เห็นความเมตตากรุณาหรือความเข้าใจในเด็กและเยาวชนของชาติในคำชี้แจงนั้นเลย
ในวันเดียวกัน ผมได้ดูข่าวทางโทรทัศน์ช่องหนึ่งรายงานว่า ตำรวจสายตรวจของโรงพักแห่งหนึ่งในนครปฐมได้รับแจ้งว่ามีเด็กวัย 6 ขวบมียาบ้าไว้ในครอบครอง ตำรวจท่านนั้นไปพบเด็กคนดังกล่าว เจอว่ามียาบ้าจริง ในภาพข่าวผมเห็นตำรวจท่านนั้นเดินไปที่เด็กซึ่งนั่งอยู่ด้วยความตกใจ กลัว และเครียด
สิ่งที่ตำรวจท่านนั้นทำคืออะไร ท่านเดินไปลูบหัวเด็กน้อยและพูดคุยอย่างมีเมตตา สักพักหนึ่งเด็กมีท่าทีดีขึ้นอย่างมาก ตอนจบข่าวรายงานว่าตำรวจท่านนั้นกลับไปโดยไม่ได้จับหรือควบคุมตัวเด็กไปโรงพักอย่างใด ท่านบอกว่าท่านตัดสินใจไม่จับเด็กไปโรงพัก เพราะมันไม่มีประโยชน์อะไรเลย
แน่นอนการมียาเสพติดไว้ในครอบครองถือเป็นอาชญากรรมและภัยร้ายแรงต่อสังคม ผู้ใหญ่ที่อยู่เบื้องหลังกรณีนี้ต้องถูกสอบสวนดำเนินคดีนี้ต่อไป ‘แต่’การจับกุมเด็ก 6 ขวบไปโรงพักทันทีนั้น แม้จะเป็นหน้าที่ แต่ก็อาจเป็นอาชญากรรมร้ายแรงต่อเด็กและสังคมก็ได้ ผมเคารพและชื่นชมตำรวจท่านนั้นเต็มหัวใจ
สิ่งที่ผมพูดข้างต้นนั้นผมไม่ทราบว่าศาลเยาวชนฯ หรือตำรวจสำราญราษฎร์จะเข้าใจหรือไม่ ข้ออ้างว่าหยกไปขอเลื่อนการไปพบตำรวจแต่กลับไปทำกิจกรรมหน้าองค์การสหประชาชาตินั้น เป็นการประวิงการพิจารณาคดี จึงเป็นเหตุให้ออกหมายจับหยกได้ ผมว่าฟังไม่ขึ้น ท่านได้ตรวจสอบไหมว่ากิจกรรมที่เด็กไปทำนั้นก็เพราะเด็กต้องการฟ้องร้องต่อนานาชาติว่า “รัฐไทยทำอะไรกับเด็ก” ซึ่งเป็นสิทธิที่เด็กอย่างหยก สามารถทำได้เพื่อป้องกันตัวเองเพราะรัฐไม่ใส่ใจเธอ
ย้อนอ่าน : เป่าเค้กวันเกิด หน้า UN ‘เด็ก 14 ปี’ ฉีกหมายเรียกคดี 112 ฟ้องต่างชาติ รบ.ไทยรังแกเยาวชน

ท่านตอบได้ไหมว่าตอนที่ตำรวจลุกลี้ลุกลนขอออกหมายจับหยก ซึ่งท่านก็ได้ออกให้ตั้งแต่ 28 กุมภาพันธ์แล้ว ทำไมเพิ่งมาจับเด็กในวันที่ 28 มีนาคม นานถึง 1 เดือน เพราะอะไร หรือมันไม่จำเป็นรีบเร่งอย่างที่ชี้แจง ท่านว่าท่านตรวจสอบการจับแล้ว ถามว่าท่านได้ตรวจสอบไหมว่าเขาจับเด็กอย่างไร รุนแรงแค่ไหนอย่างไร ซึ่งต้องห้ามตามกฎหมาย ท่านคงตอบไม่ได้ เพราะท่านไม่เข้าใจและไม่สนใจ
ผมเห็นว่าข้อกฎหมายต่างๆ ที่ท่านอ้างมานั้น ไม่ได้เป็นอย่างที่ท่านชี้แจง อีกสองวันหลังเลือกตั้ง คือวันที่หยกจะเปิดเทอมเข้าไปเรียนพร้อมเพื่อนๆ ถ้าเด็กไม่ได้เข้าไปเรียนและเสียโอกาสในชีวิตนี้ สังคมคงเข้าใจว่าใครต้องรับผิดชอบในอาชญากรรมนี้
ผมขอชื่นชมนายตำรวจตามข่าว ที่ตัดสินใจไม่จับเด็กไปโรงพักทันที ผมเห็นด้วยกับท่านว่ามันไม่มีประโยชน์ใดใดเลย ท่านได้ทำให้สังคมเห็นแล้วว่า การใช้ดุลพินิจที่ถูกต้อง และการตัดสินใจที่กล้าหาญของท่านทำให้สังคมไทยมีความหวังและเปลี่ยนแปลงได้”
ขอบพระคุณมากครับ
กฤษฎางค์ นุตจรัส
13 พฤษภาคม 2566
- อ่านข่าว : ศาลเยาวชน ออกเอกสารแจง กรณีคุมตัว ‘หยก’ ชี้เป็นไปโดยชอบ
- หยก ตัดพ้ออนาคต คง ‘หมดสิทธิเรียนต่อ’ เสียใจ ‘ทะลุวัง’ ช่วยเรียกร้องจนโดนทำร้าย
- ทิชา พ้อ ‘หยก’ เรียนดี จีนได้ท็อป ‘ถูกขังไม่ได้เรียนต่อ’ ผู้ใหญ่ไม่เห็นต้นตอ ทำไมเด็กถึงดื้อ
- โมกหลวงฯ ยื่นจี้ ผอ.สถานพินิจ หยุดทำให้ ‘หยก’ หวาดกลัว ปรับมาตรฐานเข้าเยี่ยม หลัง ตร.บุกพลการ