‘ยิ่งชีพ’ ขอโม้ ชื่นใจวัฒนธรรมใหม่เกิดแล้ว! ‘ประชาชนช่วยกันรายงานผล’ เร็วกว่า กกต. – ท้าเปิดที่ตั้งหน่วยล่วงหน้า ให้อาสาไปจับตา ชี้จุดพลาด ต้องปรับปรุงอย่างรุนแรง แถมคำชม 1 เรื่อง
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 20 พฤษภาคม ที่ออฟฟิศใหม่ iLaw เขตจตุจักร กรุงเทพฯ เครือข่ายอาสาจับตาการเลือกตั้ง ได้แก่ โครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน (iLaw), VOTE62, Rocket Media Lab, opendream และ เลือกตั้ง 66 ร่วมแถลงสรุปผลงานการจับตาคะแนนเลือกตั้ง’66 “ในวันที่ประชาชนลุกขึ้นยืนถือกล้อง”
เพื่อสรุปภาพรวม การมีส่วนร่วมของประชาชนในการจับตาการนับคะแนนหน้าคูหา, สรุปปัญหาและข้อค้นพบเกี่ยวกับการจัดส่งบัตรเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขต, ปัญหาและข้อผิดพลาดในการจัดการเลือกตั้งของ กกต. วันที่ 14 พ.ค.2566 ไปจนถึงปัญหาการรายงานคะแนน หรือการรวมคะแนนของบางเขตที่ยังไม่ชัดเจน นอกจากนี้ ในช่วงท้ายยังแถลงข้อเรียกร้อง เรื่องความโปร่งใสด้านการเปิดเผยข้อมูลจาก กกต.
อ่านข่าว : ไอลอว์เปิด ‘375 เรื่องร้องเรียน’ เลือกตั้ง66 โดนฟ้องมากสุด ‘ห้ามถ่ายรูป’ กปน.ไม่พร้อม-ไม่รู้
ในตอนหนึ่ง นายยิ่งชีพ อัชฌานนท์ ผู้จัดการโครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน (iLaw) กล่าวถึงข้อเสนอว่า ในการเลือกตั้ง ปี 2566 เราได้เห็นปรากฏการณ์ใหม่ในการเลือกตั้งที่เกิดขึ้นแล้ว คือการจับตาการนับคะแนนโดยประชาชน การรวมคะแนนกันเองโดยไม่ได้รอ กกต.นั้น เกิดขึ้นแล้ว
“วันที่ 14 พ.ค. เวลาประมาณ 20.00 นิดๆ เว็บไซต์ของ กกต.ดับไป 15-20 นาที ตอนนั้นเราแซง พอกลับมาคะแนนที่ประชาชนไปยืนดู ถ่ายภาพและส่งมา รวมแล้วมีช่วงหนึ่งเราได้ 12-13 % ส่วน กกต.นับได้ประมาณ 7-9 % พอ 3 ทุ่มเศษๆ รายงานของ กกต.ก็แซงกลับมา ของเราก็หยุดอยู่ที่ประมาณ 30 % ตอน 5 ทุ่ม ซึ่งพี่น้องประชาชนที่ดูทีวีทางบ้าน จะเห็นว่าช่วง 6 โมง ทุกเขตจะเป็นเลข 3 ตัวหมด 700-800 คะแนน ซึ่งคือของเราและมีของทีมสื่อ ตอนนั้น ECT Report ยังไม่เริ่มรายงาน มาหลังจาก 6 โมงครึ่งด้วยซ้ำ ช่วงแรกๆ เป็นคะแนนที่ประชาชนรายงานกันเองจนสำเร็จ เป็นนิมิตหมายที่น่าชื่นใจมาก สาเหตุที่เราหยุดที่ 30% เพราะเรามีภาพถ่ายเท่านี้ ถ้าเรามีคนไปหน้าหน่วยครบ จะได้ครบทั้งหมด และอาจจะได้ 100 % ก่อน กกต.ด้วยซ้ำ แต่เนื่องจากมีคนไปหน้าหน่วยประมาณ 1 ใน 3 เราครบ 400 เขตก่อน กกต. ถึงเวลาโม้ ต้องช่วยกันโม้ เราได้จากทุกเขตก่อน ECT Report” นายยิ่งชีพกล่าว
นายยิ่งชีพชี้ว่า สิ่งที่เห็นชัดเจนจากที่ตอนแรกไม่เข้าใจ คือ กกต.ไมได้อธิบายว่า คะแนนจากหน่วยจะเดินทางไปรวมเป็น คะแนนแต่ละเขต และกรอกเข้าระบบอย่างไร
“ถึงวันนี้ก็ยังไม่อธิบาย เท่าที่ดูคือไปโดยรถ ไม่ได้ไปทางออนไลน์ เทคโนโลยีไม่ได้มีประโยชน์อะไร หลายเขตจะเห็นว่า เขาจำเป็นต้องนั่งรถมอเตอร์ไซค์ หรือยานพาหนะบางอย่าง เพื่อเอาไปส่ง ECT Report ช้ากว่าเรา เพราะเราวิ่งทางออนไลน์ได้”
“ในการนี้ ก็ต้องขอกล่าวชื่นชมประชาชนทุกคน เวลาเราเรียกว่า ‘อาสาจับตาเลือกตั้ง’ เราไม่ได้จัดตั้ง เป็นธรรมชาติร้อยละ 96 ประชาชนที่เราแบ่งงาน พูดคุย ผ่านกระบวนการอบรมมากกว่า 50 ครั้งใน 7 เดือน มีประมาณไม่ถึง 1,000 คน แต่คนที่ออกไปรายงานจนถึงวันนี้เราก็ไม่ได้เห็นหน้าตา แต่ท่านช่วยกันทำให้สิ่งนี้เกิดขึ้นได้ นี่เป็นสัญญาณที่ดีกว่าผลการเลือกตั้งอีก การที่ประชาชนไม่ว่าคุณจะเชียร์พรรคไหน เดินออกไปยืนดูการนับคะแนนเป็นเวลา 3-4 ชั่วโมง พอพบว่ามีผิดพลาด ก็ทักท้วง เจ้าหน้าที่ก็แก้ไข นี่คือสถิติที่แสดงให้เห็นความสำเร็จ นี่เป็นสถิติเพียงแค่ที่รายงานกลับมาที่เว็บไซต์ แต่ยังมีคนอีกเยอะที่ไปยืนอยู่ตรงนั้น เห็นความผิดพลาด ลงไปช่วยกดเครื่องคิดเลข จับกระดานไว้ไม่ให้ลมพัด เอารถไปจอดเปิดไฟให้สว่างเพื่อให้การนับคะแนนและการรวมคะแนนเป็นไปโดยถูกต้อง คนเหล่านี้มีจำนวนมากที่ไม่ได้รายงานมายังเรา” นายยิ่งชีพเผย
นายยิ่งชีพระบุว่า การเลือกตั้งปีนี้เราจะเห็นว่า ไม่ค่อยมีการโวยวาย ว่าภาพถ่ายสุดท้ายมีบัตรเขย่ง หรือมีการรวมคะแนนไม่ตรง ซึ่งน้อยกว่าปี 2562 มาก เพราะคนจำนวนมากไปยืนอยู่ตรงนั้น และทำให้ถูกตั้งแต่แรก ก่อนที่จะผิดแล้วมาโวยวายทีหลังแล้วแก้ไม่ได้
“นี่คือวัฒธรรมที่เกิดขึ้นแล้ว และหวังว่าจะคงอยู่กับประชาชนชาวไทย ไม่ว่าจะมีการเลือกตั้งอีกกี่ครั้ง อาจจะเป็นการเลือกตั้ง ส.ส.ครั้งหน้า เลือกตั้ง อบต. อบจ. ผู้ใหญ่บ้าน หรือเลือกตั้งประธานนักเรียน เรารู้แล้วว่าสิ่งที่ควรทำคือ ออกไปยืนดูตอนนับคะแนน เพื่อให้ทุกคะแนนนับถูกต้องตรงนั้น คู่ขนานไปกับคนที่มีอำนาจรับผิดชอบ” นายยิ่งชีพกล่าว
นายยิ่งชีพกล่าวต่อว่า ก่อนเลือกตั้งมีคำถามที่เข้ามาเยอะที่สุดคือ ‘หน่วยไหนยังไม่มีคนไป จะไปสังเกตการณ์’ นี่เป็นปัญหาโดยตรงที่ กกต.ไม่เปิดเผยสถานที่ตั้งหน่วยเลือกตั้งทั่วประเทศ จนวันนี้
“สารภาพออกสื่อ เราได้มาแล้ว สุดท้ายมีคนให้เรามา ไฟล์นี้มีอยู่ในสำนักงาน กกต. แต่ไม่เปิดเผย และเราขอไปยังช่องทางอย่างเป็นทางการแล้วแต่ไม่ได้มา คนข้างในทนไม่ได้ สุดท้ายใกล้วันเลืกตั้งเขาให้มา คือไม่ใช่ไม่มี แต่ กกต.ไม่ให้ตั้งแต่แรก ทำให้ทีมเทคนิคทำระบบเพื่อให้ประชาชนเลือกจุด ไม่ทัน ถ้าทำทันทุกคนจะเข้าไปดูหน้าเว็บฯ ได้ทันที เพื่อเลือกไปในจุดที่ไม่มีคนไป เชื่อว่าได้ไม่ต่ำกว่า 50,000 หน่วยแน่นอน อย่างใน กทม.บางเขต ขาด 2 หน่วย ถ้าคนมันรู้คนมันไปอยู่แล้ว”
“และผมเชื่อว่าวันที่ 14 มีคนออกไปยืนหน้าหน่วยเกินแสน เกินเป้าหมายที่เราตั้งไว้ตั้งแต่แรก เพียงแต่ว่าทุกคนไม่รู้ว่าตัวเองจะต้องไปตรงไหนถึงจะมีประโยชนที่สุด ก็ไปจุดที่ตัวเองสามารถไปได้ ตรงนี้สำคัญและต้องปรับปรุงอย่างรุนแรง ข้อมูลที่ตั้งหน่วย ล่วงหน้า 2-3 สัปหาห์ กกต.เปิดเผยเอาขึ้นเว็บไซต์ตัวเองไปเลย อยากลองดูว่าประชาชนจะทำได้ไหม รายงานผลกันเอง ทุกหน่วย อาจจะทำได้และเร็วกกว่า กกต.” นายยิ่งชีพกล่าว
นายยิ่งชีพกล่าวต่อว่า คนกลุม่ที่ 2 ที่อยากชื่นชท คือกรรมการประจำหน่วย หรือ กปน. หลายหน่วย กปน.ให้ความร่วมมือกับอาสาสมัครดีมาก อธิบายขั้นตอนอย่างละเอียดว่ากำลังจะทำอะไร ถูกต้องโปร่งใสอย่างไร และเชิญชวนอาสาสมัครมา เตรียมที่นั่งไว้ให้ ตอบการทักท้วง แก้ไขตาม เชิญชวนประชาชนมาช่วยกันดูอย่างละเอียด เมื่อมีปัญหาก็เริ่มนับใหม่โดยให้ประชาชนมาช่วยกันนับ เพื่อให้โปร่งใส ต้องชื่นชม
“กปน. 95 % ดีมาก ต้องขอชื่นชมอย่างมาก แต่ก็มี 5 % หรือหลายร้อย หลายพันคน ที่ไม่เข้าใจการทำงาน และความสำคัญของคนที่ไปสังเกตการณ์ สั่งห้าม ท้วงติง พูดจาในลักษณะใช้อำนาจ เพื่อให้รู้สึกหวาดกลัว มีเยอะ มีทั้งภาพถ่ายและคลิประบุตัวตนว่าใครบ้าง
อยากเรียน กปน.ที่ยังไม่เข้าใจว่า เราไม่มีนโยบายที่จะดำเนินคดีเอาผิด กปน.ระดับปฏิบัติการ แต่สิงที่ท่านทำคือการห้ามคนเข้าไปในจุดที่ควรจะยืนอยู่ ห้ามถ่ายรูป วิดีโอ ใช้อำนาจข่มขู่ เอาตำรวจมายืน เหล่านี้แสดงให้เห็นแล้วถึงเจตนา ว่ามีความไม่สุจริตในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นเรื่องใหญ่มาก ถ้าเราหรือประชาชนอยากเอาผิด ก็สามารถเอาผิดได้ แต่เราไม่มีนโยบายที่จะทำเช่นนั้น เราอยากให้ท่านเรียนรู้ไปร่วมกันกับเรา ประชาชนที่จะร่วมพัฒนาระบบจับตาการเลือกตั้ง ถ้ามีโอกาสในการเลือกตั้งครั้งต่อไป ขอให้ท่านพัฒนา ปรับปรุงให้ประชาชนตรวจสอบอย่างโปร่งใส” นายยิ่งชีพชี้
นายยิ่งชีพกล่าวอีกว่า สุดท้ายสำหรับ กกต.ส่วนกลาง ปีนี้ขอชื่นชมแค่ 1 เรื่อง คือมีการเปิดเผยคะแนนรายหน่วย ส.ส.5/18 ขึ้นเว็บไซต์ ในแต่ละจังหวัด ซึ่งตามระเบียบบอกให้เปิดเผยภายใน 5 วัน เมื่นคืนนี้ตนไปนั่งไล่ดู มีหลายจังหวัดเผยแพร่แล้ว แต่บางจังหวัดก็เปิดเผยบางส่วน บางจังหวัดยังไม่เปิดแต่ทำหน้าลิงก์เอาไว้แล้ว ก็จะยังไม่ดำเนินคดีว่าล่าช้า แต่ท่านต้องรีบเปิด ประชาชนจะได้เข้าไปดู และขอเชิญชวนให้เข้าไปดูภาพถ่ายคะแนนรายหน่วย ที่เว็บไซต์ กกต.แต่ละจังหวัด
“ชื่นชมเรื่องเดียว คือเปิดเผยคะแนนรายหน่วยได้ตามที่สัญญา แต่เรื่องหนึ่งที่อยากให้ท่านยอมรับคือ ECT Report ช้า และผิดพลาดพอสมควร การที่มีประชาชนมาช่วยกันทำอีกระบบคู่ขนาน จึงเป็นเรื่องจำเป็น” นายยิ่งชีพกล่าว