ทร.ล้อมรั้วสวนป่าบางขนุนปลาย มิ.ย.นี้ ลุยตั้งกองพันต่อสู้อากาศยานฯ ปชช.เก็บผลอาสินได้

ผบ.ทรภ.3 ประชุมพิจารณาหารือแนวทางการใช้ประโยชน์ที่ดินป่าสงวนแห่งชาติป่าบางขนุน ภูเก็ต

เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม ที่ห้องประชุม กองบัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต พล.ร.ท.อาภากร อยู่คงแก้ว ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 ในฐานะผู้อำนวยการ ศรชล.ภาค 3 เป็นประธานการประชุมพิจารณาแนวทางการแก้ไขปัญหาการใช้ประโยชน์ที่ดินป่าสงวนแห่งชาติป่าบางขนุน โดยมี เสนาธิการทัพเรือภาคที่ 3 คณะนายทหารทัพเรือภาคที่ 3 หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย นป.สอ.รฝ. 591, พัน. ส.อ.22, พัน.สห.ทร.ที่ 4,  สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 12 สาขากระบี่, ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดภูเก็ต, หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ภก.1, ผู้แทนนายอำเภอถลาง, ผู้แทน อบต.เทพกระษัตรี, รองนายก อบต.สาคู, กำนัน, ผู้ใหญ่บ้าน ต.เทพกระษัตรี ต.สาคู ร่วมประชุม

พล.ร.ท.อาภากรกล่าวว่า ตามที่กรมป่าไม้มีประกาศอนุญาตให้กองทัพเรือ (ทร.) เข้าใช้ประโยชน์ภายในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าบางขนุน ในท้องที่ ต.เทพกระษัตรี และ ต.สาคู อ.ถลาง จ.ภูเก็ต เพื่อตั้งเป็นศูนย์ต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่งประจำพื้นที่ 22 และกองพันสารวัตรทหารเรือที่ 4 เนื้อที่ 3,763 ไร่ 1 งาน 02 ตารางวา ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2566 จนถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2596 ทั้งนี้ การจัดตั้งหน่วยของกองทัพเรือในพื้นที่เกาะภูเก็ตจะช่วยให้นำศักยภาพและขีดความสามารถของกองทัพเรือในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลด้านฝั่งทะเลอันดามัน ได้แก่ การคุ้มครองท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต ท่าเรือที่สำคัญในพื้นที่ การจัดกำลังของหน่วยสนับสนุนช่วยเหลือประชาชนเมื่อเกิดภัยพิบัติต่างๆ ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต อาทิ อุทกภัย อุบัติภัยทางทะเล สึนามิ และทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตยประโยชน์โดยตรงต่อประเทศชาติและประชาชนในพื้นที่

พล.ร.ท.อาภากร อยู่คงแก้ว ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 ในฐานะผู้อำนวยการ ศรชล.ภาค 3

พล.ร.ท.อาภากรกล่าวว่า เหตุผลดังกล่าวกองทัพเรือโดยทัพเรือภาคที่ 3 จึงได้ประสานกับกรมป่าไม้ขอใช้ประโยชน์ที่ดินในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าบางขนุนจังหวัดภูเก็ต สำหรับใช้เป็นพื้นที่ตั้งหน่วยเพื่อดำเนินการตามที่กองทัพเรือได้รับมอบหมายจากรัฐบาล จัดตั้งหน่วยกองพันสารวัตรทหารเรือที่ 4 กองพันต่อสู้อากาศยานที่ 22 และศูนย์ต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่งประจำพื้นที่ 3 ซึ่งใช้พื้นที่ก่อสร้างในส่วนที่เป็นป่าเสื่อมโทรมประมาณ 500 ไร่ แต่เนื่องจากกรมป่าไม้ ซึ่งเป็นหน่วยงานที่มีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรงมีเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอในการดูแลรักษาป่าไม้ จึงอนุญาตให้กองทัพเรือใช้พื้นที่ 3,763 ไร่ เพื่อให้กองทัพเรือช่วยเหลือในการปกป้องและดูแลผืนป่าอีกทางหนึ่งด้วย

Advertisement

“จากการเข้าตรวจพื้นที่ป่าบางขนุนที่ได้รับมอบหมายจากกรมป่าไม้พบว่ามีการเข้าไปใช้ประโยชน์ที่ดินของราษฎรในพื้นที่ดังกล่าวตั้งแต่ปี 2541 จากการตรวจสอบร่วมกับภาพถ่ายทางอากาศในปี 2510 ทุกแปลงจะมีการเข้าไปใช้ประโยชน์หลังประกาศเป็นป่าคุ้มครอง พ.ศ 2488 รวมทั้งส่วนใหญ่จะมีการเข้าครอบครองภายหลังการประกาศเป็นป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 การดำเนินการในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับที่ดินทำกินที่มีการเข้าไปใช้ประโยชน์ในพื้นที่ดังกล่าวจะต้องมีการตรวจสอบที่ดินครอบครองให้มีความชัดเจน

“จากการสำรวจพื้นที่ที่ได้รับมอบ พบว่าในพื้นที่ดังกล่าวยังมีการเข้าไปใช้ประโยชน์ของประชาชนเพื่อทำการเกษตรและสร้างที่พักอาศัยอยู่จำนวนมาก ซึ่งพื้นที่บางส่วนกองทัพเรือมีความจำเป็นเร่งด่วนในการเข้าใช้ประโยชน์ในระยะเวลาอันใกล้นี้ ดังนั้น เพื่อให้การดำเนินการดังกล่าวเกิดผลกระทบกับประชาชนน้อยที่สุด จึงได้เชิญหน่วยงานและผู้เกี่ยวข้อง รวมทั้งผู้แทนทางฝ่ายปกครองท้องที่ร่วมพิจารณาหารือกำหนดแนวทางแก้ไขปัญหาการใช้ประโยชน์ที่ดินป่าสงวนแห่งชาติป่าบางขนุน และรับทราบแนวทางของกองทัพเรือในการให้ประชาชนที่มีการใช้ที่ดินในพื้นที่ที่ทำประโยชน์อยู่ได้รับผลกระทบน้อยที่สุด” พล.ร.ท.อาภากรกล่าว

Advertisement

พล.ร.ท.อาภากรกล่าวอีกว่า กองทัพเรือได้ขอใช้พื้นที่จากกรมป่าไม้ ซึ่งกรมป่าไม้อนุญาตให้กองทัพเรือใช้พื้นที่ 3,763 ไร่ โดยจัดตั้งกองพันต่อสู้อากาศยานที่ 22 และกองพันสารวัตรที่ 4 ซึ่งจำเป็นต้องใช้พื้นที่รวมแล้วประมาณ 500 ไร่ พื้นที่อื่นๆ นอกเหนือจากที่กองทัพเรือใช้เป็นที่ตั้งหน่วยแล้ว จะดำเนินการอนุรักษ์พื้นที่ป่า ส่วนประชาชนที่มาใช้พื้นที่อยู่ ถ้าตามกฎหมายแล้วถือว่าสิทธิในที่ดินคงไม่มี แต่เนื่องจากเขามาใช้ประโยชน์อยู่ กองทัพเรือจะไม่กระทบต่อประชาชนในเรื่องการเก็บผลอาสิน สามารถกระทำได้ แต่อย่าปลูกเพิ่ม อย่าทำลายทรัพยากรป่าไม้ อย่าตัดต้นไม้

พล.ร.ท.อาภากรกล่าวว่า ก่อนหน้านี้ได้ตรวจสอบที่ดินพบว่ามีการปลูกบ้านบนเนินเขาเตรียมการที่คาดว่าจะขายให้กับคนต่างชาติ ซึ่งได้ดำเนินการตามกฎหมายแล้ว รวมทั้งผู้ที่ไปแผ้วถางเพิ่ม และไปปลูกปาล์มเพิ่มได้แจ้งความดำเนินคดีเรียบร้อยแล้ว

พล.ร.ท.อาภากรกล่าวว่า สรุปคือมติที่ประชุมแก้ไขปัญหาที่ดินสวนป่าบางขนุน ดังนี้ ขอให้ผู้นำชุมชน ประชาสัมพันธ์จัดตั้งศูนย์ตรวจสอบบุคคลพื้นที่รับเอกสารหลักฐานและรวบรวมข้อมูลของราษฎร เพื่อรับทราบข้อมูลข้อเท็จจริงของราษฎรในการเข้าครอบครองที่ดิน ให้ราษฎรมายื่นเอกสารหลักฐานภายในวันที่ 7 มิถุนายน 2566 กองทัพเรือโดยทัพเรือภาคที่ 3 จะดำเนินการทำรั้วลวดหนามแสดงแนวเขตโดยรอบพื้นที่ประมาณปลายเดือนมิถุนายน 2566 รวม 16 กิโลเมตร และกำหนดจัดกิจกรรมการปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติในพื้นที่สวนป่าบางขนุนในวันที่ 1 มิถุนายน 2566 กว่า 500 ต้น เป็นพืชพื้นถิ่น

พล.ร.ท.อาภากรกล่าวต่อว่า การดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการร่วมระหว่างหน่วยงานรัฐผู้นำชุมชนเพื่อพิจารณาการผ่อนปรนการใช้ประโยชน์ในพื้นที่และเรื่องอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง จะจัดให้มีการทำกิจกรรมร่วมกันระหว่างกองทัพเรือและชาวบ้านในพื้นที่ เช่น การปลูกป่าร่วมกัน การเดินป่า เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีร่วมกัน และให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ชี้แจงทำความเข้าใจเกี่ยวกับการใช้ประโยชน์ที่ดินของกองทัพเรือในการจัดตั้งหน่วยว่ามีพื้นที่และขอบเขตในการดำเนินการเป็นอย่างไร เพื่อให้มีความกระจ่างและเข้าใจตรงกัน

“การประชุมครั้งนี้หวังว่าทุกคนคงเข้าใจแนวทางของทัพเรือภาคที่ 3 เมื่อได้รับอนุญาตแล้วต้องทำขอบเขตพื้นที่ให้ชัดเจนได้ของบประมาณจากกองทัพเรือทำเป็นรั้วลวดหนาม ดำเนินการโดยประมาณปลายเดือนมิถุนายน 2566 รวม 16 กิโลเมตร เมื่อทำรั้วแล้ว ประชาชนสามารถเข้าเก็บพืชผลอาสินได้ มีความสัมพันธ์อันดีต่อกันกับประชาชน เป็นเพื่อนบ้านกันช่วยเหลือกัน ทัพเรือภาคที่ 3 ตระหนักดีว่าป่าไม้เป็นทรัพยากรธรรมชาติ ที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อสิ่งมีชีวิต ยังมีประโยชน์ในการรักษาสมดุลสิ่งแวดล้อม ถ้าป่าไม้ถูกทำลายลงไปมาก ส่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมที่เกี่ยวข้อง ส่งผลต่อภัยน้ำท่วมระบบเศรษฐกิจและสังคม” พล.ร.ท.อาภากรกล่าว

พล.ร.ท.อาภากรกล่าวว่า ป่าบางขนุน เป็นป่าสงวนแห่งชาติใน อ.ถลาง ห่างจากเมืองภูเก็ตประมาณ 30 กิโลเมตร และเคยเป็นพื้นที่ด้านการเกษตร ปลูกยางพาราและผลไม้เศรษฐกิจ ป่าบางขนุนอาจเป็นผืนป่าสงวนแห่งสุดท้ายที่เหลืออยู่ ท่ามกลางการบุกรุกของนายทุนที่อาศัยช่องว่างของกฎหมายสวมสิทธิเข้าครอบครอง ทั้งนี้ ผู้ที่ครอบครองภายหลังที่กฎหมายกำหนดจะต้องมีการหารือเพื่อกำหนดแนวทางในการช่วยเหลือและเยียวยาโดยให้เกิดผลกระทบน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้

พล.ร.ท.อาภากรกล่าวว่า ในส่วนกองทัพเรือที่ผ่านมาได้มีการชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ได้รับทราบถึงวัตถุประสงค์ของการขอใช้ประโยชน์ในพื้นที่ดังกล่าวเพื่อความมั่นคงของประเทศ รวมทั้งช่วยในการดูแลรักษาผืนป่าบางขนุนให้เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติต่อไป

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image