‘ไอติม’ ชำแหละ 3 อาวุธ จ้องล้มรัฐบาลประชาชน ยัน ต้องเร่งแก้ รธน. ถอนพิษอำนาจแฝง

‘ไอติม’ ชำแหละ 3 อาวุธ ล้มรัฐบาลจากเสียงประชาชน ยัน ต้องเร่ง ‘แก้รัฐธรรมนูญ’ ถอนอำนาจพิเศษ

เมื่อวันที่ 17 มิถุนายนที่ผ่านมา ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (ท่าพระจันทร์) นายพริษฐ์ วัชรสินธุ หรือไอติม ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวถึงการร่างรัฐธรรมนูญใหม่ ในเวทีอภิปรายสาธารณะ โดยหลักสูตรประกาศนียบัตรกฎหมายมหาชน รุ่นที่ 52 โดยในตอนหนึ่ง นายพริษฐ์กล่าวถึงความจำเป็นในการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เพื่อให้มีความเป็นประชาธิปไตย ซึ่งเป็นนโยบายที่พรรคก้าวไกลและพรรคร่วมรัฐบาลทั้ง 8 พรรคพร้อมจะผลักดันและรับผิดชอบร่วมกัน เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน

จากนั้น นายพริษฐ์กล่าวถึงที่มาของรัฐธรรมนูญ ฉบับปี 2560 ที่มีกระบวนการสืบทอดอำนาจผ่านเนื้อหาของรัฐธรรมนูญ 60 ว่า รัฐธรรมนูญ 60 มีการฝังกลไกบางอย่างไว้ และจะถูกนำมาใช้ในการสืบทอดอำนาจพรรคการเมือง ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคณะรัฐประหาร มี 3 อาวุธที่ถูกฝังไว้ในรัฐธรรมนูญ 60 ได้แก่ อาวุธที่หนึ่ง ส.ว.250 คน จะเห็นได้ว่ามี 194 คน ถูกแต่งตั้งโดยตรงจาก คสช. ต่อไปคือมาจากกลุ่มอาชีพ เลือกกันเองให้ได้ 200 คน และให้ คสช.มาเลือกคัดให้เลือกให้เหลือ 50 คน แล้วอีก 6 คนคือ ผบ.เหล่าทัพ

“จะเห็นได้ว่าสมาชิกวุฒิสภาที่ถูกแต่งตั้งโดย คสช.ทั้ง 250 คน มีอำนาจสูงกว่าความชอบธรรม ไม่ว่าจะเป็นการมาร่วมโหวตกฎหมายที่เกี่ยวกับการปฏิรูปประเทศ หรืออำนาจในการยั้บยั้งการแก้ไขอำนาจรัฐธรรมนูญ” นายพริษฐ์ระบุ

Advertisement

นายพริษฐ์กล่าวต่อว่า อาวุธที่สอง คือ ศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ

“แน่นอนว่าการมีอยู่ของศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ ไม่ได้เป็นกลไกในการสืบทอดอำนาจ แต่เราต้องคาดหวังหรือต้องออกแบบให้ศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ สามารถปฏิบัติหน้าที่อยากเป็นกลางได้
ในปัจจุบันกระบวนการที่แต่งตั้งผู้ที่มาดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญและผู้ดำรงตำแหน่งองค์กรอิสระนั้นผูกขาดโดย ส.ว.ที่มาจากการแต่งตั้งของ คสช. ดังนั้นประชาชนมีสิทธิที่จะตั้งคำถามถึงความเป็นกลาง” นายพริษฐ์กล่าว

Advertisement

นายพริษฐ์กล่าวว่า อาวุธที่ 3 คือ อาวุธยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ซึ่งกฎหมายมีการเปิดช่องให้สามารถขับไล่รัฐธรรมนูญที่มาจากการเลือกตั้งได้ โดยใช้เหตุผลว่า หากรัฐบาลได้ทำการดำเนินนโยบายที่ไม่ตรงกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี แม้เป็นนโยบายที่ดีและตอบโจทย์ต่อความต้องการขอประชาชน

“เป็นอาวุธ ที่ผ่านมาอาจจะไม่ถูกนำหยิบมาใช้ เพราะว่าไม่ได้นำเอามาเล่นงานฝ่ายตนเอง ที่ดำรงอยู่ในอำนาจ 4 ปีที่ผ่านมา หากยังไปต่อด้วยรัฐธรรมนูญ 60 อาจจะเป็นการล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งได้ อันนี้เป็นเหตุผลส่วนหนึ่งที่เราคิดว่าจำเป็นต้องมีการทบทวน แก้ไขรัฐธรรมนูญ” นายพริษฐ์ชี้

นายพริษฐ์กล่าวทิ้งท้ายว่า หากพูดถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มีทั้งการแก้ไขรายมาตราและร่างฉบับใหม่ ในมุมพรรคก้าวไกลคือ ต้องทำทั้งคู่ แต่กระบวนการการนำไปสู่การร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ต้องใช้เวลา และจะต้องมีการแก้รายมาตราควบคู่ไปด้วย ซึ่งจุดที่ต้องแก้ไขปัญหาเร่งด่วนที่สุด เช่น อำนาจพิเศษของ ส.ว., ที่มาของศาลและองค์กรอิสระ และยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี

“เจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ 60 ส่วนหนึ่งก็คือเพื่อให้แต้มต่อกับฝ่ายหนึ่งทางการเมืองและเมื่อไหร่ก็ตามที่เราไม่มีกติกาที่ไม่เป็นธรรม เราไม่สามารถบริหารจัดการความเห็นที่แตกต่างในสังคมได้ตามกลไกประชาธิปไตย” นายพริษฐ์กล่าว

อ่านข่าว : ‘ไอติม’ ย้ำ มีปัญหาต้องร่างใหม่! ‘รัฐธรรมนูญ60’ ไม่จริงใจ ประชามติชี้นำ ให้ ส.ว.โหวตนายก

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image