‘ปดิพัทธ์’ ไขก๊อก กก.บห.ก้าวไกล รับงานท้าทาย ขอเป็นส่วนผสม ทำสภาไทยก้าวหน้า 

ปดิพัทธ์ ไขก๊อก กก.บห.ก้าวไกล รับรอง ปธ. งานท้าทาย ขอเป็นส่วนผสม ทำสภาก้าวหน้า 

เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม ที่อาคารรัฐสภา นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคก้าวไกล (ก.ก.) และ นายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก พรรค ก.ก. และว่าที่รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 แถลงภายหลังการโหวตเลือกประธานสภา และรองประธานสภาเสร็จสิ้น โดยนายปดิพัทธ์กล่าวว่า ต้องขอบคุณความสนใจ หากได้ติดตามการเลือกประธานสภาที่เป็นความหนักอกหนักใจของประชาชน และสื่อมวลชนที่ต้องการความชัดเจน ปรากฏว่า วันนี้ทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดี คะแนนเสียงที่ตนได้รับ ถึงแม้จะมีการเสนอชื่อแข่ง ก็เป็นบรรยากาศการแข่งขันแสดงวิสัยทัศน์ และคะแนนที่ออกมา ตนได้รับความไว้วางใจ ซึ่งทางคณะทำงานก็มีข้อตกลง ว่าประธานสภา และทีมจะดำเนินการในวาระอย่างไร เพื่อให้สภาไทยของเราก้าวหน้า โปร่งใส และเป็นของประชาชนมากขึ้น

โดยตนและนายวันมูหะมัดนอร์ เห็นตรงกัน ว่าจะผสมผสานระหว่างประสบการณ์ และความรู้ความตั้งใจ และเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้าด้วยกัน จะเป็นส่วนผสมที่ดีมากทำให้สภาก้าวหน้าได้ ในส่วนของสื่อมวลชน ซึ่งเป็นส่วนสำคัญมากในการทำงานการเมือง ตนน้อมรับทุกข้อเสนอ เพื่อให้การทำงานของสื่อมวลชนดีขึ้น เราคิดว่าพื้นที่สภายังมีพื้นที่ให้พัฒนาอีกมาก เพื่อทำให้สื่อมวลชนสามารถทำงานได้ดีขึ้น และประชาชนสามารถเข้ามาใช้งานได้ปลอดภัย รู้สึกถึงอำนาจที่ประชาชนมีในสภาแห่งนี้

นายปดิพัทธ์กล่าวต่อว่า สำหรับตนเป็นบทบาทใหม่ที่ท้าทายมาก เมื่อได้รับความไว้วางใจจากสภาแล้ว ตนได้ลาออกจากกรรมการบริหารพรรค ของพรรค ก.ก. เรียบร้อยแล้ว และจะเริ่มต้นทำงานอย่างเป็นการตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

Advertisement

เมื่อถามว่า ในทีมประธานสภา วาระแรกที่ประชาชนจะเห็นอย่างเป็นรูปธรรม จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไร นายปดิพัทธ์กล่าวว่า เรายังไม่สามารถพูดตรงนี้ได้ เพราะจะต้องได้รับการจัดสรรหน้าที่ให้ชัดเจนจากประธานสภาก่อน โดยจะมีการหารือหลังได้รับการโปรดเกล้าฯ จากนั้นจะรีบฟอร์มทีมในการที่จะทำงานโดยเร็ว แต่วาระที่สามารถทำได้โดยด่วน คือ เรื่องของการพิจารณากฎหมายต่างๆ สัดส่วนการประชุมจะเป็นอย่างไร ก็จะได้ความชัดเจนมากขึ้น

นายปดิพัทธ์กล่าวต่อว่า สนใจเรื่องของเป้าหมายในการตั้งรัฐบาล และการฟอร์มกฎหมายสภานิติบัญญัติที่ดีให้ได้ เราคิดว่าผลที่ออกมาไม่ได้แปลว่าใครยอมใคร ต้องผ่านการเจรจาอย่างดีที่สุด ทุกการเจรจาอยู่ในการจับจ้อง และวิพากษ์วิจารณ์จากประชาชนเสมอ เป็นสิ่งที่ทำให้เราตัดสินใจได้ดีขึ้นเมื่อเราไม่ได้คิดว่าใครจะดำรงตำแหน่งอะไร แต่ยึดเป้าหมายและนโยบายเป็นตัวตั้ง เช่นเดียวกันกับการฟอร์มรัฐบาล การฟอร์มนิติบัญญัติก็จะมีเอกภาพเช่นเดียวกัน

เมื่อถามว่า ในฐานะรองประธานสภา จุดยืนในการโหวตพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) สมรสเท่าเทียมนั้นเป็นอย่างไร นายปดิพัทธ์กล่าวว่า ในฐานะ ส.ส. จากการหารือกับทางพรรคก่อนจะงดออกเสียงในรอบที่แล้ว คือการวางหลักการของศาสนิกชนไว้เพียงวาระที่ 1 เท่านั้น ตนในฐานะ ส.ส.ก็จะโหวตเห็นชอบในวาระที่ 2 และ 3 แน่นอน ส่วนในฐานะรองประธานสภา เมื่อมีการบรรจุญัตติ วินิจฉัยของประธาน อคติของประธานจะต้องไม่เป็นอุปสรรคในการบรรจุญัตติทุกญัตติ เพราะฉะนั้นสิ่งที่เราจะเปิดกว้าง คือหากผ่านขั้นตอนที่ถูกต้อง เรื่องนี้ก็สามารถบรรจุได้ เพราะฉะนั้นวิจารณญาณของประธานจะต้องน้อยลงกว่านี้

Advertisement

เมื่อถามว่าข้อตกลงของพรรค พท.และ ก.ก. ในข้อที่ 4 เรื่องนิรโทษกรรม และเรื่องปฏิรูปกองทัพครอบคลุมไปถึงเรื่องใดบ้าง นายปดิพัทธ์กล่าวว่า เรื่องของนิรโทษกรรมเป็นเรื่องของ พ.ร.บ. ในเรื่องของรายละเอียด พรรค ก.ก.มีร่าง พ.ร.บ.เตรียมไว้ แต่ในขณะเดียวกันเป็นเรื่องของนิติบัญญัติ ที่จะต้องมีอภิปรายกันในสภา มีการตั้งคณะกรรมาธิการ เพราะฉะนั้นสิ่งที่พรรค ก.ก.เสนอ ก็มีร่าง พ.ร.บ.ชัดเจนอยู่แล้ว

ย้อนอ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image