สภาโหรงเหรงเปิดประชุมช้า ‘วิโรจน์’ แฉ ส.ว.เซ็นชื่อแล้วถอนชื่อออก ขณะที่ ‘โรม’ ชงญัตติใหม่ทบทวนมติ 19 ก.ค. สุดท้าย ‘วันนอร์’ ชิงปิดประชุมหนีดื้อๆ
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 4 สิงหาคม ที่รัฐสภา มีการประชุมรัฐสภา มี นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา เป็นประธานการประชุม เพื่อพิจารณาเรื่องด่วนร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 272 เรื่องการตัดอำนาจ ส.ว.เลือกนายกรัฐมนตรี แต่เมื่อถึงเวลาประชุมยังไม่สามารถเปิดประชุมได้ เพราะมีสมาชิกมาร่วมประชุมบางตา โดยเฉพาะในส่วนของ ส.ว.ที่มีผู้มาร่วมประชุมเพียง 20 กว่าคน จาก 249 คน
เวลา 09.35 น. นายวันมูหะมัดนอร์แจ้งว่า ขณะนี้มีสมาชิกมาร่วมประชุม 239 คน จากจำนวนสมาชิกรัฐสภาทั้งหมดที่ปฏิบัติหน้าที่ได้ 747 คน ยังไม่ถึงกึ่งหนึ่ง ทำให้ไม่สามารถเปิดประชุมได้ แต่จะรอสมาชิกก่อน ขณะที่ นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) กล่าวว่า ไม่เชื่อว่าจะมีการจงใจทำให้การประชุมล่ม แต่อาจเป็นเพราะการปิดการจราจรบริเวณรัฐสภา มีการนำตู้คอนเทนเนอร์มาปิดกั้นทางเข้าออกบริเวณรัฐสภา ขอให้รอสมาชิกมาร่วมประชุมก่อน
จากนั้น ส.ส.ก้าวไกล หลายคน อาทิ นายประเสริฐพงษ์ ศรนุวัตร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ, น.ส.ภัสริน รามวงศ์ ส.ส.กทม., นายปิยรัฐ จงเทพ ส.ส.กทม. พากันช่วยเสริมถึงปัญหาการปิดจราจร และการนำตู้คอนเทนเนอร์ปิดกั้นทางจราจร ทำให้ประชาชนร้องเรียนจำนวนมากถึงการขัดขวางการเดินทางประชาชน ขอให้เร่งนำตู้คอนเทนเนอร์ออกไปก่อน
จากนั้นนายรังสิมันต์หารือว่า ตอนนี้เวลา 10.00 น.เศษ และถ้าดูตัวเลขผู้มาประชุมปรากฏว่ามีจำนวน 324 คน แบ่งเป็น ส.ส. 280 คน ส.ว. 44 คน จาก 250 คน ซึ่งตัวเลขกำลังไหลเรื่อยๆ จึงอยากให้รอสมาชิกต่อไป
นายวันมูหะมัดนอร์ชี้แจงว่า ตอนนี้ยังขาดอยู่ประมาณ 50 คน ดังนั้น จะรอสักพัก ขอให้ท่านที่มาแล้วรีบเซ็นชื่อ เพื่อจะได้ดำเนินการต่อไป
ด้าน นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค ก.ก. หารือว่า ตอนนี้มียอดผู้มาประชุม 345 คน แต่อยากให้ประธานกำชับเจ้าหน้าที่ที่อยู่ข้างหน้าห้อง เพราะตรงหน้าห้องเขาจะมีปากกาให้ แต่ก็เห็น ส.ว.ออ อยู่ข้างหน้าเต็มไปหมด ไม่แน่ใจว่าเจ้าหน้าที่เตรียมปากกาให้หรือเปล่า จึงไม่รู้ว่าติดขัดเรื่องการเซ็นชื่อเข้าประชุมหรือเปล่า
“ทุกคนกินเงินเดือน อุตส่าห์มาแล้วก็ควรเซ็นชื่อ ผมได้ยินกระซิบกระซาบกันด้วยว่า เห้ย ลงชื่อไปแล้ว จะไปถอนชื่อออกยังไง อย่างนี้ไม่ได้ ลงชื่อมาแล้ว อยู่ดีๆ จะไปถอนออกว่าไม่มาไม่ได้ ประธานต้องกำชับ และฝากเจ้าหน้าที่ช่วยตามหน่อยเพราะอาจจะไม่คุ้นชินกับสถานที่
“แต่จะไปว่าก็ไม่ได้ เพราะท่านก็อยู่มานานแล้ว อย่างไรฝากลงชื่อกันนิดนึง หรือเขียนชื่อกันไม่เป็นแล้ว อย่างไรผมจะไปช่วยกำกับ เพื่อน ส.ส.ผมก็พร้อมจะไปอำนวยความสะดวก พร้อมไปช่วยดูแล หากปากกาไม่มีพวกผมก็เตรียมปากกาให้ได้ ฝากเจ้าหน้าที่ดูด้วยว่ามีปากกาหรือเปล่า หรือเครื่องรูดบัตรมีปัญหาหรือเปล่า ฝากประชาชนด้วยเดี๋ยวจะงงว่า ส.ส.เขามารออะไรกัน เขามารอ ส.ว.กัน ตอนนี้มากันกี่ท่าน ว้าย 49 ท่าน” นายวิโรจน์กล่าว
กระทั่งเวลา 10.20 น. จึงมีองค์ประชุมครบ 374 คน เริ่มการประชุมได้
อย่างไรก็ตาม เมื่อเริ่มประชุมปรากฏว่า นายรังสิมันต์ ได้เสนอญัตติด่วนให้รัฐสภาทบทวนมติที่ประชุมรัฐสภา เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม ที่ไม่ให้เสนอชื่อบุคคลเดิมดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ภายหลังมีประเด็นร้องไปสู่ศาลรัฐธรรมนูญ โดยมีผู้รับรองญัตติครบถ้วน
แต่นายวันมูหะมัดนอร์ชี้แจงว่า ขอให้รอคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญวันที่ 16 สิงหาคมก่อน ถ้าเดินหน้าต่ออาจไปขัดอำนาจศาลรัฐธรรมนูญ ไม่ควรเอาเรื่องนี้มาพูด แต่นายรังสิมันต์แย้งว่า การร้องไปยังศาลเป็นอำนาจผู้ตรวจการแผ่นดิน แต่การเสนอญัตติของตนมีผู้รับรองถูกต้อง เมื่อเสนอญัตติถูกต้องก็ต้องพิจารณาญัตตินี้ก่อน ให้ที่ประชุมพิจารณาจะเปลี่ยนแปลงมติที่ดำเนินการไปแล้วหรือไม่ แต่นายวันมูหะมัดนอร์ยืนยันให้รอคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญก่อน เพราะเรื่องอยู่ในกระบวนการยุติธรรมของศาลต้องรอ
ขณะที่ นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค ก.ก. ยืนยันว่า ญัตติที่นายรังสิมันต์เสนอไม่เกี่ยวกับการเสนอชื่อบุคคลเป็นนายกฯ และการเสนอญัตตินี้เป็นประโยชน์แก้ปัญหาความคลุมเครือที่เกิดขึ้น
ด้าน นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย (พท.) อภิปรายว่า ญัตติที่เสนอนี้ดำเนินการถูกต้อง ประธานก็ต้องเดินหน้าตามญัตติที่เสนอ แต่เมื่อยังมีข้อสงสัย สภาต้องวินิจฉัย ไม่ใช่เรื่องเสียหาย มติสภาที่เกิดขึ้นแล้ว สิ่งที่จะไปกลบได้คือมติสภาที่ใหญ่กว่า
ส่วนนายรังสิมันต์กล่าวว่า ในความเป็นมนุษย์อาจมีการกระทำอะไรที่ไม่ถูกต้อง แต่ไม่ได้มีผลผูกพันจะเป็นความเด็ดขาดตลอดไป สมควรที่รัฐสภาจะแก้ไขเปลี่ยนแปลงได้ อย่างไรก็ตาม นายวันมูหะมัดนอร์พยายามเดินหน้าเข้าสู่วาระประชุมตามปกติต่อไป แต่นายรังสิมันต์ไม่ยอม ทำให้เกิดการถกเถียงกันในที่ประชุม
นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรค พท. กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ในกระบวนการประชุมรัฐสภา เข้าสู่วาระประชุม แต่มีผู้เสนอญัตติด่วนด้วยวาจา มีกระบวนการเสนอญัตติชอบด้วยข้อบังคับ ประธานไม่มีอำนาจวินิจฉัยว่าจะรับหรือไม่รับพิจารณา ขั้นตอนต่อไปสภาต้องพิจารณาจะให้ความเห็นชอบหรือไม่
ทำให้ นายสมชาย แสวงการ ส.ว. กล่าวว่า การเสนอญัตติด่วนใหม่ให้ทบทวนมติที่ประชุมรัฐสภาวันที่ 19 กรกฎาคม ตนเห็นว่าเป็นญัตติไม่ชอบ จึงขอเสนอญัตติคัดค้านญัตติของนายรังสิมันต์
จากนั้นสมาชิกได้อภิปรายแสดงความคิดเห็นกันไปมา โดยนายวันมูหะมัดนอร์พยายามวินิจฉัยตัดสินไม่ให้มีการเสนอญัตติด่วนใดๆ แทรกเข้ามา ขอให้เดินหน้าประชุมตามวาระปกติ ก่อนที่สมาชิกรัฐสภาจะอภิปรายถกเถียงกันเสียเวลานานกว่า 30 นาที ระหว่าง ส.ส.ก้าวไกล กับ ส.ว.
อย่างไรก็ดี นายรังสิมันต์ยังอภิปรายตอกย้ำการเสนอญัตติให้ทบทวนมติที่ประชุมรัฐสภาวันที่ 19 กรกฎาคม มีความถูกต้องตามข้อบังคับ ควรเดินหน้าพิจารณาญัตตินี้ อาจไม่ต้องใช้เวลาพิจารณายาว จะยืนยันตามมติเดิม หรือเปลี่ยนมติใหม่ให้เป็นอำนาจของรัฐสภา
ขณะที่ นายประพันธ์ คูณมี ส.ว. อภิปรายว่า การเสนอญัตติเพื่อลบล้างมติรัฐสภานั้นทำไม่ได้ ไม่ควรรับญัตติทบทวน เพราะเป็นญัตติไม่ชอบ หากรับจะถือว่ารัฐสภากระทำผิด ไม่สมควร กรณีที่ผู้ตรวจการแผ่นดินยื่นเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญไม่ใช่เหตุเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นตามข้อบังคับการประชุมรัฐสภาข้อ 41 เชื่อว่าศาลรัฐธรรมนูญจะไม่รับพิจารณา
ในที่สุดนายวันมูหะมัดนอร์กล่าวว่า “ขอใช้อำนาจประธานรัฐสภาวินิจฉัย ให้เลื่อนการประชุมรัฐสภาในวันนี้” และสั่งปิดการประชุมทันทีในเวลา 11.27 น. โดยไม่ฟังเสียงทักท้วงของ ส.ส.ที่ขออภิปรายต่อ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- รัฐสภา ลุ้นจนองค์ประชุมครบ เปิดถก แก้ ม.272 ปิดสวิตช์ ส.ว.
- ‘อนุทิน’ ชี้ แก้ ม.272 ทำสภาเสียเวลา กว่าจะแก้เสร็จ ส.ว. ก็ใกล้หมดเวลาแล้ว
- ‘สมชาย’ อัด ‘ก้าวไกล’ อย่าเล่นเป็นเด็ก ชี้ ยื่นแก้ ม.272 ไม่จำเป็นแต่ต้น
- ‘วันนอร์’ เชื่อสัปดาห์หน้า ตั้งกมธ.สามัญ 35 คณะได้
- วันนอร์ สั่งเลื่อนประชุมร่วมรัฐสภา ปิดประชุมแล้ว หาข้อยุติปมทบทวนเสนอชื่อนายกฯซ้ำไม่ได้
