หมอเรวัต ย้ำเบี้ยผู้สูงอายุต้องถ้วนหน้า ปรับเป็นอนาถาหวั่นซ้ำรอยบัตร 30 บาท คนรู้สึกต่ำต้อย

แฟ้มภาพ

หมอเรวัต ย้ำเบี้ยผู้สูงอายุต้องถ้วนหน้า ปรับเป็น ‘อนาถา’ เมื่อไหร่ จะเหมือนบัตร 30 บาท ทำคนป่วยคนรู้สึกต่ำต้อย ต้องรอความเมตตาจากรัฐ

เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม นพ.เรวัต วิศรุตเวช อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ อดีตอธิบดีกรมการแพทย์ และอดีตรองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ระบุทางเฟซบุ๊กถึงการปรับเปลี่ยน เกณฑ์จ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ จากระบบ “ถ้วนหน้า” ไปเป็นแบบ “อนาถา” ต้องมีการพิสูจน์ความจน ซึ่งขณะนี้ยังเกิดข้อถกเถียงและหลายฝ่ายวิจารณ์ต่อเนื่องว่า การคิดจะเปลี่ยนเกณฑ์ผู้สูงอายุเพื่อรับสวัสดิการจากเดิมซึ่งเป็นแบบถ้วนหน้า มาเป็นแบบคัดกรอง ต้องพิสูจน์ว่าจนจริงๆ จึงจะได้รับสิทธิมันจะกลายเป็นสวัสดิการแบบอนาถา หรือแบบสงเคราะห์ ซึ่งจะเป็นการประทับตราว่าผู้มีสิทธิต้องเป็นคนอนาถา เหมือนคนไข้อนาถาก่อนจะมีบัตร 30 บาท ที่ให้ความรู้สึกต่ำต้อยกับผู้ป่วยที่จัดอยู่ในกลุ่มนี้

นพ.เรวัตกล่าวว่า หลักการนี้ได้ผ่านการถกเถียงและตกผลึกมาแล้วคือสวัสดิการการรักษาถ้วนหน้าที่ต้องให้สิทธิกับทุกคน ไม่ว่าจะรวย หรือจน แล้วก็เลือกได้ว่าจะใช้สิทธินั้นหรือไม่ เพราะฉะนั้นเบี้ยผู้สูงอายุก็ควรเป็นหลักการเดียวกัน

“การที่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ชี้แจงว่าตนเป็นผู้สูงอายุที่ไม่ขอรับสิทธิก็คงลืมไปว่าตนเองรับเงินบำนาญอยู่แล้วจึงไม่เข้าเกณฑ์

ADVERTISMENT

“อย่างไรก็ตาม ผมขอยืนยันว่าเบี้ยผู้สูงอายุต้องเป็นสวัสดิการถ้วนหน้า ไม่แบ่งแยก โดยกำหนดเกณฑ์ใหม่ให้ผู้มีสิทธิรู้สึกว่าเป็นคนอนาถาที่ต้องรอรับความเมตตาจากรัฐแบบอำนาจนิยมที่ชอบให้ประชาชนรู้สำนึกในบุญคุณที่ยื่นให้ ทั้งๆ ที่มันคือสิทธิของเขาผู้เสียภาษีมาตลอดชีวิต” นพ.เรวัตระบุ

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ADVERTISMENT
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image