‘มายมิ้น’ มองอีกมุม ย้ำสิ่งที่ควรตั้งคำถาม ‘ผู้ปกครองหยก’ อยู่ไหน? คนรอบตัวคือใครกันแน่
จากกรณี น.ส.ธนลภย์ ผลัญชัย หรือหยก เยาวชนนักเคลื่อนไหวทางการเมือง อายุ 15 ปี สมาชิกกลุ่มนักเรียนล้ม ผู้ต้องหา ม.112 ยืนขวางรถบัสของ โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ ที่จะนำนักเรียนไปค่ายเรียนภาษาจีน จ.นครปฐม เมื่อช่วงเช้า วันที่ 31 สิงหาคมที่ผ่านมา เนื่องจากทางโรงเรียนห้ามไม่ให้ไปด้วย อ้างเหตุผลสิ้นสุดสภาพการเป็นนักเรียนเนื่องจากคืนค่าเทอมไปแล้วตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา โดยเมื่อ น.ส.ธนลภย์ ขึ้นไปบนรถ เพื่อนได้อุ้มลงจากรถ น.ส.ธนลภย์ จึงยืนขวางรถบัสเพื่อไม่ให้รถออก กระทั่งรถทัศนศึกษาเปลี่ยนทางออกเพื่อไปอีกเส้นทางหนึ่ง นั้น
เมื่อวันที่ 1 กันยายน น.ส.ศุกรียา วรรณายุวัฒน์ หรือ มายมิ้น บัณฑิตคณะครุศาสตร์ ปี 4 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หนึ่งในนักกิจกรรมทางการเมืองกลุ่มเสรีเทยพลัส โพสต์ข้อความแสดงความคิดเห็น ผ่านทางเฟซบุ๊กถึงกรณี น.ส.ธนลภย์ โดยมองอีกมุม ในฐานะครูฝึกสอน พร้อมชี้ให้เห็นถึงสิ่งที่สังคมควรตั้งคำถาม
น.ส.ศุกรียา ระบุว่า จะแสดงความคิดเห็นเรื่องหยกสักหน่อย แต่ขอออกตัวว่า เราคิดว่าตั้งแต่เราฝึกสอน เราขวาขึ้นเรื่อยๆ และเข้าใจมุมมองของครูมากขึ้น
“ตอนเห็นข่าวหยกไม่ได้ไปทัศนศึกษา สิ่งที่เราคิดเป็นอย่างแรกคือหากจะไปทัศนศึกษา การไปทัศนศึกษาของหยกได้รับการอนุญาตโดยใคร เพราะแน่นอนว่าการที่นักเรียนจะไปทัศนศึกษาได้จะต้องได้รับการอนุญาตจากผู้ปกครอง ไม่อย่างนั้นทางโรงเรียนก็ถือว่าเอาเด็กไปจากผู้ปกครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ถ้าเกิดอะไรขึ้นระหว่างค่าย โรงเรียนผิด 2-3 เด้งเลย
การที่โรงเรียนไม่รับมอบตัว/คืนค่าเทอม เราเข้าใจว่าเป็นการกดดันไปถึงผู้ปกครองว่าผู้ปกครองควรออกมาปกป้องลูกของตัวเองตามบทบาทและหน้าที่ของตัวเองได้แล้ว ไม่ใช่ให้ใครก็ไม่รู้ (ในทางกฎหมาย) ปกครองหยก และถ้ายอมให้ใครก็ไม่รู้ปกครองหยก แล้วต่อไปนี้โรงเรียนจะเกิดมาตรฐานที่ว่าใครก็เป็นผู้ปกครองได้ เอาวินมอเตอร์ไซค์มาประชุมผู้ปกครองก็ได้ ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้น เราก็จะไม่สามารถการันตีสวัสดิภาพของเยาวชนได้เลย จะกลายเป็นว่าโรงเรียนสมรู้ร่วมคิดกับการ Grooming , Human Trafficking ไปได้ง่ายๆ โดยปริยาย
โรงเรียนเป็นพื้นที่ที่ต้องอาศัยความร่วมมือจากทั้งนักเรียน ครู และผู้ปกครอง โรงเรียนไม่สามารถดูแลนักเรียนยามเขากลับบ้านได้ เช่นเดียวกับที่ผู้ปกครองไม่สามารถดูแลนักเรียนยามที่เขาอยู่โรงเรียนได้เช่นกัน และผู้ปกครองนั้นก็ควรเป็นผู้ปกครองที่มีสิทธิตามกฎหมายเพื่อรับประกันสวัสดิภาพของนักเรียนได้ด้วย ถ้ามีเหตุการณ์ที่มีผลต่อสุขภาพต้องเข้ารับการรักษา คนอื่นนอกจากผู้ปกครองก็ไม่สามารถเซ็นได้ ในกรณีนี้หากผู้ปกครองของหยกไม่ Qualified ก็ควรเข้าสู่กระบวนการหาผู้ดูแลและได้รับการดูแลโดยนักสังคมสงเคราะห์ จิตแพทย์ whatever ในระหว่างนั้น
สำหรับเรา การที่ ร.ร.เตรียมพัฒน์ ให้หยกเข้าเรียนถือว่าเป็นการเห็นแก่สวัสดิภาพของหยก เพราะได้อยู่ในสายตาของโรงเรียน วางใจได้ว่าจะไม่ประสบอุบัติเหตุหรืออยู่ในสถานที่อันส่อเสี่ยงจะส่งผลต่อสวัสดิภาพของตนเองที่ไหน
สิ่งที่ควรตั้งคำถามคือผู้ปกครองหยกอยู่ที่ไหน หน่วยงานที่ต้องมีส่วนรับผิดชอบทำอะไรอยู่ แล้วคนรอบๆ ตัวหยกคือใครกันแน่”
“ฉันเป็นครูนิสิตอยู่ในโรงเรียนที่มีนักเรียนจากชุมชน เห็นเด็กที่ไม่ได้อยู่กับผู้ปกครอง โดนทำร้าย เอาเปรียบ ไม่สามารถเรียนได้เต็มที่ โรงเรียนก็ต้องพยายามทุกๆ อย่างเพื่อให้ผู้ปกครองมาช่วยเหลือดูแลลูกตัวเอง ไม่ใช่ยอมรับการเอาใครก็ไม่รู้มาประชุมผู้ปกครอง” น.ส.ศุกรียา ระบุ
อ่านข่าว :
- หยก ตกใจ ถูกเพื่อน น.ร.อุ้มลงจากรถ-ตร.กันออกไม่ให้ไปค่าย มีบางคนยิ้ม เปรียบเหมือน 6 ตุลา
- หยก ขวางรถบัส หลังโรงเรียนปฏิเสธไม่ให้ไปค่าย อ้างคืนค่าเทอมแล้ว
- ‘บุ้ง-หยก-บิวตี้’ ขอบคุณ ‘ป้ามล’ ไม่เคยหมดหวัง พร้อมโอบอุ้ม ส่งเสียงเพื่อเด็กและเยาวชน
- ‘หยก’ ผิดหวัง เล่าสิ่งที่เกิดขึ้นในโรงเรียน เผย ที่ผ่านมาทำอะไรไม่เคยแจ้ง ไม่ซื่อสัตย์-จริงใจ