กองทุนราษฎรประสงค์ แจงปมอนุมัติเงินประกัน ‘สมบัติ ทองย้อย’ 6 แสน ย้ำอยู่เรือนจำรอฟังคำสั่งศาล ไม่ใช่ไร้เงินวางประกัน
จากกรณีที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ถนนเจริญกรุง ศาลอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ในคดีที่พนักงานอัยการสำนักงานอาญากรุงเทพใต้ฟ้อง นายสมบัติ ทองย้อย อดีตการ์ดเสื้อแดง ในความผิดฐานหมิ่นประมาทสถาบัน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560 มาตรา 14 (3)
คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาเมื่อวันที่ 28 เม.ย.65 ว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มาตรา 14(1) (3) การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ฐานหมิ่นสถาบัน กับฐานนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จและข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร เป็นการกระทำกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 จำคุกกระทงละ 3 ปี รวม 2 กระทง เป็นจำคุก 6 ปี
ด้าน นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เปิดเผยว่า ขณะนี้ศาลอุทธรณ์ส่งคำร้องให้ศาลฎีกาพิจารณาอยู่ โดยระหว่างนี้ตัวจำเลยจะต้องถูกควบคุม (ในเรือนจำ) จนกว่าจะมีคำสั่งของศาลฎีกาลงมาว่าจะให้ประกันหรือไม่ ซึ่งทนายความได้เพิ่มหลักทรัพย์ไปอีก 3 แสนบาท รวมเป็นยื่นหลักทรัพย์ไป 6 แสนบาท
ล่าสุด เมื่อวันที่ 14 กันยายน กองทุนราษฎรประสงค์ ระบุทางเฟซบุ๊กชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีการเบิกเงินออกจากกองทุน 600,000 บาท ในคดีนายสมบัติ
เรื่อง ขอเรียนข้อเท็จจริง
เรียน ราษฎร
เนื่องจากวันนี้กองทุนราษฎรประสงค์ได้รับคำถามทางกล่องข้อความจากราษฎรหลายท่าน เพื่อขอทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกรณีการยื่นประกันตัว คุณสมบัติ ทองย้อย กองทุนเห็นว่าสมควรที่จะได้นำข้อเท็จจริงดังกล่าวแจ้งต่อสาธารณะในคราวเดียว จึงขอนำมาเผยแพร่ไว้ในที่นี้ ดังนี้
ในวันที่ 12 ก.ย.66 กองทุนราษฎรประสงค์ได้รับการแจ้งขอเบิกเงิน 600,000 บาท จากศูนย์ทนายความฯเพื่อนำไปใช้วางประกันชั้นฎีกาให้แก่ คุณสมบัติ ทองย้อย ในคดีของศาลอาญากรุงเทพใต้ และกองทุนได้แจ้งตอบรับยืนยันอนุมัติกลับไปในวันเดียวกัน ทำให้ต่อมาในวันที่ 13 ก.ย.66 จึงได้มีการยื่นประกันด้วยวงเงินดังกล่าวของกองทุน โดยผู้ประกันคนเดิมที่กองทุนมอบหมายให้เป็นผู้ประกันของคุณสมบัติตลอดมาตั้งแต่ศาลชั้นต้นและชั้นอุทธรณ์
อย่างไรก็ดี ศาลอาญากรุงเทพใต้ไม่พิจารณาคำร้องขอประกันนี้ แต่แจ้งว่าจะส่งคำร้องไปให้ศาลฎีกาเป็นผู้พิจารณา ซึ่งจะต้องใช้เวลาราว 2-3 วัน จึงทำให้คุณสมบัติต้องถูกส่งเข้าเรือนจำในระหว่างนี้ ดังนั้น การที่คุณสมบัติต้องเข้าเรือนจำในครั้งนี้จึงเป็นเพราะยังต้องรอผลจากศาลว่าจะให้ประกันหรือไม่ ไม่ใช่เพราะไม่มีเงินวางประกัน และหากว่าศาลฎีกาอนุญาตให้ประกัน เงินที่ใช้วางประกันก็จะเป็นเงินของกองทุนราษฎรประสงค์โดยผ่านผู้ประกันคนเดิมซึ่งเป็นผู้ยื่นเรื่องไว้
กองทุนราษฎรประสงค์
#ที่พึ่งแรกและที่พึ่งสุดท้ายของราษฎรคือราษฎร
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
