อาจารย์นิติฯ มช. ทวงอธิการบดี ขอตำแหน่ง ‘ศ.’ จะ 8 ปี ยังไม่ได้ ทั้งที่วิจัยหลายชิ้นคว้ารางวัล?

อาจารย์นิติศาสตร์ มช. ทวง ‘อธิการบดี’ ขอตำแหน่ง ‘ศ.’ เกือบ 8 ปี ยังไม่ได้ ทั้งที่วิจัยหลายชิ้นคว้ารางวัล ถ้าย้อนเวลาได้คงย้ายไปที่อื่น ส่งเสริมความก้าวหน้าบุคลากรมากกว่าแค่คำพูด

เมื่อวันที่ 26 กันยายน รศ.สมชาย ปรีชาศิลปกุล คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (มช.) มีจดหมายเปิดผนึกถึง อธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เรื่อง การขอตำแหน่งศาสตราจารย์ที่นานเกิน 8 ปี ลงวันที่ 25 กันยายน 2566 ซึ่งเผยแพร่ทางเฟซบุ๊ก ศูนย์วิจัยฯ มหาวิทยาลัยหน้าบางแห่งหนึ่ง ระบุดังนี้

เดือนตุลาคม 2566 จะครบเวลา 8 ปี ที่ผมได้ยื่นขอตำแหน่ง ศ. ไปตั้งแต่เมื่อตุลาคม 2558 ตอนแรกก็คิดว่าอาจจะไม่ได้รวดเร็วสักเท่าไหร่ แต่ก็ไม่ได้คิดว่าจะเนิ่นนานขนาดนี้ ไม่น่าเชื่อนะครับ มาจนจะครบ 8 ปี แต่กระบวนการนี้ก็ยังไม่จบไม่สิ้นเสียที

ปัญหาสำคัญมีหลายปัญหา แต่เรื่องหนึ่งก็คือ การที่ มช.กลับมาขอเอกสารหลายชิ้นภายหลังจากที่ผ่านไปห้าหกปี ทั้งที่ในตอนยื่นเอกสาร ทางหน่วยงานของมหาวิทยาลัยที่รับผิดชอบก็ได้ตรวจสอบและไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ กระทั่งผ่านความเห็นของผู้ทรงคุณวุฒิและสภามหาวิทยาลัยก็ได้อนุมัติตำแหน่ง ศ.ไปหลายปีแล้ว

Advertisement

ที่ผ่านมา ผมก็ได้พยายามอย่างเต็มที่ทั้งในด้านของการค้นหาหลักฐานเท่าที่มีอยู่ รวมถึงการแสดงให้เห็นถึงการเผยแพร่อย่างกว้างขวาง ทั้งไปเจรจากับเจ้าหน้าที่และผู้บริหารหลายคน แต่ก็เหมือนเยี่ยวรดหัวเป็ด กล่าวคือไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง หลายคนที่ไปเจรจาก็กลายเป็น ศ.ปฏิบัติ ไปอย่างรวดเร็ว (แต่บังเอิญผมไม่ได้สนใจจะขอ ศ.ปฏิบัติ เพราะไม่รู้ว่ามันคืออะไร สะท้อนความรู้ทางวิชาการมากมายขนาดไหน)

วันนี้ได้รับข่าวมาว่าทางมหาวิทยาลัยขอให้ทางคณะแก้ไขเอกสารอะไรบางอย่าง (ที่ผมไม่สนใจจะรับรู้แล้ว และยืนยันว่าจะไม่ดำเนินการอะไรอีกแล้ว แต่ทางคณะได้เป็นธุระดำเนินการให้แทน) ก็ได้แต่สะท้อนใจว่าความผิดพลาดครั้งหนึ่งในชีวิตก็คือ เมื่อเกือบยี่สิบปีก่อน มีคนชักชวนให้กลับไปอยู่มหาวิทยาลัยในกรุงเทพฯ แต่ด้วยความเบาปัญญาส่วนตัวนั่นแหละ จึงเลือกตัดสินใจจะอยู่ในสถานที่แห่งนี้ ด้วยความเชื่อว่าคุณธรรมและความโปร่งใสของมหาวิทยาลัยแต่ละแห่งคงไม่ต่างกันมากเท่าไหร่

ถ้าย้อนเวลากลับไปได้จริงๆ อันหนึ่งที่ผมจะแก้ไขก็คือ การย้ายไปอยู่ที่อื่นๆ ที่เขาให้ความสำคัญและส่งเสริมความก้าวหน้าของบุคลากรมากกว่าแค่คำพูด

Advertisement

ไหนๆ ก็พูดแล้ว ผมสามารถทวงบุญคุณที่สร้างชื่อเสียงให้มหาวิทยาลัยได้หลายอย่าง งานวิจัย 3 ชิ้นใน 5 ปีหลัง ได้รับรางวัลจากสภาวิจัยแห่งชาติ ที่ทำให้ผู้บริหารได้ไปยืนถ่ายรูปยิ้มแย้มกับผลงานของบุคลากรก็เป็นอันหนึ่งในอีกหลายๆ เรื่องที่ผมได้กระทำ

ต้องขอโทษหากที่เขียนมาอาจจะหยาบคายไปบ้าง แต่ผมก็คิดว่าสิ่งนี้ไม่ได้หยาบคายมากไปกว่าที่มหาวิทยาลัยปฏิบัติต่อผม เอาง่ายๆ ว่าถ้าผู้บริหาร บรรดาผู้ช่วย รอง หรือแม้กระทั่งอธิการบดี ขอตำแหน่งแล้วใช้เวลานานขนาดนี้ พวกท่านก็จะยิ้มแย้มสบายๆ กันอยู่ใช่หรือไม่

ผมไม่รู้หรอกว่าอธิการบดีจะได้อ่านจดหมายนี้หรือไม่ รบกวน IO ของมหาวิทยาลัยที่ชอบมาส่องเพจนี้ช่วยแจ้ง หรือส่งต่อไปให้หน่อยก็จะเป็นพระคุณอย่างยิ่ง

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image