ส.ส.ภูมิใจไทย โพสต์ไม่เห็นด้วย รัฐแจกเงินดิจิทัล ยกเหตุการณ์ไม่คาดคิด แนะกระตุ้นศก.แบบอื่น

ส.ส.ภูมิใจไทย โพสต์ไม่เห็นด้วย รัฐแจกเงินดิจิทัล ยกเหตุการณ์ไม่คาดคิด ต้องใช้งบอีกจำนวนมาก แนะกระตุ้น ศก.แบบอื่นที่เงื่อนไขชัดเจน

เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2566 นายสฤษฏ์พงษ์ เกี่ยวข้อง ส.ส.กระบี่ พรรคภูมิใจไทย ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวแสดงความเห็นส่วนตัว ไม่เห็นด้วยกับที่รัฐบาลจะแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท โดยระบุว่า

ประเด็นเรื่อง เงินดิจิทัลวอลเล็ต ที่รัฐบาลแจก 10,000 บาทนั้น โดยส่วนตัวผมไม่เห็นด้วยที่จะนำมาแจกขณะนี้ เนื่องจากวันนี้เองเรามีเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดอยู่บ่อยครั้ง ล่าสุดคือสงครามระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาส วันนี้พี่น้องแรงงานไทยได้รับผลกระทบมาก ประเทศไทยยังต้องใช้งบประมาณในการช่วยเหลือคนกลุ่มนี้อยู่ และอาจจะเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดอีกหลายเหตุการณ์ ไม่ว่าจะเป็นวาตภัย อุทกภัย หรือฝุ่น PM2.5 ที่จะเกิดขึ้น เหล่านี้คือปัญหาที่จะซ้ำเติมประเทศ

ซึ่งถ้าเราใช้งบประมาณ 5.6 แสนล้าน ไปกับการแจกเงินนั้น ผมคิดว่า ประเทศไม่สามารถดำเนินการในกิจการนี้ได้ เรื่องงบกลางงบฉุกเฉินก็ไม่สามารถทำได้ เรื่องการแจกเงินนั้น ยังไม่รู้วัตถุประสงค์กลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน ขณะเดียวกันความเหลื่อมล้ำยังมีอยู่ และยังไม่มีความชัดเจนในเรื่องที่มาของแหล่งงบประมาณว่า จะมาจากแหล่งใด จะกระทบต่อฐานะการคลังมากน้อยแค่ไหน

Advertisement

ผมคิดว่า การกระตุ้นเศรษฐกิจในขณะนี้ควรกระตุ้นในรูปแบบอื่นได้ดีกว่า เช่น การลงทุนการแก้ปัญหาด้านการท่องเที่ยว ภาคอุตสาหกรรม ภาคการเกษตร ปัจจุบันตลาดแรงงานในกระบี่ และหลายพื้นที่ยังมีความต้องการในการจ้างงานเพิ่มมากขึ้น หรือการเพิ่มค่าตอบแทนในส่วนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ข้าราชการชั้นผู้น้อย ข้าราชการครู ถือว่า เป็นเงื่อนไขที่ชัดเจนกว่า

และผมเห็นด้วยกับประเด็นที่ท่าน ส.ส.กรวีร์ ปริศนานันทกุล ส.ส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ในกรณีที่นำงบประมาณส่วนนี้มาแก้ปัญหาน้ำประปา ผมคิดว่า เป็นสิ่งที่จำเป็นและเป็นปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนอย่างมาก โดยเฉพาะจังหวัดกระบี่ ในปัจจุบันมีการใช้น้ำประปาภูมิภาคเพียงแค่ 26% เท่านั้นเอง และเป็นเมืองท่องเที่ยวด้วย การนำเงินส่วนนี้ มาพัฒนาเมืองท่องเที่ยวเพื่อให้มีการขยายตัวของน้ำอุปโภคบริโภคของการประปาภูมิภาค สิ่งเหล่านี้ ผมคิดว่า น่าจะเป็นช่องทาง ในการกระตุ้นเศรษฐกิจในภาพรวมได้ดีกว่าที่จะนำเงิน 5.6 แสนล้าน มาแจกเป็นรายหัว

Advertisement

ย้อนอ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image