‘สมัชชาคนจน’ ตามติด ที่รับปากทำจริง? ลุ้นมติ ครม.-ร้อง ตร.ต้องร่วมรับผิด หลังผู้ชุมนุมเสียชีวิต คอนเทนเนอร์-สังกะสีปิดทางลม
สืบเนื่องการชุมนุมของกลุ่มสมัชชาคนจน ซึ่งปักหลักบริเวณถนนลูกหลวง ริมคลองผดุงกรุงเกษม เขตพระนคร กรุงเทพฯ เป็นเวลายาวนานกว่า 1 เดือน เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของผู้มีรายได้น้อย โดยที่ผ่านมาตัวแทนสมัชชาคนจน ได้เข้าหารือกับตัวแทนของกระทรวงต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทั่งมีการตั้งคณะกรรมการแก้ไขปัญหา 7 ชุด ให้มีการเร่งแก้ปัญหา ล่าสุดวานนี้ (6 พ.ย.) สมัชชาคนจน ประมาณ 400 คน เคลื่อนขบวนไปยังกรมชลประทาน เพื่อทวงถามความคืบหน้าการนำเรื่องเข้า ครม.เพื่อแก้ไขปัญหา ยกเลิกเขื่อนท่าแซะและเขื่อนแก่งเสือเต้น และนำเสนอผลการศึกษาผลกระทบจากการสร้างเขื่อนราษีไศลและเขื่อนหัวนา รวมถึงไปเร่งรัดให้กระทรวงแรงงาน กำหนดวันจัดประชุมคณะกรรมการแก้ไขปัญหาสมัชชาคนจน เพื่อแก้ไขปัญหาสวัสดิการให้ครอบคลุมแรงงานทุกกลุ่ม
เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน ที่ถนนลูกหลวง สมัชชาคนจน ร่วมรำลึกถึง แม่ทอง บุญขันธุ์ ที่เสียชีวิตจากการเจ็บป่วยหลังการเดินทางมาร่วมชุมนุม โดยวันนี้ครบรอบ 1 เดือนของการเดินทางมาชุมนุม ก่อนร่วมลุ้นมติ ครม.เรื่องสูญเสียรายได้ของชาวราษีไศลและหัวนา
บรรยากาศเวลา 09.00 น. ผู้ชุมนุมต่อแถวเพื่อนำเงินมาหย่อนลงบนกล่องบริจาค เพื่อร่วมทำบุญสมทบจัดงานฌาปนกิจ อุทิศให้กับ แม่ทอง บุญขันธุ์ ซึ่งเป็นผู้ชุมนุมที่เสียชีวิต ขณะที่กำลังต่อสู้เพื่อสิทธิของผู้มีรายได้น้อยที่ได้รับผลกระทบจากโครงการของรัฐ
ในตอนหนึ่ง นายไพฑูรย์ สร้อยสด เลขาธิการสมัชชาคนจน เปิดเผยว่า ความจริงเราได้ขออนุญาตการใช้สถานที่ยาวไปจนถึงกระทรวงศึกษาธิการ แต่ผลปรากฏว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้ทำตามที่ขอไว้ แม้จะประสานงานให้นำตู้คอนเทนเนอร์ออกไปเพื่อพื้นที่ชุมนุมโล่ง การถ่ายเทระบายอากาศดีขึ้น แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ยอมเอาออก
“แสดงว่า 1.มีเจตนาทำให้การชุมนุมเกิดความยากลำบาก เจตนากลั่นแกล้ง 2.หน้ากระทรวงศึกษาฯ ก็ไม่ยอมให้ใช้ ทั้งที่อยู่นอกรัศมีทำเนียบ 50 เมตร เป็นการจำกัดพื้นที่ชุมนุม มิหนำซ้ำยังเอาแผงสังกะสีมาปิดกั้น ทำให้ปิดกั้นทางลม นั่นเป็นเหตุผลที่พี่น้องเรามีสุขภาพไม่สู้ดี มีอาการเจ็บป่วยกันได้ง่าย เนื่องจากการระบายอากาศที่ไม่โล่งโปร่งสบาย ดังนั้น ไม่น้อยก็มาก ตำรวจก็ควรมีส่วนรับผิดชอบในเรื่องนี้ด้วย
ถ้าหากเขาเอาตู้ออก เราจะไม่ป่วย พื้นที่ชุมนุมเป็นสิทธิพื้นฐานที่เรามี แต่ตำรวจพยายามลิดรอนสิทธิในการชุมนุม วันนี้เราอยากให้สังคมและรัฐบาลได้เห็นว่า การปฏิบัติของตำรวจไม่ได้เป็นไปตาม พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.2558 กฎหมายตัวนั้นถือว่า ผู้ปฏิบัติงานหรือตำรวจมีหน้าที่อำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่ชุมนุมโดยสงบ สันติ ปราศจากอาวุธ จึงต้องมีส่วนรับผิดชอบ” นายไพฑูรย์ชี้
นายไพฑูรย์เผยว่า วันนี้ สมัชชาคนจนมีเรื่องสำคัญอยู่ 2 เรื่องคือ กระทรวงเกษตรจะนำเอาผลรายงานการศึกษาการสูญเสียโอกาสในการประกอบอาชีพ หรือเรียกง่ายๆ ว่ารายงานผลการสูญเสียรายได้ จากการสร้างเขื่อนราษีไศล นำเข้าการพิจารณาให้ ครม.รับทราบช่วงเช้านี้ ซึ่งมีรัฐมนตรีทยอยเข้าประชุม
“เรามีมติกันว่าเช้านี้เราจะเฝ้าติดตาม รอฟังผลจาก ครม.อยู่ในพื้นที่ชุมนุม เพื่อติดตามสิ่งที่ได้รับปากกันไว้ตั้งแต่เมื่อวาน ซึ่งตั้งแต่เช้าเราก็ไปตามหนังสือที่กรมชลฯ ในช่วงบ่ายพี่น้องเราก็ไปติดตามที่กระทรวงเกษตร ว่านำส่งเข้า ครม.จริงไหม จนเมื่อวานตอนเย็นได้เห็นกับตา ว่าทางกระทรวงเกษตรฯ นำหนังสือส่ง สำนักเลขาธิการ ครม. เช้านี้เราจึงต้องรอลุ้นว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร ผลการเจรจาวันที่ 11 ตุลาคมที่ผ่านมา มีแนวทางในการแก้ไขปัญหาอย่างไร” นายไพฑูรย์เผย
นายไพฑูรย์กล่าวอีกว่า ส่วนช่วงบ่าย เป็นการประชุมคณะกรรมการกำกับและติดตามการแก้ไขปัญหาสมัชชาคนจน ซึ่งอยู่ภายในทำเนียบรัฐบาล มีตัวแทนสมัชชาคนจน 12 ท่านเข้าร่วมประชุม
“ครั้งนี้เป็นเรื่องสำคัญไม่น้อย เป็นเหมือนใบเบิกทาง จุดเริ่มต้นของกระบวนการแก้ไขปัญหาที่จะดำเนินไปหลังจากนี้ เราจะเคลื่อนขบวนไปส่งตัวแทนประชุม และรอรับฟังผล ติดตามความคืบหน้าอย่างใกล้ชิด” นายไพฑูรย์กล่าว ก่อนผู้ชุมนุมสลับกันขึ้นปราศรัยถึงปัญหาในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง
ต่อมา เวลาประมาณ 12.00 น. ผู้ชุมนุมเคลื่อนขบวนไปยังประตู 4 ทำเนียบรัฐบาล เพื่อติดตามการประชุมคณะกรรมการโดยส่งตัวแทนร่วมฟังมติ ครม.
อ่านข่าว : สมัชชาคนจน ดาวกระจาย! บุกถาม ‘กรมชลฯ’ เรื่องเข้า ครม.ยัง? ตามนัด ‘แรงงาน’ หลังอ้างงานเยอะ