อนุทิน เล็งขยายพื้นที่เพิ่ม เปิดผับตี4 ฮึ่ม ฟันจังหวัดไม่เกี่ยว ลักลอบเปิดเกินเวลา

อนุทิน เผย ทุกฝ่ายร่วมมือรักษาระเบียบ หลังไฟเขียวจัดโซนเปิดสถานบันเทิงถึงตี 4 แย้ม ถ้าสร้างประโยชน์ชัด เล็งขยายพื้นที่

เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีสถานบันเทิงแห่งหนึ่งใน จ.มหาสารคาม ลักลอบเปิดบริการเกินเวลาที่กำหนด และไม่ได้อยู่ในพื้นที่ที่ได้รับอนุญาตให้ขยายเวลาเปิดบริการ ว่า จ.มหาสารคามอยู่นอกพื้นที่ที่ได้รับอนุญาตให้ขยายเวลา อีกทั้งถ้าร้านดังกล่าวจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และเปิดเกินเวลาหลังเวลา 24.00 น. ก็ต้องถูกดำเนินคดี เพราะอยู่นอกโซนที่ได้รับอนุญาต ขณะที่เจ้าหน้าที่บ้านเมืองก็ต้องกวดขัน

นายอนุทินกล่าวว่า จากการที่ตนและเจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่ไปตรวจสถานบันเทิง พบว่าทุกคนให้ความร่วมมือ และกฎหมายทำให้เกิดความปลอดภัยได้ถ้าทุกคนปฏิบัติตาม และดื่มไม่ขับ ขณะที่นักท่องเที่ยวก็มีสำนึกความรับผิดชอบร่วมกัน บางคนไม่ดื่มเพื่อพาเพื่อนกลับบ้าน ถ้าอย่างนี้ ก็ไม่มีอันตรายเหมือนกับที่โทษกันว่าสาเหตุมาจากการเปิดผับบาร์ถึงเวลา 04.00 น. ส่วนร้านที่ไม่มีใบอนุญาตก็ต้องปิดเมื่อถึงเวลาเที่ยงคืน

นายอนุทินกล่าวว่า นอกจากนี้ ถ้าทุกคนร่วมมือและรักษาระเบียบ ก็ต้องหาทางช่วยเหลือผู้ประกอบการ มิเช่นนั้นจะเอื้อให้ผู้ที่มีใบอนุญาตซึ่งมีจำนวนน้อยอยู่แล้ว เรื่องนี้ต้องไปคิดต่อว่าในเมื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ และเป็นการกระตุ้นแน่นอนในพื้นที่โซนนิ่งที่ได้รับอนุญาต ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ ไม่เฉพาะได้เที่ยว แต่ผู้ประกอบอาชีพอื่นๆ เช่น คนขับรถ บริกร ก็สามารถรับลูกค้าเพิ่มขึ้นได้

ADVERTISMENT

นายอนุทินกล่าวย้ำว่า หากรักษาระเบียบและมีเจ้าหน้าที่ดูแล ก็น่าจะเป็นผลดี และถ้าเป็นอย่างนั้น ก็ต้องมาคิดกันว่าอาจมีการขยายเวลาจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แต่ตอนนี้ต้องดูสถานการณ์ก่อนว่าทำได้หรือไม่ ซึ่งการจะขยายพื้นที่อนุญาตขยายเวลาเปิดบริการได้เพิ่มเติมหรือไม่ ต้องดูสถานการณ์และดูเป็นกรณี ถ้าเราได้รับความร่วมมือจากทุกคนและทุกฝ่าย การรักษากฎหมายมีประสิทธิภาพก็ต้องหารือนายกรัฐมนตรีที่เป็นผู้สั่งการให้ใช้นโยบายเหล่านี้

นายอนุทินกล่าวว่า ทั้งนี้หากทุกอย่างดูแล้วเหมาะสม มีความพร้อมของทุกฝ่าย ก็สามารถทำได้ และที่สำคัญต้องดูว่ากฎหมายให้ทำได้แค่ไหน แต่เรื่องยาก คือ การแก้ไขพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) เพราะมีกระบวนการที่ต้องเสนอเข้าสภาผู้แทนราษฎร อย่างไรก็ตามขอย้ำว่าถ้าทุกอย่างมีประโยชน์ ไม่ก่อให้เกิด ก็น่าจะทำ

ADVERTISMENT

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง 

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image