ทัศนัย ชวนลุ้น พรุ่งนี้อัยการเตรียมสั่งฟ้อง ‘อาจารย์-น.ศ.’ คดีทวงคืนหอศิลป์ มช. ปี’64

ภาพโดย ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน

ทัศนัย พร้อมอาจารย์-น.ศ. ฟังคำสั่งฟ้องพรุ่งนี้ คดีทวงคืนหอศิลป์ มช. จัดแสดงผลงาน ปี’64 ชี้สะท้อนท่าทีเสรีภาพการศึกษา

เมื่อวันที่ 22 มกราคม ผศ.ดร.ทัศนัย เศรษฐเสรี อาจารย์ภาควิชาสื่อศิลปะและการออกแบบสื่อ คณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (มช.) ระบุทางเฟซบุ๊ก Thasnai Sethaseree ถึงกรณีที่วันพรุ่งนี้ (23 มกราคม) ที่ศาลจังหวัดเชียงใหม่ พนักงานอัยการจังหวัดเชียงใหม่นัดหมายสั่งฟ้องคดีของ 3 อาจารย์และนักศึกษาของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จากกรณีเหตุที่อาจารย์และนักศึกษาสาขาวิชา Media Art and Design ร่วมกันตัดโซ่และเข้าไปใช้พื้นที่ของหอศิลปวัฒนธรรมของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เพื่อจัดแสดงงานศิลปะประจำปีตามรายวิชาเรียน เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2564

ผศ.ดร.ทัศนัยระบุว่า “พรุ่งนี้ เวลา 10.00 น. ผม อาจารย์จุ้ย (อาจารย์ศรยุทธ เอี่ยมเอื้อยุทธ
อาจารย์) และ นักศึกษาอีกคนหนึ่ง จะไปศาลจังหวัดเชียงใหม่ ในคดียึดหอศิลป์ ที่เกิดขึ้นเมื่อ 2 ปีก่อน

คดีนี้ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เป็นผู้ฟ้อง โดยมอบอำนาจให้ อัศวิณีย์ หวานจริง เป็นผู้ดำเนินการ

Advertisement

ศาลปกครองเชียงใหม่และคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติได้วินิจฉัยคดีนี้เสร็จสิ้นไปแล้วว่า นักศึกษาได้เข้าไปใช้สิทธิในการใช้พื้นที่หอศิลป์ตามรัฐธรรมนูญเพื่อปกป้องความเสียหาย และผู้บริหารมหาวิทยาลัยมิได้ออกคำสั่งอนุญาต หรือไม่อนุญาตให้ใช้พื้นที่ตามกรอบเวลาที่กฎหมายกำหนด

สำนักอัยการเชียงใหม่มีดุลพินิจไม่สั่งฟ้องไปแล้ว แต่เรื่องถูกส่งต่อไปให้สำนักงานตำรวจภาค 5 ซึ่งมีความเห็นแย้งกับอัยการให้ดำเนินการฟ้องต่อ

มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ควรจะต้องไปถอนฟ้องตั้งแต่รับทราบคำวินิจฉัยของศาลปกครองและคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ แต่ก็ไม่ทำ

Advertisement

คดีนี้มีเรื่องสนุกเยอะครับ ที่สะท้อนท่าทีของมหาวิทยาลัยต่อเสรีภาพในการศึกษา

ใครว่าง ไปเจอพวกเราได้ที่ศาลอาญาเชียงใหม่

10 โมงเช้า”

สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 16 -24 ต.ค.2564 ต่อเนื่องกัน ทั้งสามคน กับพวก ร่วมกันตัดโซ่ที่คล้องประตูรั้วทางเข้า-ออกหอนิทรรศการศิลปวัฒนธรรมมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และร่วมกันบุกรุกเข้าไปในบริเวณหอศิลป์ และอาคารสํานักงาน เป็นเหตุให้ทรัพย์สินภายในได้รับความเสียหาย ได้แก่ โซ่และแม่กุญแจในบริเวณประตูรั้วทางเข้า กุญแจประตูหอศิลป์ (ทั้งด้านหน้า-ด้านหลัง) ประตูห้องควบคุมไฟฟ้า (ด้านหลังหอศิลป์) ผนังห้องภายในห้องนิทรรศการ กล้องวงจรปิด พื้นอิฐบล็อกที่จอดรถ โดยไม่ได้รับอนุญาต

ทั้งสามให้การปฏิเสธข้อกล่าวหา และให้การต่อสู้คดีแล้ว ต่อมาตำรวจได้นัดส่งสำนวนคดีให้กับอัยการจังหวัดเชียงใหม่ไปเมื่อวันที่ 18 เม.ย.2566 โดยอัยการนัดฟังคำสั่งในแต่ละเดือนตลอดปีที่ผ่านมา จนการนัดฟังคำสั่งครั้งที่ 8 ในวันที่ 23 ม.ค.2567 นี้ อัยการแจ้งว่าจะมีคำสั่งฟ้องคดีต่อศาลจังหวัดเชียงใหม่

ทั้งนี้ ระหว่างความขัดแย้งเรื่องการขอใช้หอศิลป์ มช. นักศึกษาของสาขาวิชา Media Art and Design ยังมีการฟ้องร้องความล่าช้าของผู้ดูแลและผู้บริหารของหอศิลป์ที่ไม่มีคำสั่งอนุญาตหรือไม่อนุญาตให้ใช้พื้นที่ จนอาจเกิดความเสียหายต่อนักศึกษา โดยได้มีการยื่นฟ้องต่อศาลปกครองเชียงใหม่ว่าการไม่ออกคำสั่งของผู้ดูและผู้บริหารของหอศิลป์นั้นเป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย

แต่การพิจารณาคดีของศาลปกครองเกิดขึ้นหลังจากกลุ่มนักศึกษาได้เข้าใช้งานพื้นที่หอศิลป์จนเสร็จสิ้นกิจกรรมแล้ว ศาลปกครองจึงได้มีคำสั่งจำหน่ายคดี เนื่องจากเห็นว่าล่วงพ้นเวลาที่ศาลจะมีคำสั่งใดๆ เพื่อเยียวยาความเดือดร้อนหรือความเสียหายของนักศึกษาได้แล้ว

อีกทั้งเมื่อวันที่ 19 พ.ค.2566 คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ยังได้มีการหยิบยกกรณีนี้ขึ้นตรวจสอบประเด็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน และพิจารณามีความเห็นว่าการที่คณะวิจิตรศิลป์ โดยคณะกรรมการฯไม่แจ้งผลการพิจารณาขอใช้พื้นที่หอศิลป์ มช. ให้นักศึกษาทราบในเวลาอันสมควร และขัดขวางไม่ให้อาจารย์และนักศึกษาเข้าไปใช้พื้นที่หอศิลปวัฒนธรรมในการจัดแสดงผลงานศิลปะ จึงกระทบต่อเสรีภาพทางวิชาการอันเป็นการกระทำหรือละเลยการกระทำที่เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน

กสม.ระบุว่า ยังได้จัดทำข้อเสนอแนะไปยังผู้บริหารมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ให้ใช้ความระมัดระวัง ในการใช้ดุลพินิจที่อาจกระทบต่อเสรีภาพทางวิชาการ และให้มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โดยคณะวิจิตรศิลป์ปรับแก้ระเบียบ ข้อบังคับ หรือประกาศเกี่ยวกับขั้นตอนในการขอใช้พื้นที่หอศิลปวัฒนธรรมเพื่อจัดแสดงผลงานของนักศึกษา และกำหนดกรอบระยะเวลาในการยื่นคำขอและระยะเวลาในการพิจารณาคำขออนุญาตให้ชัดเจน

รวมทั้งให้มหาวิทยาลัยเชียงใหม่กำหนดหลักเกณฑ์เพื่อเปิดโอกาสให้อาจารย์ประจำสาขาวิชาและ/หรือนักศึกษาที่ขอใช้พื้นที่หอศิลปวัฒนธรรมได้เข้าชี้แจงหรือแสดงความเห็นต่อคณะกรรมการดำเนินงานหอศิลปวัฒนธรรมเพื่อประกอบการพิจารณาคำขอโดยให้คำนึงถึงเสรีภาพทางวิชาการด้วย

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image