ชัยชนะ ชี้เคสฝรั่งเตะหมอ เด็ดดอกไม้สะเทือนถึงดวงดาว จี้ รบ.ปราบมาเฟียต่างชาติ

แฟ้มภาพ

‘ชัยชนะ’ ชี้เหตุการณ์ ‘ฝรั่งทำร้ายหมอ’ เหมือนเด็ดดอกไม้สะเทือนถึงดวงดาว ทำหลายหน่วยงานต้องตรวจสอบอย่างหนัก จี้หากรัฐบาลตั้งใจปราบปรามผู้มีอิทธิพลต้องปราบผู้มีอิทธิพลชาวต่างชาติที่มาอาศัยในประเทศไทยด้วย

เมื่อวันที่ 6 มีนาคม นายชัยชนะ เดชเดโช ส.ส.นครศรีธรรมราชและรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ชาวต่างประเทศทำร้าย พญ.ธารดาว จันทร์ดำ หรือ หมอปาย แพทย์ประจำโรงพยาบาลดีบุก บริเวณชายหาดยามู ต.ป่าคลอก อ.ถลาง จ.ภูเก็ต จนเกิดกระแสให้มีการดำเนินการทางกฎหมายและส่งผลกระทบในวงกว้างว่า ถือเป็นเรื่องที่ประชาชนในพื้นที่และคนไทยทั้งประเทศติดตามอย่างใกล้ชิด เพราะกลายเป็นเรื่อง “เด็ดดอกไม้สะเทือนถึงดวงดาว” เนื่องจากหากชาวต่างประเทศผู้นั้นดำเนินชีวิตไปตามวิถีปกติ ก็จะไม่เรื่องราวใดๆ เกิดขึ้น แต่เมื่อเกิดเหตุดังกล่าวแล้ว นอกจากจะมีการขุดคุ้ยพฤติกรรมที่มีลักษณะเป็นผู้มีอิทธิพลและเป็นภัยสังคมแล้ว ยังปลุกกระแสให้ประชาชนทวงคืนชายหาดสาธารณะใน จ.ภูเก็ต และหลายพื้นที่ของประเทศไทย รวมทั้งหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีการดำเนินการต่อเนื่อง

นายชัยชนะกล่าวว่า เช่น นายศรัทธา ทองคำ รองผู้ว่าราชการ จ.ภูเก็ต รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการ จ.ภูเก็ต ได้ทำหนังสือถึง พ.ต.อ.เกรียงไกร อาริยะยิ่ง ผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมือง จ.ภูเก็ต เพื่อขอให้พิจารณาดำเนินการเพิกถอนวีซ่า เนื่องจากพิจารณาแล้วเห็นว่ามีพฤติการณ์เป็นที่น่าเชื่อว่าเป็นบุคคลที่เป็นภัยต่อสังคม หรือจะก่อเหตุร้ายให้เกิดอันตรายต่อความสงบสุขและความเรียบร้อยของประชาชน นายสุวัฒน์ เสาวรัญ ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช.ประจำ จ.ภูเก็ต พร้อมด้วย นายปัณยา สำเภารัตน์ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลป่าคลอก นำเจ้าหน้าที่ในส่วนที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงต่างๆ ในพื้นที่หาดยามู เป็นต้น

นายชัยชนะกล่าวต่อว่า ฉะนั้น จึงขอเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งดำเนินการตรวจสอบชาวต่างประเทศที่มีพฤติการณ์เหมือนกับบุคคลที่ก่อเหตุ เนื่องจากเชื่อว่ากลุ่มคนเหล่านี้ได้เข้ามาสร้างอิทธิพลและก่อความเดือดร้อนให้กับคนไทยซึ่งเป็นเจ้าของประเทศ เหมือนในช่วงที่ผ่านมาเกิดเรื่อง “จีนเทา” สร้างปัญหาและผลกระทบเป็นวงกว้าง เช่น การหลอกหลวงชักชวนให้ลงทุน การชักจูงให้เข้าแก๊งอาชญากรรม การร่วมมือกับคนไทยเพื่อกระทำผิดกฎหมายในหลายลักษณะ เป็นต้น รวมทั้งอาจจะต้องกลับไปเริ่มแก้ปัญหาที่ต้นทางการตรวจสอบตั้งแต่หน้าประตูบ้าน คือตรวจสอบการออกวีซ่า เส้นทางทางการเงิน และการทำหน้าที่อย่างซื่อสัตย์สุจริต ของหน่วยงานที่มีอำนาจตรวจสอบด้วย ทั้งนี้ เพื่อรักษาอธิปไตยและความสงบสุขของประชาชนคนไทยทั้งประเทศ

Advertisement

“กรณีที่เกิดขึ้นนอกจากจะเป็นคดีอาญาที่ยอมความกันไม่ได้แล้ว ยังส่งผลสะเทือนในหลายภาคส่วน เช่น การตรวจสอบการถือครองที่ดินริมชายหาด เพราะปกติแล้วถือเป็นสาธารณสมบัติที่ห้ามซื้อขายกันตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ แต่เมื่อปรากฏว่ามีชาวต่างชาติมาบุกรุกมาทำเป็นพูลวิลล่าส่วนตัว จนเกิดกระแสทวงคืนชายหาดสาธารณะไปทั่วประเทศนั้น ก็ยิ่งสงสัยว่ามีใครที่ไปเกี่ยวข้องกับขบวนการดังกล่าวและปล่อยให้เกิดการก่อสร้างได้อย่างไร เรื่องนี้จะมีการตรวจสอบอย่างเข้มข้นต่อไป

ส่วนที่ชาวต่างชาติมีพฤติกรรมที่เป็นภัยต่อความมั่นคง และสร้างอิทธิพลจนทำให้คนไทยวิตกกังวลนั้น ผมก็ขอให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหา เพราะผมเชื่อว่าหากรัฐบาลต้องการปราบปรามผู้มีอิทธิพล ทั้งในระดับพื้นที่และระดับประเทศแล้ว จะต้องปราบปรามผู้มีอิทธิพลที่เป็นชาวต่างชาติที่มาอาศัยในประเทศไทยด้วย” นายชัยชนะกล่าว

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image