‘ศิริกัญญา’ แนะแจกดิจิทัลวอลเล็ต ปรับเงื่อนไขเอื้อร้านเล็ก เย้ยดึงร้านสะดวกซื้อเข้าร่วมหวังปักธงสำเร็จ

‘ศิริกัญญา’ แนะแจกดิจิทัลวอลเล็ต ปรับเงื่อนไขเอื้อร้านเล็ก เย้ยดึงร้านสะดวกซื้อเข้าร่วมหวังปักธงสำเร็จ

 

เมื่อวันที่ 20 เมษายน ที่อาคารอนาคตใหม่ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) จัดเสวนา “ดิจิทัลวอลเล็ต…เงินกำลังจะหมุนไปไหน?” โดย น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรค ก.ก. และนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค ก.ก.

น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า ดิจิทัลวอลเล็ตอาจเป็นโครงการที่ทำให้เศรษฐกิจโต เพราะมีการใช้งบประมาณจำนวนมาก แต่ก็ต้องยอมรับด้วยว่าเป็นการโตเฉพาะบางกลุ่ม พร้อมทั้งมีข้อกังวลเกี่ยวกับซุปเปอร์แอปว่า ตัวระบบจะเสร็จทันหรือไม่ เพราะหากระบบล่มจะส่งปัญหา กับผู้ใช้งานกรณีของแอปพลิเคชั่นไม่เสถียร เหมือนกรณีแอปพลิเคชั่นเป๋าตัง

Advertisement

น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า พรรคก้าวไกลจะติดตามโครงการดิจิทัลวอลเล็ตอย่างใกล้ชิดต่อไป ว่ารัฐบาลจะสามารถดำเนินการได้ทันในไตรมาส 4 ตามที่ประกาศออกมาหรือไม่ และขอให้รัฐบาลออกมาสร้างความเชื่อมั่นใจกับประชาชน หากจะมีการใช้เงินจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต นอกจากนี้ ยังมีข้อสังเกตถึงการอ้างอิงข้อกฎหมายตามมาตรา 28 ว่าสามารถทำได้ตรงตามวัตถุประสงค์หรือไม่ ซึ่งคงจะมีการส่งกฤษฎีกาตีความต่อไป

ด้านนายณัฐพล กล่าวว่า หากรัฐบาลยืนยันว่าใช้เทคโนโลยีบล็อกเชน ก็ยิ่งจะต้องตอบให้ได้ว่า เงินทั้งหมดหมุนไปกระจุกอยู่ที่ใคร และหากเป็นโครงการทดลอง ก็อยากทราบว่า เงินกว่า 5 แสนล้านบาท ต้องทดลองกี่ชั่วลูกชั่วหลาน จึงจะสำเร็จ

ขณะที่ช่วงถามตอบ ได้มีประชาชนถามว่า วัตถุประสงค์ของโครงการจะช่วยคนรากหญ้า แต่กลับมีร้านสะดวกซื้อเข้ามาร่วม น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า เราจึงต้องทำงานหนัก เพื่อให้ร้านค้าขนาดเล็กเข้าร่วม แต่ไม่มั่นใจว่ารัฐบาลจะทำหรือไม่ อย่างไรก็ตาม มองว่าการมีร้านสะดวกซื้อเข้ามา เหมือนเป็นจุดเสริมของโครงการ ที่ทำให้โครงการประสบความสำเร็จได้ง่ายขึ้น

Advertisement

น.ส.ศิริกัญญา กล่าวต่อว่า ด้วยเงื่อนไขทั้งหมดที่มีอยู่ ณ วันนี้ยิ่งทำให้เห็นชัดว่า เงินจะหมุนกระจุกอยู่ที่ทุนขนาดใหญ่ โดยวิธีการและเงื่อนไขต่างๆ ที่สร้างข้อจำกัดให้กับร้านค้าขนาดเล็ก โดยเฉพาะเงื่อนไขการแลกเป็นเงินสดได้เฉพาะที่อยู่ในฐานภาษีเท่านั้น ร้านขนาดเล็กที่สายป่านสั้น ยิ่งจะไม่อยากเข้าร่วมโครงการก็ได้ ดังนั้นคนที่ได้รับประโยชน์เต็มๆ คือร้านค้าขายปลีกที่เป็นเชนขนาดใหญ่ รวมถึงร้านค้าสะดวกซื้อต่างๆ ที่ได้อานิสงส์จากเรื่องนี้ไปเต็มเต็ม

น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า หากรัฐบาลไม่เปลี่ยนเงื่อนไข จูงใจให้ร้านขนาดเล็กเข้ามาร่วมได้ เงินก็จะหมุนไปอยู่กับทุนใหญ่เท่านั้น เรื่องนี้สามารถพิสูจน์ได้ถ้าบล็อกเชนโปร่งใส ทําให้เข้าไปเช็คได้ เห็นว่ามีกระเป๋าเงินไหนได้เงินเป็นพิเศษ ซึ่งเรื่องนี้ยังแก้ไขทัน หากใส่ใจอยากจะให้เงินกระจายไปทั่วๆ

ขณะที่นายณัฐพล กล่าวเสริมว่า นอกจากจะเปิดเผยข้อมูลว่ากระเป๋าใครใหญ่หรือเล็ก แต่ปัจจัยความสำเร็จ จะต้องมีร้านเล็กๆ เข้าระบบมากขึ้น ดังนั้นสิ่งที่จะช่วยให้สามารถตรวจสอบได้ คือช่วงลงทะเบียนไตรมาส 3 รัฐบาลต้องเปิดเผยรายชื่อผู้ลงทะเบียนร้านค้า หากเปิดเป็นรายอำเภอ ก็จะยิ่งได้เห็นว่าเงินจะไปอยู่ที่ไหน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image