“วิลาศ” แฉ อดีตรองปธ.สภา ออกโฉนด 35 ไร่ ทับที่ดินป่าสงวนฯ น้ำผุดทับลาว 3 ไร่ เผยล่าสุด “ป.ป.ช.” แจ้ง กรมที่ดิน เพิกถอน-ดำเนินการทางวินัยแล้ว
เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม ที่รัฐสภา นายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ อดีต ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ และอดีตประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร แถลงว่า เมื่อปี 2558 ตนได้รับการร้องเรียนว่ามีอดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนหนึ่ง ใช้เอกสาร สค.1 ไปออกโฉนดที่ดิน จำนวน 35 ไร่ ผิดกฎหมาย ซึ่งได้นำเรื่องร้องคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กระทั่งปลายเดือน เม.ย.2567 ป.ป.ช.มีหนังสือแจ้งผลการพิจารณาและชี้มูลความผิดว่า ผลการตรวจสอบของ ป.ป.ช.ปรากฏว่าอดีตรองประธานสภาคนดังกล่าว ที่แจ้งการครอบครองที่ดิน (สค.1) ตั้งอยู่หมู่ 11 ต.ทุ่งพระ อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ พบว่า สค.1 ดังกล่าวมีการนำมาออกโฉนดที่ดินซ้ำถึง 3 ครั้ง หรือเรียกว่าเป็น สค.1 บิน โดยมีการออกโฉนดรวม 35 ไร่ ซึ่ง 31 ไร่เศษ เป็นที่ดิน ส.ป.ก. และอีก 3 ไร่เศษ เป็นที่ดินอยู่ในป่าสงวนแห่งชาติ สภาพพื้นที่เป็นป่าที่ควรอนุรักษ์ไว้ให้ชุมชนใช้ร่วมกัน อยู่ในสวนรุกขชาติ น้ำผุดทับลาว พฤติกรรมดังกล่าวถือว่า เป็นการกระทำความผิดและฝ่าฝืนประมวลจริยธรรม ส.ส. ปี 2553 ข้อ 6, 7 และ 11 เป็นการกระทำผิดร้ายแรงตามรัฐธรรมนูญ 2558 มาตรา 279
นายวิลาศกล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ป.ป.ช.ได้แจ้งให้กรมที่ดินตรวจสอบและเพิกถอนเอกสารสิทธิดังกล่าว พร้อมแจ้งให้สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ตรวจสอบการอ้างถือครองเอกสิทธิ์ที่ดิน ส.ป.ก.ของบุคคลดังกล่าว และส่งเรื่องให้ผู้บังคับบัญชาหรือผู้มีอำนาจแต่งตั้งถอดถอนบุคคลดังกล่าวพร้อมดำเนินการทางวินัยกับบุคคลดังกล่าว รวมทั้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ป.ป.ช.ปี 2561 มาตรา 64 แล้ว และมีมติแจ้งกรมป่าไม้ให้ดำเนินการร้องทุกข์กล่าวโทษ ต่อพนักงานสอบสวนดำเนินคดีอาญากับบุคคลดังกล่าว ตามความผิด พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ 2507 และความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ปี 2484 ด้วย
