ปชป. เหน็บ 8 เดือน ดิจิทัลวอลเล็ต ได้แต่แพะรับบาป แนะเอาคนละครึ่งมาปรับใช้ดีกว่า

‘ชัยชนะ’ เหน็บ ‘ดิจิทัลวอลเล็ต’ มีความคืบหน้าในการหา ‘แพะรับบาป’ ล่าสุดคือ ธปท. ชัด ‘เพื่อไทย’ เผชิญพายุหมุนที่ไม่สามารถเดินหน้าโครงการได้ แนะเอาโครงการคนละครึ่ง มาปรับใช้ดีกว่า

เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม นายชัยชนะ เดชเดโช ส.ส.นครศรีธรรมราช และรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ดูแลภาคใต้ กล่าวถึงนโยบายเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ที่ยังไม่มีความคืบหน้าเท่าที่ควร ว่า ขณะนี้รัฐบาลที่มีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำบริหารประเทศมาเป็นระยะเวลา 8 เดือนแล้ว ชาวบ้านต่างคาดหวังว่า รัฐบาลพรรคเพื่อไทยที่มีภาพจำว่าเป็นพรรคการเมืองที่แก้ปัญหาเศรษฐกิจได้ดี จะสามารถทำให้คุณภาพชีวิตดีขึ้นได้ผ่านนโยบายต่างๆ โดยเฉพาะโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ที่พรรคเพื่อไทยอวดอ้างว่าจะสร้างพายุหมุนทางเศรษฐกิจถึง 4 ลูก แต่ในความเป็นจริงนโยบายดังกล่าว กลายเป็นพายุหมุนที่ทำให้รัฐบาลไม่สามารถเดินหน้าต่อไปตามที่คาดหวังไว้

นายชัยชนะกล่าวต่อว่า เหมือนกับที่ตนเคยให้ข่าวว่า เป็นนโยบายที่เข้าทำนองกลับไม่ได้ ไปไม่ถึง เพราะพรรคเพื่อไทยคงคิดเอาเองว่า ที่มีคนเลือกพรรคเพื่อไทยในการเลือกตั้งเมื่อปี 2566 คือนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต เลยพยายามเดินหน้าโครงการนี้อย่างเต็มที่ แต่เมื่อพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาลจริงๆ ปรากฏพบความจริงมากมาย ไม่ว่าจะเป็นสภาพเศรษฐกิจที่ยังสามารถเดินหน้าไปต่อได้ จนทำให้ขุนพลของพรรคเพื่อไทยต้องออกมาพูดกล่อมประสาทประชาชนว่า เศรษฐกิจไทยอยู่ในขั้นวิกฤต จึงจำเป็นต้องมีนโยบายแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต ความเสี่ยงที่จะกระทำผิดกฎหมาย โดยเฉพาะกฎหมายว่าด้วยงบประมาณ กฎหมายว่าด้วยวินัยการเงินการคลังของรัฐ เป็นต้น

สำหรับแหล่งเงินทุน ซึ่งหวยไปออกที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เป็นหลักนั้น ก็ถือว่ารัฐบาลเกิดอาการเข้าตาจน อย่าลืมว่า ขณะนี้รัฐบาลยังคงค้างหนี้ในโครงการจำนำข้าวอยู่อีก 2.4 แสนล้านบาท และยิ่งก่อหนี้ตามนโยบายดังกล่าว ซึ่งคาดว่า จะใช้งบ 1.7 แสนล้านบาท รัฐบาลก็จะติดหนี้ ธ.ก.ส. 4.1 แสนล้านบาท รวมทั้งจะต้องเผชิญกับข้อกล่าวหาที่ว่า ใช้เงินผิดวัตถุประสงค์ ไม่นับเสียงคัดค้านที่มาจากทุกสารทิศ ที่แสดงความไม่เห็นด้วยต่อโครงการ ส่วนใหญ่ชี้ให้เห็นว่า จะเป็นโครงการที่เข้าทำนอง ได้ไม่คุ้มเสีย และมีนโยบายอื่นๆ ที่จะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้ดีกว่า

Advertisement

“ดังนั้นผมจึงอยากให้รัฐบาล มีการปรับเปลี่ยนการดำเนินงานโครงการเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้กับประชาชนเสียใหม่ เพราะเชื่อว่า หากดันทุรังไปจนถึงปลายทางแล้วพรรคเพื่อไทยอาจจะได้รับคะแนนนิยมจนชนะการเลือกตั้งก็จริง แต่ก็ทิ้งความเสียหายให้กับประเทศเป็นจำนวนมาก ยิ่งเอาเงินจริงไปผูกกับความผันผวนในตลาดเงินดิจิทัลแล้ว ถือเป็นการเอาอนาคตประเทศไปแขวนอยู่กับเส้นด้ายที่บอบบางเป็นอย่างมาก” นายชัยชนะกล่าว

นายชัยชนะกล่าวด้วยว่า ตลอด 8 เดือนที่ผ่านมา โครงการดิจิทัลวอลเล็ต ก็มีความคืบหน้าอยู่ แต่เป็นความคืบหน้าในการหา ‘แพะรับบาป’ เพราะแรกเริ่มแพะตัวแรกที่สังเวยไปแล้ว ก็คือ กฤษฎีกา เมื่อมีความเห็นทางกฎหมายออกมาว่า ต้องทำตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด กลายเป็นว่า มวลชนที่สนับสนุนก็ออกมาโจมตีกฤษฎีกา ต่อมา ก็มีแนวคิดที่จะใช้เวทีรัฐสภาในการออกพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ตนรู้ทันทีว่า รัฐบาลจะโยนบาปให้กับ ส.ส.ที่ไม่เห็นด้วยและลงมติไม่เห็นชอบ จะได้มาเป็นข้ออ้างเพื่อให้ประชาชนโกรธแค้น และกลายเป็นแพะรับบาปในสายตาประชาชน

ล่าสุดพรรคเพื่อไทยถึงกับเล่นใหญ่ โดยระบุว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เป็นอุปสรรคในการทำงาน โดยพยายามให้ประชาชนเข้าใจว่า ธปท. เป็นอุปสรรคในการดำเนินนโยบาย ซึ่งจะกลายเป็นแพะรับบาปอีกรายหนึ่ง ทั้งนี้ ที่ผ่านมาก็เป็นที่ทราบกันโดยทั่วไปว่า ความสัมพันธ์ระหว่าง นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการ ธปท. ไม่ราบรื่นนัก

Advertisement

เพราะฉะนั้นจึงเห็นว่า การนำสิ่งที่ประสบความสำเร็จอยู่แล้ว อย่างเช่น โครงการคนละครึ่ง ที่ชาวบ้านเข้าใจเป็นอย่างดี และก็มีแอพพ์เป๋าตังอยู่แล้ว มาปรับให้เกิดความเหมาะสม เพราะชาวบ้านก็ยืนยันแล้วว่าโครงการคนละครึ่ง สามารถสร้างกำลังซื้อให้เกิดความคึกคักขึ้นมาทันตาเห็น ส่วนข้อบกพร่องของโครงการคนละครึ่งที่เจ้าของร้านค้าเกรงว่า จะต้องเสียภาษีเพิ่มเติมนั้น รัฐบาลก็ต้องหามาตรการจูงใจให้คลายกังวลเพื่อให้เจ้าของร้านค้ามาร่วมโครงการให้ได้ มากกว่าการคิดโครงการที่หวือหวาให้คนมาลงคะแนนเสียง แต่เสี่ยงที่จะดำเนินการไม่ได้ในทางกฎหมายและข้อปฏิบัติ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image