พล.อ.อ.ประจิน ย้อนก้าวสำคัญรอบ 20 ปี เบรกยุบ OKMD พัฒนาแหล่งความรู้สู่คนรุ่นใหม่
เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม ที่ TK Park ชั้น 8 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ปทุมวัน กรุงเทพฯ สำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์กรมหาชน) หรือ OKMD จัดงาน 20 years of Thailand Knowledge Creation: Past and Future
บรรยากาศเวลา 13.00 น. น.ส.ปานบัว บุนปาน ประธานกรรมการบริษัท มติชน จำกัด (มหาชน), นายมณฑล ประภากรเกียรติ ผู้อำนวยการสำนักพิมพ์มติชน เดินทางมาร่วมแสดงความยินดี ในโอกาสครบรอบ 20 ปีของ OKMD โดยมี ดร.ทวารัฐ สูตะบุตร ผู้อำนวยการ OKMD พร้อมด้วย นายราเมศ พรหมเย็น ผู้อำนวยการสถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ (มิวเซียมสยาม) ร่วมให้การต้อนรับ ท่ามแขกผู้มีเกียรติคับคั่ง
ต่อมาเวลา 14.10 น. เริ่มเสวนา หัวข้อ “20 years of Thailand knowledge creation: Past” นำโดย พลอากาศเอกประจิน จั่นตอง สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) และอดีตรองนายกรัฐมนตรี,พล.ร.อ.ฐนิธ กิตติอำพล อดีตผู้อำนวยการ OKMD, ดร.คุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา อดีตปลัดกระทรวงศึกษาธิการ และ ดร.คณิศ แสงสุพรรณ อดีตประธานกรรมการ OKMD
เมื่อผู้ดำเนินรายการถามว่ามอง ‘OKMD’ ตามยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนสังคมไทย เสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างยั่งยืนได้อย่างไร?
พล.อ.อ.ประจิน กล่าวว่า ช่วงที่ก่อตั้งเมื่อปี 2547 เป็นช่วงที่มีกระแสในเรื่อง การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ และknowledge of management ค่อนข้างเยอะ ซึ่งช่วงนั้นผู้นำของเราก็ได้ตั้ง OKMD ขึ้นมา โดยมี 3 เสาหลัก คือ 1. TK Park 2.TCDC 3.มิวเซียมสยาม
“TK Park เปรียบเหมือนห้องสมุดที่มีชีวิตขนาดใหญ่ กระจายความรู้ที่จับต้องได้ ส่วน TCDC รับหน้าที่ด้านเศรษฐกิจและสังคมไปเต็มๆ ในด้านของมิวเซียมสยาม รับส่วนมิติของสังคมในการสร้างความรัก ความสามัคคี และจะสืบทอดมรดกของรุ่นปู่รุ่นย่าไปสู่ลูกหลาน
โดยรวมแล้ว OKMD สามารถเติมเต็มได้ทั้งมิติเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม สังคม และเทคโนโลยีขับเคลื่อนไปตามวัตถุประสงค์ ตามกระแสโลกในช่วงนั้นได้” พล.อ.อ.ประจินระบุ
พล.อ.อ.ประจินกล่าวว่า เมื่อช่วงปีพ.ศ. 2547 มีสถานการณ์ทางภาคใต้ ถัดมาปีพ.ศ. 2548 มีสถานการณ์ขัดแย้งทางด้านสื่อ ปีพ.ศ. 2549 มีการเปลี่ยนแปลงการปกครองโดยการปฏิวัติ พอปีพ.ศ. 2551-2552 มีเหตุการณ์ความขัดแย้งกันทางด้านการเมือง สมทบด้วยการสูญเสียของประชาชน และปัญหาทางด้านชายแดนเกี่ยวกับเขาพระวิหาร ปีพ.ศ.2554 ศึกหนักเรื่องมหาอุทกภัย และปีพ.ศ.2555-2556 มีปัญหาทางด้านการเมืองขึ้นมาอีก พอปีพ.ศ.2557 มีการเปลี่ยนการปกครองปฏิวัติอีก
“มันไม่แฟร์เลยสำหรับผู้บริหารที่มีสถานการณ์เข้ามากระทบตลอดเวลา ในแง่ของการจัดการความรู้ เผยแพร่ความรู้ไปสู่ผู้คน ทั้งเด็ก เยาวชน และแรงงาน ซึ่งก็มีส่วนสำคัญให้หน่วยงานราชการมีการประเมิน มีเสียงกระซิบมาตามสายลมเมื่อปีพ.ศ.2558 ยุบ OKMD แน่นอน
ผมอยู่ข้างพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หรือ นายกตู่ เราก็งง ไม่ได้อยู่ในสายที่เกี่ยวข้อง เพราะว่าตอนเข้ามาเราก็ดูด้านเศรษฐกิจ คมนาคม ซึ่งตอนนั้นก็ตอบท่านไม่ได้ แต่ก็รับไป ก็ได้มาคุยกับ TCDC TK Park มิวเซียมสยาม ก็ได้เห็นว่าข้อมูลที่ส่งไปที่ผู้บริหารยังไม่ครบถ้วน มีทั้งข้อมูลสติถิด้านการใช้งานน้อย การใช้งบประมาณค่อนข้างสูง และสถิติความขัดแข้งของผู้ร่วมงานค่อนข้างหลากหลาย ก็ขอมารับฟังความคิดเห็น รอบที่1 ก็ไปพูดถึงข้อมูลที่ไปรับฟังมา ก็เริ่มสบายใจขึ้นเพราะมีคนมารับฟัง และรอบ 2 เสนอว่าน่าจะต้องมีการทบทวนการเปลี่ยนแปลง OKMD นอกจากควรดำเนินการการแล้ว ก็ควรขยายออกไป” พล.อ.อ.ประจินชี้
พล.อ.อ.ประจินกล่าวว่า การดำเนินการตอนนั้น คือ TCDC TK Park และมิวเซียมสยาม ซึ่ง TCDC ก็ได้แยกตัวออกไปอยู่ที่สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) ซึ่งตนเชื่อว่าทุกคนดีใจ เพราะเด็ก เยาวชน แรงงาน เขาสามารถเข้าถึงความรู้ และเป็นพื้นที่ปฏิสัมพันธ์กันทั้งครอบครัว เพื่อนฝูง มีความก้าวหน้ามาอย่างต่อเนื่อง
เมื่อถามว่าตลอด 20 ปี OKMD เปลี่ยนสังคมไปอย่างไรบ้าง?
พล.อ.อ.ประจินกล่าวว่า ตนคิดว่าสิ่งที่สำคัญและเป็นพื้นฐานองค์ความรู้ คือ การตัดสินใจ แม้แต่ภาคธุรกิจใช้ข้อมูล หรือ ความรู้ในการตัดสินใจ ทั้งปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมาค่อนข้างก้าวหน้า เข้ามาขับเคลื่อนมากมาย แต่จะทำอย่างไรให้ความรู้เหล่านั้นมีประโยชน์ต่อแต่ละองค์กร ที่จะมีความถูกต้องและเหมาะสม เรามีสระแสที่จะสร้างคนรุ่นใหม่ให้เกิดขึ้น มันจะอยู่ที่การตัดสินใจวิเคราะห์ เอาความรู้ไปใช้ได้อย่างถูกต้อง
“มันต้องไม่มี Hidden agenda ต้องคำนึงเสมอว่าเราจะทำสิ่งใดไปบนองค์ความรู้นั้นด้วย มองสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อโลก ไม่ว่าจะเป็นต้นไม้ สัตว์โลก ตามจริงแล้ว People กับ Planet มันมีทั้งด้านมืดและด้านสว่าง มันจึงมีตะแกรงในการที่จะกรอง เพื่อจะเอาองค์ความรู้ไปใช้อย่างถูกต้อง ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญ ผมชื่อว่าน้องคนรุ่นใหม่ ผู้บริหารคนรุ่นใหม่ก็จะเป็นส่วนหนึ่งในการกรองสิ่งเหล่านี้” พล.อ.อ.ประจินทิ้งท้าย
