รู้จัก “สกลธี ภัททิยกุล” หนึ่งในสี่ทหารเสือแกนนำกปปส. สู่รองผู้ว่ากทม.ป้ายแดง

FB สกลธี ภัททิยกุล

จากรณี พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ลงนามคำสั่งกรุงเทพมหานคร ที่ 1215/2561 เรื่อง ให้รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครพ้นจากตำแหน่งและแต่งตั้งรองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร โดยให้ พล.ต.อ.ชินทัต พ้นตำแหน่งรองผู้ว่าฯกทม.และแต่งตั้ง นายสกลธี ภัททิยกุล เป็นรองผู้ว่าฯกทม. (คลิกอ่านข่าว)

โดยนายสกลธี รองผู้ว่าฯกทม. จะมีอำนาจในการสั่งหรือการปฎิบัติราชการแทนเกี่ยวกับราชการของหน่วยงานหรือส่วนราชการ ได้แก่ สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สำนักเทศกิจ สำนักพัฒนาสังคม สำนักงานกฎหมายและคดี สำนักปลัดกทม.และ สำนักงานเขตในส่วนที่เกี่ยวข้องกับฝ่ายเทศกิจและฝ่ายพัฒนาชุมชนและสวัสดิการสังคม

ทั้งนี้ สำหรับประวัต นายสกลธี  เคยเป็น อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กรุงเทพมหานคร เขต 4 พรรคประชาธิปัตย์ เป็นบุตรชายของพลเอกวินัย ภัททิยกุล อดีตเลขาธิการคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) จบการศึกษาในระดับมัธยมจากโรงเรียนเซนต์คาเบรียลและโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา จบปริญญาตรีจากคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ปริญญาโทด้านกฎหมายจากมหาวิทยาลัยอินเดียน่าและมหาวิทยาลัยจอร์จ วอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เคยรับราชการอยู่ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และได้รับการดึงตัวจากนายจรัญ ภักดีธนากุล ปลัดกระทรวงยุติธรรม ให้ไปช่วยงานเป็นเลขานุการส่วนตัว ขณะเดียวกัน นายสกลธี เป็นผู้จัดการทีมมวยสากลสมัครเล่นทีมชาติไทย ชุดซีเกมส์ 2009 ที่เวียงจันทน์ ประเทศลาว และเอเชียนเกมส์ 2010 ที่กว่างโจว ประเทศจีน

ส่วนการทำงาน นายสกลธี เข้ารับราชการในกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ต่อมาได้ทำหน้าที่เลขานุการของนายจรัญ ภักดีธนากุล ปลัดกระทรวงยุติธรรม กระทั่งในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2550 นายสกลธี ได้ลาออกจากราชการเพื่อไปสมัครลงรับเลือกตั้งกับทางพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งจากการเป็นบุตรชายของ พล.อ.วินัย เลขาธิการ คมช. จึงทำให้ถูกมองว่าเป็นการสืบทอดอำนาจของ คมช. แต่ทั้งนายสกลธี พล.อ.วินัย และทางพรรคประชาธิปัตย์ได้ปฏิเสธเรื่องนี้อย่างสิ้นเชิง ทั้งนี้ ในการเลือกตั้งในปลายปี พ.ศ. 2550 นายสกลธี ลงสมัครในกรุงเทพมหานคร เขต 4 คือ เขตจตุจักร, บางซื่อ, หลักสี่ คู่กับนายบุญยอด สุขถิ่นไทย และนายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี ซึ่งได้รับเลือกตั้งทั้ง 3 คน การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในประเทศไทย พ.ศ. 2554 นายสกลธี ได้ลงสมัครในกรุงเทพมหานคร เขต 11 คือ เขตหลักสี่ โดยมีคู่แข่งคือ นายสุรชาติ เทียนทอง บุตรชายของนายเสนาะ เทียนทอง ผลปรากฏว่า ไม่ได้รับการเลือกตั้ง

Advertisement

ช่วงปี 2556-2557 ในชุมนุมของกลุ่ม กปปส. นายสกลธีเป็นแนวร่วมสำคัญ เป็นแกนนำชุดเคลื่อนที่เร็วร่วมกับนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ, นายชุมพล จุลใส และนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ จนได้ฉายาว่า “สี่ทหารเสือ”

โดยในกลางดึกของคืนวันที่ 25 เมษายน นายสกลธีได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวระหว่างเดินทางกลับมาจากต่างประเทศ ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ตามหมายศาลที่ออกมาในข้อหาการชุมนุม แต่ได้ถูกประกันตัวไปในวงเงิน 600,000 บาท

Advertisement

ในเวลาต่อมาไม่นานหลังคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เข้าควบคุมอำนาจการปกครอง นายสกลธี ยังคงต้องขึ้นศาลในข้อหากบฏที่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มอบให้ ร่วมกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำ กปปส.และผู้ต้องหารวม 58 คน

น่าสังเกตว่า เมื่อวันที่ 3 เม.ย.ที่ผ่านมา นายสกลธี ตกเป็นข่าวพร้อมนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ และแกนนำ กปปส. และนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ อดีต ส.ส.สิงห์บุรี พรรคชาติไทย ได้เดินทางเข้าพบนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ที่ห้องทำงาน ตึกบัญชาการ 1 ท่ามกลางกระแสข่าวพูดคุยถึงอนาคตทางการเมือง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่านายสกลธี ภัททิยกุล อดีตส.ส.กรุงเทพมหานคร และอดีตแกนนำกปปส. ทำหนังสือถึงนายทะเบียนสมาชิกพรรค และแจ้งต่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ขอลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคแล้ว นายสกลธี เปิดเผยกับสื่อมวลชนว่าได้รับการทาบทามจากผู้ใหญ่ในรัฐบาล ที่ประสานไปยัง พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เพื่อให้ตนเข้ารับตำแหน่งรองผู้ว่าฯกทม.

 

 

 

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image