ในวันที่ 4 สิงหาคมนี้ รัฐสภานัดประชุมเพื่อโหวตนายกฯอีกครั้ง คาดว่าพรรคเพื่อไทยในฐานะแกนนำจัดตั้งรัฐบาล จะเสนอชื่อ “เศรษฐา ทวีสิน” แคนดิเดตนายกฯของพรรค ให้รัฐสภาให้ความเห็นชอบ แต่สูตรการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ยังอึมครึม ไม่รู้จะออกมาหน้าไหนกันแน่
เหลือเวลาอีกไม่กี่วัน แต่การนัดหมายระหว่างพรรคเพื่อไทยกับแกนนำอีก 7 พรรค ก็ยังไม่ชัดว่าจะเป็นเมื่อไร เพื่อแจ้งผลการพูดคุยกับ ส.ส.จากพรรคต่างขั้วและ ส.ว.ที่ไปขอเสียงสนับสนุนการโหวตนายกฯจากพรรคเพื่อไทย
“ภูมิธรรม เวชยชัย” รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เคยระบุก่อนหน้านี้ว่า จากการพูดคุยกับทั้ง ส.ว.และ ส.ส.จากพรรคการเมืองต่างๆ จนถึงขณะนี้ ยังยืนยันตรงกันว่าพร้อมยกมือสนับสนุนแคนดิเดตนายกฯพรรคเพื่อไทย แต่มีเงื่อนไขว่าต้องไม่มีพรรคก้าวไกลอยู่ร่วมจัดตั้งรัฐบาล หากยังมีพรรคก้าวไกลร่วมอยู่ พวกเขาจะไม่โหวตสนับสนุน
ต้องรอดูว่าที่ประชุม 8 พรรคจะว่ากันอย่างไร แต่จากสัญญาณพรรคเพื่อไทยที่ส่งมาคือ หากยังรวม 8 พรรค 312 เสียงแม้จะเปลี่ยนแคนดิเดตนายกฯจาก “พิธา ลิ้ม เจริญรัตน์” พรรคก้าวไกล เป็น “เศรษฐา ทวีสิน” จากพรรคเพื่อไทยแทน อาจจะได้เสียงเพิ่มจากเดิมมาบ้าง แต่ก็คงไม่ผ่าน 375 เสียงจากรัฐสภา
โจทย์ที่พรรคเพื่อไทยต้องแก้คือเมื่อยังมีพรรคก้าวไกลร่วมอยู่คงไม่ผ่านแน่ ดังนั้นมีแนวโน้มสูงว่าต้องโละเอ็มโอยู 8 พรรคทิ้งแล้วล้างไพ่ใหม่
ขณะที่พรรคเพื่อไทยก็มีโจทย์ของตัวเอง ซึ่งเป็นโจทย์เดียวกับพรรคก้าวไกล ที่เคยประกาศช่วงหาเสียงว่าจะไม่ร่วมกับพรรค2 ลุง นั่นคือพรรคพลังประชารัฐและพรรครวมไทยสร้างชาติ
ดังนั้น พรรคเพื่อไทยจึงแก้โจทย์ 2 ข้อคือต้องไม่มีพรรคก้าวไกลและไม่มีพรรค 2 ลุงมาร่วม
จึงมีข่าวปล่อยออกมาว่าพรรคเพื่อไทยจะดึงพรรคอื่นๆ มาร่วมให้ได้เกิน 250 เสียง โดยไม่มีพรรคก้าวไกล แต่มีเงื่อนไขที่พรรคก้าวไกล 151 เสียงพร้อมจะโหวตสนับสนุนนายกฯจากพรรคเพื่อไทย ทำให้ผ่าน 375 เสียงไปได้สบายๆ ไม่ต้องพึ่งเสียงจาก ส.ว.
สูตรที่ปล่อยออกมานี้ช่วยปลดล็อกเงื่อนไขต่างๆ ทั้งของพรรคและของประเทศที่จะมีรัฐบาลใหม่เพื่อขับเคลื่อนประเทศ แม้จะเป็นที่ขัดเคืองใจคนบางกลุ่มบ้าง
แต่ทว่า สูตรนี้ยังไม่มีใครออกมายืนยันชัดเจน ทำให้เกิดความอึมครึม เพราะระแวงว่าจะเป็นเกม “สับขาหลอก” ให้โหวตนายกฯจากพรรคเพื่อไทยให้ผ่านก่อน ส่วนการจะจัดตั้งรัฐบาลร่วมกับพรรคไหนบ้างค่อยว่ากันทีหลัง
ไม่เพียงพรรคก้าวไกล แต่พรรคต่างขั้วและ ส.ว.ก็ยังหวั่นไหวว่าจะตกเป็นเหยื่อถูกหลอก
บ้างก็ว่าเป็นการหลอก ส.ว. และพรรคต่างขั้วว่าดีดพรรคก้าวไกลออกจากสมการรัฐบาลแล้ว แต่เมื่อได้เสียงโหวตนายกฯจากพรรคเพื่อไทยผ่านแล้วกลับไปดึงพรรคก้าวไกลมาร่วมรัฐบาลในภายหลัง
ทำให้ ส.ว.บางส่วน ออกมาเรียกร้องให้พรรคเพื่อประกาศให้ชัดว่าสูตรรัฐบาลใหม่มีพรรคไหนร่วมบ้าง ไม่เช่นนั้นจะไม่โหวตให้
ขณะที่พรรคก้าวไกลก็ไม่เชื่อว่าเป็นการดีดพรรคก้าวไกลออกไปก่อน รอผลโหวตนายกฯผ่านรัฐสภา แล้วจะดึงกลับมาร่วมรัฐบาลในภายหลัง เพราะเชื่อว่าจะดีดแล้วดีดเลยให้ไปเป็นฝ่ายค้านเต็มตัว
ทาง ส.ส.พรรคก้าวไกล จึงออกมาแสดงความไม่พอใจและไม่เชื่อสูตรรัฐบาลใหม่ที่มีการปล่อยออกมา อย่าง “ณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์” ส.ส.กทม. และรองเลขาธิการ
พรรคก้าวไกล ออกมาระบุถึงกระแสข่าว 151 เสียงของพรรคจะหลุดไปเป็นฝ่ายค้าน แต่พร้อมยกมือโหวตให้แคนดิเดตนายกฯจากพรรคเพื่อไทยนั้น เป็นข่าวปล่อยที่สกปรก
“อีกทั้งเกมที่บอกว่าไม่มีลุงแน่ อย่างไรเสียพรรคก้าวไกลก็โหวตให้นั้น พรรคก้าวไกลไม่ได้โง่ขนาดนั้น คือไม่มีลุงในที่นี้ แต่เอาพรรครวมไทยสร้างชาติและพรรคพลังประชารัฐมาเฉพาะบางกลุ่มบางก้อน แล้วก็มาบีบให้เราโหวตให้…ถ้ามีความพยายามอย่างหนึ่งอย่างใด ไม่ว่าจะเกมสกปรก เกมบนโต๊ะ หรือเกมใต้โต๊ะ บีบให้โหวตให้แบบที่ไม่รู้รายละเอียด เชื่อว่าประชาชนก็จะเข้าใจพรรคก้าวไกล ถ้าเกิดต้องไม่โหวตให้พรรคเพื่อไทย”
“ณัฐชา” ยังโพสต์เฟซบุ๊กย้ำว่า “เกมสับขาหลอกว่าไม่มีลุงแล้วจะกดดันให้โหวตกันไปก่อน ใครจะเชื่อก็เชื่อไป #แต่ผมไม่เชื่อ”
ขณะที่ “นนท์ ไพศาลลิ้มเจริญกิจ” ส.ส. นนทบุรี พรรคก้าวไกล ก็โพสต์เฟซบุ๊กว่า “โหวตเดียวที่ผมจะมอบให้ คือ ‘โหวตพิธา เป็นนายกรัฐมนตรี’ ตามประสงค์ของประชาชนเท่านั้น ตัวเลือกอื่นขอผ่านนะครับ”
ทางฝั่ง ส.ว.อย่าง “จเด็จ อินสว่าง” ก็ระบุว่าพรรคก้าวไกล ยังเกาะพรรคเพื่อไทยอยู่ แม้จะยอมไปเป็นฝ่ายค้าน แต่จะโหวตให้พรรคเพื่อไทยเป็นนายกฯถ้าทำได้ก็ทำไปเลย แหกตา ส.ว.ไม่เป็นไร แต่อย่าแหกตาประชาชน
ดังนั้น พรรคเพื่อไทย ต้องเคลียร์ให้ชัดว่าการจัดตั้งรัฐบาลจะดึงพรรคไหนมาร่วมบ้าง อีกทั้งแจกแจงเหตุผลต่างๆ ถึงการจัดสูตรใหม่ที่จะใช้
แต่จะเป็นเกม “สับขาหลอก” ให้โหวตนายกฯก่อนหรือไม่…รอชมตอนต่อไป