‘พท.’แถลงรื้อเอ็มโอยู จับขั้วใหม่ตั้งรัฐบาล-แก้ รธน.

หมายเหตุ – นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคและนายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ เลขาธิการพรรค ร่วมแถลงการณ์การจัดตั้งรัฐบาลที่พรรค พท.เป็นแกนนำ ภายหลังการประชุมหารือกับคณะเจรจาจัดตั้งรัฐบาลของพรรคก้าวไกล (ก.ก.) นำโดย นายชัยธวัช ตุลาธน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรค น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรค และนายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ รองหัวหน้าพรรค ที่พรรค พท. เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว
ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.)

แถลงการณ์พรรคเพื่อไทย (พท.) เรื่อง “เริ่มต้นใหม่ ร่วมผ่าทางตัน หาทางออกให้ประเทศ” เนื่องจากการจัดตั้งรัฐบาลในครั้งนี้ พรรค ก.ก.และพรรค พท.ได้จับมือร่วมกับพรรคการเมืองอีก 6 พรรค รวมเสียงได้ 312 เสียง เพื่อจัดตั้งรัฐบาลโดยมีพรรค ก.ก.เป็นแกนนำ และเสนอนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรีทั้ง 8 พรรคมีข้อสรุปภายใต้การปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข โดยมีความเห็นอย่างชัดเจนจากพรรค พท.ยึดมั่นในการมีสถาบันพระมหากษัตริย์ทรงเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนไทยทั้งประเทศและไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ทั้งนี้ วันที่ 13 กรกฎาคม แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี จากพรรค ก.ก. ไม่สามารถรวบรวมเสียงสนับสนุนจากรัฐสภาได้ โดยมีเพียง 324 เสียงจากที่ต้องการถึง 376 เสียง ซึ่งพรรค พท.ได้สนับสนุนพรรค ก.ก.อย่างเต็มความสามารถ ทั้งการอภิปราย และยกมือสนับสนุน 141 เสียง

แต่เนื่องจากปรากฏเงื่อนไขของพรรคการเมืองอื่นๆ และสมาชิกวุฒิสภา ไม่ยอมรับนโยบายแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ของพรรค ก.ก. โดยพรรค ก.ก.รับทราบท่าทีเหล่านี้ แต่ยืนยันไม่ปรับเปลี่ยนนโยบาย จึงเป็นการแน่ชัดว่าแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี จากพรรค ก.ก.จะไม่สามารถผ่านการลงมติเห็นชอบจากรัฐสภาให้ดำรงตำแหน่งได้

Advertisement

ดังนั้น ที่ประชุม 8 พรรคร่วมจึงมีมติส่งมอบภารกิจแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลให้พรรค พท. โดยเห็นชอบแนวทางให้พรรค พท.หาเสียงสนับสนุนทั้งจากพรรคการเมืองนอกกลุ่มพรรคร่วมเดิม และสมาชิกวุฒิสภาได้ เมื่อได้รับมอบหมายภารกิจ พรรค พท.จึงเดินหน้าเพื่อหาเสียงสนับสนุนเพิ่มเติมทั้งจาก ส.ว. และ ส.ส. โดยการเชิญหลายพรรคการเมืองเข้าหารือแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ณ ที่ทำการพรรค พท. และส่งตัวแทนรับฟังความคิดเห็นสมาชิกวุฒิสภาทั้งเป็นกลุ่มและรายบุคคล พบว่านโยบายแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ยังคงเป็นเงื่อนไขหลัก ขณะที่บางพรรคและบางคนแสดงเจตนาอย่างชัดแจ้งที่จะไม่สนับสนุนการร่วมรัฐบาลของพรรค ก.ก.ในทุกกรณี

ในสถานการณ์เช่นนี้ พรรค พท.ได้ปรึกษาหารือกับพรรค ก.ก.ขอถอนตัวจากการร่วมมือกัน และเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาลพรรคร่วมใหม่ เสนอชื่อนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ทั้งนี้ พรรค พท. และนายเศรษฐาขอยืนยันชัดเจนว่าเราจะไม่สนับสนุนการแก้ไขมาตรา 112 และการจัดตั้งรัฐบาลใหม่จะไม่มีพรรค ก.ก.อยู่ในพรรคร่วม พรรค พท.จะใช้ความพยายามรวบรวมเสียงให้เพียงพอต่อการจัดตั้งรัฐบาลอย่างเหมาะสม และพรรค ก.ก.จะทำหน้าที่เป็นฝ่ายค้านและยืนยันจะทำงานการเมืองในมิติใหม่ ที่จะเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติและพี่น้องประชาชน ในภารกิจที่สำคัญ ดังนี้

1.เราจะผลักดันการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันอันเป็นต้นเหตุของความยากลำบากในการจัดตั้งรัฐบาลครั้งนี้ และก่อให้เกิดวิกฤตการณ์ต่างๆ ของประเทศโดยกำหนดเป็นวาระแห่งชาติ โดยเริ่มจากมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในการประชุมครั้งแรกให้มีการทำประชามติ และจัดตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ให้เกิดกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชนอย่างแท้จริงในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เมื่อดำเนินการแล้วเสร็จรัฐบาลจะคืนอำนาจให้ประชาชนได้เลือกตั้งใหม่ภายใต้กรอบกติกาของรัฐธรรมนูญฉบับใหม่

Advertisement

2.นโยบายที่พรรค พท.และพรรคร่วมได้นำเสนอต่อพี่น้องประชาชน ซึ่งมีความคิดเห็นสอดคล้องกัน อาทิ กฎหมายสมรสเท่าเทียม กฎหมายสุราก้าวหน้า การปฏิรูประบบราชการ ตำรวจ กองทัพ และกระบวนการยุติธรรม เปลี่ยนการเกณฑ์ทหารแบบบังคับเป็นระบบสมัครใจ ผลักดันการกระจายอำนาจทั้งในแง่ภารกิจและงบประมาณ ยกเลิกการผูกขาดและส่งเสริมการแข่งขันทางการค้าที่เป็นธรรมในทุกอุตสาหกรรม เป็นต้น ในฐานะพรรคแกนนำ รัฐบาลพรรค พท.พร้อมที่จะผลักดันร่วมกับพรรคร่วม เพื่อให้นโยบายที่เป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนดำเนินการได้ประสบความสำเร็จ

พรรคเพื่อไทย ขอแสดงความจริงใจต่อเพื่อนมิตรทุกพรรคการเมือง และสมาชิกวุฒิสภา รวมทั้งพี่น้องประชาชนว่า นี่คือแนวทางที่จะรักษาสถาบันสำคัญของชาติให้เป็นศูนย์รวมจิตใจของคนทั้งประเทศ และช่วยผลักดันความต้องการของประชาชน ภายใต้ข้อจำกัดและเส้นทางที่ยากลำบากนี้ไว้ได้ เพื่อให้ภารกิจนำพาประเทศพ้นวิกฤต สร้างสรรค์ประชาธิปไตย แก้ไขความขัดแย้ง คืบหน้าอย่างมีนัยสำคัญ ปลดพันธนาการจากกลไกที่ไม่ปกติให้คืนสู่ความปกติ และใช้ประสบการณ์ และความสามารถของบุคลากรของพรรคเพื่อไทยเร่งแก้วิกฤตเศรษฐกิจและปัญหาปากท้องของพี่น้องประชาชนโดยเร็ว ภายใต้รัฐธรรมนูญใหม่ซึ่งเป็นกติกาสูงสุดจากอำนาจประชาชน

จึงเรียนมาเพื่อทราบโดยทั่วไป พรรคเพื่อไทย 2 สิงหาคม 2566

บรรยากาศพูดคุยเป็นไปด้วยดี ทางพรรค ก.ก.ต้องการความชัดเจนจากพรรค พท. ซึ่งพรรค ก.ก.เข้าใจเหตุผลของเรา แต่ขอสรุปให้ชัดว่าไม่ใช่การบอกเลิกกัน แต่เป็นความจำเป็นที่ต้องชี้ให้เห็นถึงเหตุผลที่ต้องแยกกันจัดตั้งรัฐบาลโดยไม่มีพรรค ก.ก.

•พรรคร่วมรัฐบาลใหม่มีพรรคไหนบ้าง และพรรค ก.ก.จะโหวตให้แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรค พท.หรือไม่

เราได้คุยกับพรรค ก.ก.โดยขอให้เป็นเอกสิทธิ์ ส.ส.ที่จะลงคะแนนให้กับพรรค พท. โดยเราไม่ได้ร้องขอ จะโหวตหรือไม่โหวตให้พรรค พท.ก็ได้ ส่วนพรรคร่วมรัฐบาลใหม่จะขอแจ้งให้ทราบในวันที่ 3 สิงหาคม ส่วน ส.ว.จะโหวตให้พรรค พท.หรือไม่นั้น จากการแถลงวันนี้และแนวทางที่ชัดเจนที่เราแสดงเจตนารมณ์ ข้อกังวลของ ส.ส.และ ส.ว. เราเชื่อว่าภายใต้เงื่อนไขดังกล่าว เราลดเงื่อนไขทั้งหมด น่าจะเป็นเหตุผลเพียงพอที่ ส.ว.จะโหวตให้ความเห็นชอบ

•มั่นใจหรือไม่ว่าพรรค พท.จะเป็นแกนนำตั้งรัฐบาลได้

ในการเสนอนายกรัฐมนตรีคาดว่าจะได้เสียงสนับสนุนครบ จากนั้นเราจะตั้งรัฐบาล ถ้าจะให้รัฐบาลเข้มแข็งควรมีเสียงเกิน 300 เสียงขึ้นไป แต่ด้วยข้อจำกัดขณะนี้เราจะหาเสียงสนับสนุนให้ได้มากที่สุด เชื่อว่าการโหวตนายกรัฐมนตรี วันที่ 4 สิงหาคมจะจบด้วยการได้นายกรัฐมนตรีในวันดังกล่าว ทั้งนี้ ส่วนที่ ส.ว.ต้องการให้นายเศรษฐาแสดงวิสัยทัศน์นั้น การแสดงวิสัยทัศน์ใช้เฉพาะตำแหน่งประธานสภา แต่ข้อบังคับการเลือกนายกรัฐมนตรีไม่ได้ระบุว่าจะต้องแสดงวิสัยทัศน์ เท่าที่คุยกับนายเศรษฐาก็พร้อมจะตอบทุกข้อสงสัย แต่ด้วยความที่นายเศรษฐาไม่เป็น ส.ส.และถ้าเข้าสภา ไปอาจจะมีประเด็นที่คาดไม่ถึง จึงขอไม่เข้าไปในที่ประชุม แต่หากมีอะไรที่พาดพิง ส.ส.ของพรรค พท.พร้อมลุกขึ้นชี้แจงแทน

•จะไม่มีพรรค2ลุงเข้าร่วมรัฐบาลใหม่ใช่หรือไม่

ขอให้รอความชัดเจนในวันที่ 4 สิงหาคมและมั่นใจว่า เราจะตอบคำถามสังคมในทุกข้อสงสัย

•กรณีที่ประชาชนออกมาชุมนุมกดดันพรรค พท.ในการจัดตั้งรัฐบาลโดยที่ไม่มีพรรค ก.ก.นั้น เตรียมการอย่างไร

การมีรัฐบาลคือสิ่งจำเป็น จึงต้องชี้แจงให้ประชาชนทราบถึงข้อจำกัด การแสดงออกทางการเมืองในยุคนี้มีความหลากหลายอยู่แล้ว พรรค พท.ในฐานะที่เป็นตัวแทนของเขา เราต้องพร้อม ถ้าม็อบมีความปรารถนาต่อบ้านเมือง เชื่อว่ารับมือได้

•ลำบากใจหรือไม่ที่ต้องตัดสินใจแยกทางกับพรรค ก.ก.
มันไม่มีอะไรสวยงาม ทุกอย่างเราพยายามทำในสิ่งที่เสียหายกับประเทศน้อยที่สุด

ภูมิธรรม เวชยชัย
รองหัวหน้าพรรค พท.

กรณีแกนนำพรรค ก.ก.วิพากษ์วิจารณ์ พรรค พท.ประวิงเวลา ไม่เรียกประชุม 8 พรรคร่วมเสียทีว่า ไม่ใช่การประวิงเวลา แต่ที่ช้าเพราะเราถูกร้องขอจากแกนนำพรรค ก.ก.ให้รอถึง 23.00 น.คืนวันที่ 31 กรกฎาคมที่ผ่านมา เรารอถึงเที่ยงคืนของวันที่ 1 สิงหาคม แต่พรรค ก.ก.ก็ไม่มีการติดต่อกลับมา เราจึงดำเนินการตามแนวทางของเราตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม โดยเราหารือกับพรรค ก.ก.มาตลอด แต่แกนนำพรรค ก.ก.อาจจะมีปัญหาการสื่อสารภายในกับสมาชิก ทั้งนี้ เราได้โทรศัพท์ชี้แจงพรรคร่วมที่เหลือแล้ว ว่าเราต้องตั้งรัฐบาลเพื่อคลี่คลายวิกฤตที่เกิดขึ้น

การตกลงกันครั้งนี้ระหว่างพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกลไม่ใช่ การเกี้ยเซี้ยทางการเมือง แต่เป็นการต่างคนต่างทำหน้าที่โดยไม่มีก้าวไกลร่วมตั้งรัฐบาลด้วย ส่วนนโยบายที่เป็นประโยชน์กับประเทศและประชาชน เราพร้อมร่วมผลักดันไม่ว่าจะเป็นของฝ่ายรัฐบาลหรือฝ่ายค้าน
แต่สิ่งที่เป็นไปไม่ได้เลยคือการแก้ไขมาตรา 112 โดยเราจะทำหน้าที่ใช้ประสบการณ์ของเราแก้วิกฤตเศรษฐกิจ การเมืองให้เข้าสู่ระบบปกติทั้งหมด

การประสานงานหลังจากนี้ ทุกพรรคการเมืองไม่มีเงื่อนไขใดๆ ในการเข้าร่วม โดยเป้าหมายของพรรค พท.คือต้องได้ตัวนายกรัฐมนตรีก่อน ส่วนเสียงของพรรคร่วมรัฐบาลใหม่นั้นต้องเป็นจำนวนที่เพียงพอต่อการบริหารประเทศได้

ประเสริฐ จันทรรวงทอง
ส.ส.บัญชีรายชื่อ เลขาธิการพรรค พท.

กรณีอีก 6 พรรคร่วมจะตัดสินใจร่วมรัฐบาลใหม่กับพรรค พท.หรือไม่นั้น ขอให้เป็นดุลพินิจของแต่ละพรรค หากเห็นด้วยกับแนวทางของพรรค พท. เราก็ยินดี บางพรรคร่วมตอบรับ บางพรรคยังไม่แสดงท่าทีส่วนเรื่องการโหวตของ ก.ก.จะช่วย พท.หรือไม่นั้น เราได้แจ้งพรรคร่วมแล้วว่าเป็นเรื่องของเอกสิทธิ์ของพรรค ก.ก. ทั้งนี้ ในวันที่ 3 สิงหาคมช่วงบ่าย พรรค พท.จะออกแถลงการณ์ตั้งรัฐบาลใหม่อีกครั้งหนึ่ง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image