ที่มา | คอลัมน์ ฟรีสไตล์เรื่องบ้าน บ้าน |
---|---|
ผู้เขียน | เมตตา ทับทิม [email protected] |
เผยแพร่ |
ข้อมูลสุดเอ็กซ์คลูซีฟมาแล้ว เช็กสต๊อกคอนโด 8 ไซต์ก่อสร้างรถไฟฟ้า
นาทีนี้อะไรต่อมิอะไรมะรุมมะตุ้มกันไปหมด ของสร้างเสร็จทยอยมาเติมในตลาด สต๊อกเก่าที่เคลียร์ไม่ออกได้แต่นั่งมองกันตาปริบๆ เดือดร้อน 3 สมาคมวงการอสังหาริมทรัพย์เขากำลังจะจัดมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 39 วันที่ 4-7 ตุลาคม 2561 ที่ศูนย์สิริกิติ์
อารมณ์ประมาณว่าทิ้งทวนช่วงปลายปีนี้ ถือเป็นงานเทกระจาดแห่งปีก็ว่าได้เพราะดีเวลอปเปอร์ยอมรับหน้าชื่นตาบานแล้วว่า โปรโมชั่นคุ้มจิงจิงเพราะเถ้าแก่อยากปิดยอดสวยๆ (ปิดยอดทางบัญชีเพื่อโชว์ชาวบ้าน)
ก่อนอื่นต้องบอกเลยว่าข้อมูลเชื่อถือได้ 100% เพราะไม่ได้ทำเอง (ฮา)
งานนี้ต้องขอบคุณ “น้องไผ่” ผู้บริหารจากคอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย อุตส่าห์อดตาหลับขับตานอนส่งมาให้ดู แบบว่าบอกวันนี้ขอพรุ่งนี้ น่ารักจุงเบย
เข้าเรื่องเลยดีกว่า นับเฉพาะคอนโดมิเนียมเปิดขายใหม่ตั้งแต่ปี 2556 โฟกัสทำเลแนวรถไฟฟ้า แบ่งเป็นซัพพลายสะสมของเส้นทางที่เปิดบริการแล้ว นับไปนับมามี 2 สายคือ รถไฟลอยฟ้าบีทีเอสกับรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT รวมกัน 110,158 ห้อง
ส่วนซัพพลายสะสมในแนวรถไฟฟ้าสายที่กำลังก่อสร้าง มีรวมกัน 89,946 ห้อง
การขึ้นราคาของคอนโดฯ แนวรถไฟฟ้าปัจจุบัน เฉลี่ยปีละ 15-20% สูงกว่าการขึ้นราคาของคอนโดฯ แนวรถไฟฟ้าที่กำลังสร้าง ซึ่งขึ้นเฉลี่ยปีละ 8-15%
ในอนาคต รอให้สร้างเสร็จก่อนเถอะ ที่ดินยังต่ำกว่า ข้อจำกัดสร้างตึกสูงน้อยกว่า ทำให้สร้างโครงการขนาด 1,000 ห้องได้เยอะกว่า จึงทำนายกันว่าถ้าสร้างเสร็จและเปิดวิ่งครบเมื่อไหร่ คอนโดฯ แนวรถไฟฟ้าสายออกนอกเมืองจะบูมและโตกว่าในเมือง
ทั้งนี้ทั้งนั้น บิ๊กดาต้าของคอลลิเออร์สฯ ระบุว่า สำรวจจาก 8 ไซต์ที่กำลังก่อสร้าง ได้แก่ 1.สายสีเขียวตอนเหนือ 2.สายสีเขียวตอนใต้ 3.สายสีน้ำเงิน 4.สายสีแดง 5.สายสีส้ม 6.สายสีชมพู 7.สายสีเหลือง และ 8.สายสีทอง
ทั่นบอกว่าให้ใช้ปี 2556 กับ 2557 เป็นปีตัดเชือก กล่าวคือ ก่อนปี 2556 ดีเวลอปเปอร์เห่อสร้างตามรถไฟฟ้าสายปัจจุบัน แต่หลังจากปี 2557 ซัพพลายใหม่ไปเกิดขึ้นตามแนวรถไฟฟ้าที่กำลังก่อสร้าง
ในด้านราคาที่ดิน แม้จะแพงขึ้นตามความคืบหน้าของไซต์ก่อสร้าง เช่น สร้างแล้ว 10% ก็ราคาหนึ่ง สร้างแล้ว 80% ก็อีกราคาหนึ่ง
แต่ถึงยังไงราคาก็ไม่ระห่ำตารางวาละ 2-3 ล้านเหมือนโซนใจกลางเมือง
เลดี้แอนด์เจนเติลแมน การสำรวจ ณ เดือนสิงหาคม 2561 ลงสถิติให้ดูรัวๆ ดังนี้
สายสีน้ำเงิน ครองแชมป์มากสุด 31,336 ห้อง อยู่ระหว่างขาย 24,441 ห้อง มูลค่าเฉียด 60,000 ล้านบาท สัดส่วนขายได้ 74%
สายสีเขียวใต้สะสม19,931 ห้อง อยู่ระหว่างขาย 19,000 ห้อง มูลค่า 41,000 ล้านบาท สัดส่วนขายได้ 65%
สายสีเขียวเหนือสะสม 18,596 ห้อง อยู่ระหว่างขาย 12,000 ห้อง มูลค่า 24,000 ล้าน สัดส่วนขายได้ 74%
สายสีส้มสะสม 14,243 ห้อง อยู่ระหว่างขายก็ 14,000 ห้อง มูลค่า 23,500 ล้าน สัดส่วนขายได้ 58%
สายสีเหลืองสะสม 14,193 ห้อง อยู่ระหว่างขาย 13,400 ห้อง มูลค่า 37,000 ล้าน สัดส่วนขายได้ 85%
สายสีชมพูสะสม 9,762 ห้อง อยู่ระหว่างขาย 3,700 ห้อง มูลค่าเฉียด 7,000 ล้าน สัดส่วนขายได้ 82%
สายสีแดงสะสม 4,493 ห้อง อยู่ระหว่างขายเท่ากัน มูลค่าเฉียด 9,900 ล้าน สัดส่วนขายได้ 77%
และสายสีทอง 2,290 ห้อง อยู่ระหว่างขาย 1,200 ห้อง มูลค่าเฉียด 7,000 ล้าน สัดส่วนขายได้ 84%
ในที่นี้ คัด 3 ทำเลแหล่มสุด มีสายสีเขียว หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต โฟกัสตั้งแต่ห้าแยกลาดพร้าวจนถึง ม.เกษตร, ต่อมา สายสีเขียว แบริ่ง-สำโรง-สมุทรปราการ แป้กไปพักหนึ่งตอนนี้เริ่มกลับมาฟื้นตัว แถมดันราคาตารางเมตรละแสนกันแล้ว
และสายสีน้ำเงิน โฟกัสแนวถนนจรัญสนิทวงศ์-เพชรเกษม อันนี้เป็นของแหง๋เพราะความคืบหน้าก่อสร้างใกล้เสร็จเต็มที กำหนดเปิดในปี 2562 นี่เอง
แถมให้อีก 3 ทำเลห้ามกะพริบตา ชี้เป้าได้เลย “สีส้ม-ชมพู-เหลือง” เหตุผลกำปั้นทุบดินเพราะเพิ่งเปิดไซต์ก่อสร้างสดๆ ร้อนๆ
ในจำนวนนี้จะเห็นว่า “รถไฟฟ้าสายสีเหลือง” ซิวแชมป์ขายดีที่สุด มีสัดส่วนขายได้ถึง 85%
ใครที่ฝันอยากมีคอนโด 0 ก้าวจากสถานีรถไฟฟ้า ราคาจับต้องได้ ให้จ้องดูเขาปักป้ายขายดีๆ ก็แล้วกัน รอเปิดขายใหม่อีกเพียบ