ที่มา | คอลัมน์หิวหรืออิ่มก็ยิ้มพอกัน มติชนรายวัน |
---|---|
ผู้เขียน | พัชรพน |
เผยแพร่ |
รู้สึกเหมือนกันไหมครับว่า พฤติกรรมการซื้ออาหารกินของคนไทยเรานี่เปลี่ยนไปในอัตราเร่งที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
เรื่องมันเป็นอย่างนี้ครับ ด้วยว่าในช่วงเดือนสองเดือนที่ผ่านมา ผมมีความจำเป็นต้องปรับการดำรงตนให้เหมาะกับวิถีชีวิตแบบใหม่
คือว่าจะต้องเดินทางไกลขึ้น ในห้วงยามที่รถติดมโหฬารแทบทุกวัน ประกอบกับสุขภาพที่รู้ตัวเองว่าจะต้องไม่หิวท้องนานเกินไป หิวเมื่อไรควรหาอะไรกิน ไม่ให้ท้องไส้ประท้วงด้วยประการใดๆ
ในภาวะจำยอมเช่นนี้ ทำให้การแหมะตัวเองที่ร้านอาหารสั่งแล้วนั่งรอเสิร์ฟกว่าจะกินเสร็จต้องใช้เวลามากมายจำเป็นต้องถูกตัดจากตารางชีวิต เหลือไว้แค่วันที่เป็นวาระแห่งการสังสรรค์กับเพื่อนพ้องน้องพี่
วิถีใหม่คือ หาอะไรที่มากินบนรถ เดินทางไปด้วย กินไปด้วย
เพื่อเลือกทางนี้ก็เลยจำเป็นต้องกำหนดประเภทอาหารให้มีคุณภาพเหมาะสม และง่ายกับการหยิบกิน เนื่องจากต้องขับรถไปด้วยกินไปด้วย และอะไรที่นุงนังต้องใช้เครื่องมือเครื่องไม้ในการตัก การจิ้มมากๆ ก็เป็นเรื่องที่ต้องตัดออกไป
อีกเรื่องที่สำคัญคืออาหารกลิ่นแรงๆ ซึ่งทำให้ตลบอบอวลภายในรถก็ต้องสละทิ้ง
หลังจากทดลองหลายรอบหลายเที่ยว และตลาดค่ำ ตลาดเช้า เลือกอาหารที่คิดว่าเหมาะ
ทำไปทำมาพบว่าที่สุดแล้วเป็นอาหารในมินิมาร์ทและที่ปั๊มน้ำมันคล้ายกับว่าจะสะดวกสุด เพราะรถต้องการที่จอด โดยเฉพาะในช่วงเวลาเร่งด่วนที่ไปจอดสุ่มสี่สุ่มห้าเสี่ยงต่อการถูกใบสั่ง ล็อกล้อ
และข้อสรุปนี้เอง ทำให้เกิดความรู้สึกว่าพฤติกรรมการกินของคนไทยเปลี่ยนไปในอัตราเร่งเร็วกว่าที่คิด จนเกิดความเชื่อว่าไม่นานคนไทยเราจะมีวัฒนธรรมการกินแบบใหม่
ที่รู้สึกแบบนี้เกิดจากการสังเกตเห็นว่าอาหารในมินิมาร์ทในปั๊มน้ำมันมีหลากหลายประเภทขึ้น แทบจะเรียกว่าไม่ว่าจะเป็นอาหารตะวันตก หรือตะวันออกที่ลงรายละเอียดไปเป็นไทย จีน ญี่ปุ่น หรืออื่นๆ
ทั้งที่ปรุงเสร็จ อุ่นเตรียมไว้เรียบร้อย หรือเข้าเครื่องไมโครเวฟ หรือเครื่องอบอีกนิดหน่อย
ดูเหมือนว่าอาหารจะเป็นเป้าหมายหลักของมินิมาร์ทมากขึ้นเรื่อยๆ อย่าง “7-11” ที่ใช้สโลแกนว่า “หิวเมื่อไหร่ก็แวะมา” ในการโฆษณาก็ชัดเจนถึงความตั้งใจที่จะให้มินิมาร์ทที่มีสาขามากที่สุดมีภาพของอะไร
ใน “7-11” เดี๋ยวนี้เพียบไปด้วยอาหารจริงๆ เรียกได้ว่าครบเครื่อง สนองความต้องการให้ทุกกลุ่มทุกวัย ทั้งอาหารปรุงสำเร็จตั้งแต่ข้าวแกงยันตามสั่งทุกประเภท ทุกอย่างที่เคยสั่งแล้วนั่งรอกินตามร้านแถวริมถนนทั้งหลาย เข้าเซเว่นหยิบมาให้พนักงานอุ่นได้เลย
ช่วงหลังนี้มีปรากฏการณ์ใหม่คือ อาหารตะวันตกที่เป็นเมนูด่วน เบอเกอร์ แซนด์วิช ฮอตดอก หรืออื่นๆ อีกสารพัด ติดยี่ห้อ “7-11” วางพรืดเต็มไปหมด เลือกซื้อเลือกกินได้ง่ายๆ เร็วๆ
อีกแห่งที่เห็นความเปลี่ยนแปลงมากคือปั๊มคาลเท็กซ์ หลังร่วมมือกับ “LAWSON” กลายเป็นแหล่งที่มีของกินหลากหลายมาก แถมจัดวางไว้ในแบบที่เรียกได้ว่า “เห็นแล้วหิว”
สำหรับคนที่ต้องการรวมเวลาของมื้ออาหารกับการเดินทางเข้าด้วยกัน อาหารมินิมาร์ทเป็นความลงตัวที่เจ๋งระดับหนี่ง หากยังเคอะเขินอยู่ว่าชีวิตมันจะต้องเร่งรีบอะไรขนาดนั้น จะให้นิยามการกินในรถเป็น “รองท้อง” ก็สบายมาก สารพัดเมนูมีให้เลือก
ที่ปั๊มอื่นอาจจะยังไม่ชัดเจน แต่สำหรับ “ปั๊ม ปตท.” ที่มี “7-11” กับ “ปั๊มคาลเท็กซ์” ที่มี “LAWSON” ลองเข้าไปเถอะ จะรู้ว่าจัดเจนมากสำหรับการมิกซ์เวลาเดินทางเข้ากับมื้ออาหาร
“เร็ว ไม่แพง รสชาติใช้ได้” ที่สำคัญคือ “รับประกันในความสะอาดได้มากกว่า”
ในยุคที่ “กรุงเทพมหานคร” คืนทางเท้า และรื้อย่านร้านตลาดทิ้ง ด้วยเหตุผลการจัดระเบียบเมืองใหม่ และที่จอดรถริมทางหายากเย็น ในยุคสมัยที่รถติดมโหฬาร
“เมนูด่วนในปั๊มที่ซื้อมากินบนรถได้ ตามแต่ความสะดวก” น่าเชื่อว่าจะเป็นพฤติกรรมที่จะแปรเป็นวัฒนธรรมใหม่ของคนไทย โดยเฉพาะคนเมืองในอีกไม่นาน
อย่างน้อยก็เป็นทางเลือกที่ตัดสินใจง่ายขึ้น