BookPath ‘อ่านวิถี’ ในมหานครแห่งหนังสือ

 

BookPath

‘อ่านวิถี’

ในมหานครแห่งหนังสือ

Advertisement

เปิดเมืองแล้วอย่างเป็นทางการ สำหรับ ‘มหานครนักอ่าน’

งานมหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 27 หรือ Book Expo Thailand 2022

โดยสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย ภายใต้แนวคิด ‘Booktopia : มหานครนักอ่าน’

Advertisement

เพราะการอ่านคือจุดเริ่มต้นของการสร้างเมืองโดยเป็นการกลับสู่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์อีกครั้ง หลังห่างบ้านหลังนี้ไปนาน

สำหรับ สำนักพิมพ์มติชน ในปีนี้ ร่วมงานกับ พิชัย แก้ววิชิต ศิลปินและช่างภาพผู้มีเอกลักษณ์พิเศษเฉพาะตัว (Matichon X Phichai Keawvichit) โดยมาในแนวคิด อ่านวิถี “BookPath”

ปานบัว บุนปาน กรรมการผู้จัดการ บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) ให้การต้อนรับ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯกทม. ซึ่งเลือกซื้อหนังสือจากสำนักพิมพ์มติชนไปถึง 8 เล่ม
แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย พร้อมด้วย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค และประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค แวะเยี่ยมชมบูธมติชน i48

ชวนมาร่วมเดินทางใน “Booktopia มหานครนักอ่าน” เมืองหนังสือ ที่หลอมรวมก่อร่างมาจากหยดหมึก ตัวอักษร กลิ่นกระดาษ และชาวมหานครนักอ่านทุกท่าน ในปีนี้สำนักพิมพ์มติชนจึงอยากเชิญชวนมาท่องมหานครนักอ่านไปตาม “BookPath” (อ่านวิถี)

เพราะในเมืองเมืองหนึ่งองค์ประกอบที่ขาดไม่ได้คือ “ฟุตปาธ” หรือ “บาทวิถี” ซึ่งเป็นพื้นที่สาธารณะที่เป็นของทุกคน ในมหานครนักอ่านแห่งนี้ สำนักพิมพ์มติชนจึงเปรียบดัง “BookPath” (อ่านวิถี) เสมือนมุมการอ่านที่ใครๆ ก็มองเห็นได้ง่ายจากทุกมุมถนน เป็นพื้นที่ที่เข้าถึงได้ง่ายและทั่วถึง ไม่ว่าคุณเป็นใครก็สามารถ “อ่าน” อย่างอิสระเสรีและเท่าเทียมกันบนพื้นที่แห่งนี้ได้อย่างแท้จริง ระหว่าง 12-23 ตุลาคมนี้ 10.00-21.00 น.

ปั้น (กรุงเทพ) มหานครแห่งการอ่าน

หวัง 1.5 ล้านเยี่ยมมหกรรมหนังสือ

ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ เซ็นข้อความว่า ‘กทม.’ บนเก้าอี้ผู้กำกับที่สกรีนภาพถ่ายของ พิชัย แก้ววิชิต ผู้ออกแบบของพรีเมียมให้สำนักพิมพ์มติชนในงานครั้งนี้

ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ประธานเปิดมหกรรม กล่าวบนเวทีโดยสารภาพว่า

“ตื่นเต้นนะเนี่ย เป็นครั้งแรกในชีวิตที่มาเปิดงานหนังสือ ที่ผ่านมาเป็นคนซื้อ คนหิ้วอย่างเดียว ต้องบอกก่อนเลยว่า welcome back ยินดีต้อนรับสู่บ้านหลังเก่า ต่อไปนี้จะยิ่งใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จะเป็นงานที่อยู่ในปฏิทินของโลก” ผู้ว่าฯกล่าว พร้อมย้ำว่ากรุงเทพมหานครจะต้องเป็นเมืองแห่งการอ่านหนังสือ เชื่อว่าดูเทรนด์แล้วคนกรุงเทพฯอ่านเยอะขึ้น อาจจะเป็นการอ่านออนไลน์หรือจากโซเชียลมีเดีย แต่การอ่านทำให้เราคุ้นเคยเดี๋ยวเราจะรักการอ่านมากขึ้น

“ผมเชื่อว่ายอดปีนี้ก็ขอให้ถึง 1.5 ล้านคนได้ไหม น่าจะถึง พยายามชักชวนเพื่อนมาที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ที่ปรับปรุงใหม่ การเดินทางดีขึ้น และหวังว่ายอดผู้ชมจะถึง 1.5 ล้านคน แต่รวมๆ เลยก็จะเป็นการจุดประกาย สร้างกรุงเทพฯให้เป็นเมืองแห่งความรู้ เป็นเมืองของการอ่าน และกระจายให้ทุกคนมีสิทธิเข้าถึงหนังสือได้ ทาง กทม.จะทำหน้าที่เป็นผู้เตรียมหนังสือให้หลากหลาย ให้ทุกคนสามารถเข้าถึงการอ่านได้ และได้ทุกเรื่องที่ตัวเองอ่าน ขอให้งานนี้ประสบความสำเร็จ เป็นร้อยเท่าพันเท่าอย่างที่ตั้งใจไว้” ชัชชาติกล่าว

ชัชชาติ ควง แสนปิติ สิทธิพันธุ์ บุตรชาย เดินเยี่ยมชมบูธสำนักพิมพ์ต่างๆ พร้อมแวะช้อปบูธสำนักพิมพ์มติชน i48 หลังเป็นประธานเปิดมหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 27 เมื่อ 12 ต.ค.

ด้าน ทิพย์สุดา สินชวาลวัฒน์ นายกสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย เอ่ยว่า ผลกระทบจากโควิด-19 ในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้สำนักพิมพ์ต่างๆ ต้องปรับตัวสู่การจำหน่ายหนังสือบนโลกออนไลน์มากขึ้น เพื่อหล่อเลี้ยงธุรกิจให้คงอยู่ท่ามกลางสถานการณ์ที่ท้าทาย แต่อย่างไรก็ตาม แพลตฟอร์มออนไลน์อาจยังไม่ตอบโจทย์สำนักพิมพ์ในด้านของยอดขายและไม่สามารถมอบประสบการณ์ให้นักอ่านได้อย่างเต็มที่เหมือนดังเช่นงานรูปแบบออนกราวน์

“การได้กลับมาจัดงานหนังสือที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์อีกครั้ง เสมือนการได้เดินทางกลับบ้าน เป็นสถานที่ที่คุ้นเคยและสร้างความทรงจำมากมายให้กับนักอ่าน ขณะเดียวกันยังสามารถเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะที่สะดวก อีกทั้งในช่วงตลอดการจัดงานผู้ที่นำรถส่วนตัวมายังสามารถจอดรถได้ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย ทำให้ตั้งเป้าว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานประมาณ 1.5 ล้านคน สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนไม่ต่ำกว่า 300 ล้านบาท” ทิพย์สุดากล่าว

‘มติชน’ แกะกล่อง 9 เล่มใหม่ จัดเต็มทุกหมวด

จากภาพรวมของงาน มาโฟกัสที่ บูธสำนักพิมพ์มติชน i48 ซึ่งคึกคักตั้งแต่วันแรก โดยมีหนังสือใหม่ไฮไลต์ 9 เล่ม ที่เพิ่งเปิดตัว พร้อมวางจำหน่ายในงานนี้ ได้แก่

1.ข้างขึ้นข้างแรม โดย ขรรค์ชัย บุนปาน และ สุจิตต์ วงษ์เทศ ราคา 790 บาท หากซื้อในงานนี้ ราคาเพียง 700 บาท

2.ย้อนรอยโฮ่ง ตามรอยเหมียว (A History of Civilization with Cats and Dogs) เรียบเรียงโดย Hu Chuan-an และแปลโดย อารยา เทพสถิตย์ศิลป์ ราคา 320 บาท ราคาภายในงาน 272 บาท

3.MORE เปิดประวัติศาสตร์เศรษฐกิจหมื่นปี เขียนโดย Philip Coggan แปลโดย พลอยแสง เอกญาติ ราคา 650 บาท ซื้อในงานเพียง 553 บาท

4.เทพเจ้าจีนในกรุงเทพฯ เขียนโดย อชิรัชญ์ ไชยพจน์พานิช ราคา 400 บาท ราคาภายในงาน 340 บาท

5.รสไทย(ไม่)แท้: ถอดรูปทิพย์อาหารไทยในสนามการเมืองวัฒนธรรม เขียนโดย อาสา คำภา ราคา 320 บาท ราคาภายในงาน 272 บาท

6.Laziness Does Not Exist ผ่อนชีวิต บิดขี้เกียจ สำนักพิมพ์ broccoli book เขียนโดย Devon Price แปลโดย พรรษรัตน์ พลสุวรรณา ราคา 480 บาท ราคาภายในงาน 408 บาท

7.รัฐสยดสยอง เขียนโดย ภัทรนิษฐ์ สุรรังสรรค์ ราคา 340 บาท ราคาภายในงาน 289 บาท

8.Amidst the New World Order ไทยในระเบียบโลกใหม่ เขียนโดย รองศาสตราจารย์ ดร.ปิติ ศรีแสงนาม ราคา 420 บาท ราคาภายในงาน 357 บาท

9.The Colour Code รหัสนัยแห่งสี เขียนโดย Paul Simpson แปลโดย ไพรัตน์ พงศ์พานิชย์ ราคา 580 บาท ราคาภายในงาน 493 บาท

ไม่เพียงเท่านั้น ยังมาพร้อมกับโปรโมชั่นราคาสุดพิเศษ และของสมนาคุณ อาทิ

เมื่อซื้อครบ 500 บาท รับฟรีเสื้อยืด BookPath T-Shirtเมื่อซื้อครบ 800 บาท รับซองผ้าใส่หนังสือ BookPath Book Sleeve เมื่อซื้อครบ 1,500 บาท รับกระเป๋าสะพายข้าง BookPath Big Tote และเมื่อซื้อครบ 2,500 บาทรับทันที เสื้อ BookPath Mat

แห่ชิม ‘รสไทย (ไม่) แท้’! พุ่งแชมป์ขายดีวันแรก

คุยแฟนหลากแนว ‘ประวัติศาสตร์’ ยังฮิต

รสไทย (ไม่) แท้ : ถอดรูปทิพย์อาหารไทยในสนามการเมืองวัฒนธรรม โดย อาสา คำภา หนังสือเล่มใหม่ครองแชมป์ขายดีอันดับ 1

สำหรับเล่มขายดีทะยานโดดเด่นของสำนักพิมพ์มติชน คือ รสไทย (ไม่) แท้ : ถอดรูปทิพย์อาหารไทยในสนามการเมืองวัฒนธรรม โดย อาสา คำภา

เล่าถึงเส้นทางอันยาวนานของเรื่องใกล้ปากใกล้ใจอย่างอาหารการกินถอดรูปทิพย์แห่งความเป็นไทย สำรวจนิยามใหม่ๆ ของอาหารไทยที่ถูกกำหนดอย่างหลากหลายซับซ้อนโดยรัฐ-ทุน-สื่อ และผู้คนลัดเลาะเข้าไปถึงเบื้องหลังของการเปลี่ยนร่าง-แปลงกายอย่างไม่หยุดนิ่งของอาหาร ไทยจากอดีตถึงปัจจุบัน สู่ปรากฏการณ์ร่วมสมัย

รัฐสยดสยอง โดย ภัทรนิษฐ์ สุรรังสรรค์ ขายดีอันดับ 2

ตามด้วย รัฐสยดสยอง โดย ภัทรนิษฐ์ สุรรังสรรค์

เนื้อหาเกี่ยวกับกลไกการสร้าง “ระบอบความสยดสยอง” (regime of horror) ของรัฐสยาม ที่ใช้ความสะพรึงกลัวเป็นเครื่องมือควบคุมราษฎรให้อยู่ใต้อาณัติ มิให้สร้างรอยมลทินแก่รัฐอันศิวิไลซ์ ทั้งการจัดการซากศพ ความโสโครก โรคระบาด รวมถึงการลงทัณฑ์ทรมาน

และ 3.ย้อนรอยโฮ่ง ตามรอยเหมียว Hu Chuan-an เรียบเรียง, อารยา เทพสถิตย์ศิลป์ แปลจาก A History of Civilization with Cats and Dogs

เนื้อหาเกี่ยวกับ “แมว” และ “หมา” ในประวัติศาสตร์อารยธรรมมนุษย์ โดยความสัมพันธ์ระหว่างแมวและหมากับมนุษย์ที่อยู่คู่กันมาอย่างยาวนานหลายศตวรรษนั้น ปรากฏให้เห็นบทบาทมากมายของพวกมันที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์และภาษาของเรา ขณะเดียวกันกับที่เราเองก็เป็นผู้เปลี่ยนแปลงวิวัฒนาการของแมวและหมาให้มาอยู่เคียงข้างในอารยธรรมมนุษย์ด้วยเช่นกัน

มีนศกานต์ภรร เฉลิมบุญ มาเพื่อซื้อ ‘ย้อนรอยโฮ่ง ตามรอยเหมียว’

มีนศกานต์ภรร เฉลิมบุญ อายุ 26 ปี อาจารย์สถาบันแห่งหนึ่ง เปิดเผยว่า วันนี้มาซื้อหนังสือ ย้อนรอยโฮ่ง ตามรอยเหมียว เพราะหน้าหนังสือน่าสนใจ เมื่อลองเปิดอ่านดูแล้วพบว่าน่าอ่านมาก จึงอยากซื้อเก็บเอาไว้

“วันนี้ตั้งใจมาซื้อเล่มนี้โดยเฉพาะ เพราะเห็นโปรโมตในเพจเฟซบุ๊กของสำนักพิมพ์มติชน วันแรกคนเยอะมาก เกินคาดมาก เพราะคิดว่ามาเช้าอยู่ แต่คนก็เยอะมากๆ “ มีนศกานต์ภรรเล่า

นอกจากเล่มเปิดตัวใหม่ล่าสุด พ็อคเก็ตบุ๊กที่เปิดโฉมก่อนหน้า อย่าง พจนานุกรมสร้างชาติ: อุดมการณ์รัฐไทยในพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน ผลงาน มานิตา ศรีสิตานนท์ เหลืองกระจ่าง ก็ได้รับความสนใจด้วน

เตวิช พาณิชย์ปรัชญา ชอบ ‘การเมืองเรื่องภาษา’ จึงเลือกซื้อ ‘พจนานุกรมสร้างชาติ’

เตวิช พาณิชย์ปรัชญา อายุ 30 ปี พนักงานการตลาดบริษัทแห่งหนึ่ง ศิษย์เก่าคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยว่า มาซื้อพจนานุกรมสร้างชาติ เพราะชอบ ‘การเมืองเรื่องภาษา’

“ชอบเรื่องภาษาและเรื่องการเมือง เมื่อดูที่ปกด้านหลังและเนื้อหาก็เห็นว่าตรงกับความสนใจ ตั้งแต่จุดเริ่มต้นการมีพจนานุกรมในยุคที่ยังไม่มีชาวต่างชาติเข้ามาในประเทศไทย ปกติอ่านหนังสือแนวสังคมประวัติศาสตร์อยู่แล้ว” นักการตลาดเผย

เป็นมหกรรมห้ามพลาด สำหรับนักอ่านและนักอยากอ่าน บนเส้นทาง ‘อ่านวิถี’

ทีมข่าวเฉพาะกิจ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image