‘บึงกาฬ’ จัดใหญ่วันยางพารา 61 ครบเครื่องเรื่องเกษตร-นวัตกรรม

‘น้องใหม่ ไฟแรงเฟร่อ…’  คงจะเป็นคำนิยามสำหรับจังหวัดบึงกาฬได้ในขณะนี้

เพราะแม้จะจัดตั้งเป็น “จังหวัด” ได้ไม่นานแต่คุณภาพและศักยภาพในแต่ละด้านนั้น “บึงกาฬ” ไม่น้อยหน้าใครเลยทีเดียว

เฉกเช่นการจัด “งานวันยางพาราและกาชาดบึงกาฬ 2561” ที่จัดต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 6 โดยปีนี้มาพร้อมแนวคิด “ศาสตร์พระราชารุ่งเรือง เมืองศูนย์กลางยางพารา เกษตรอินทรีย์ก้าวหน้า เปิดประตูการค้าอินโดจีน” 

Advertisement

สำหรับงานวันยางพาราที่จัดขึ้นครั้งนี้จะประสบความสำเร็จไม่ได้เลยหากไม่ได้รับความร่วมมือจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดบึงกาฬ เหล่ากาชาดบึงกาฬ ตลอดจนองค์การหน่วยงานราชการต่างๆ เสริมทัพด้วยภาคเอกชนมาร่วมสร้างความยิ่งใหญ่ ทำให้งานระดับจังหวัดได้รับการยอมรับให้เป็นงานยางพาราเอ็กซ์โปครั้งใหญ่ที่สุดในภาคอีสาน

ส่วนความพิเศษสุดที่จะเกิดขึ้น ณ บริเวณสนามหน้าที่ว่าการอำเภอเมือง จังหวัดบึงกาฬ ระหว่างวันที่ 17-23 มกราคมที่จะถึงนี้ เรียกได้ว่า จัดใหญ่! จัดเต็ม! ขนทัพความรู้ ยกนวัตกรรม และพร้อมสรรพไปด้วยความบันเทิงกันมากกว่าทุกปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ยังเป็นการยกระดับของงานให้เหมาะสมกับความสำคัญในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง สะท้อนความก้าวหน้าในด้านการพัฒนาศักยภาพด้านการท่องเที่ยว การศึกษา และการประกอบอาชีพที่หลากหลาย

ตลอดจนเป็นการการตอกย้ำว่า จังหวัดบึงกาฬพร้อมที่จะเป็นเมืองศูนย์กลางยางพาราของภาคอีสาน และพร้อมที่จะก้าวไปสู่การเป็นศูนย์กลางยางพาราระดับอาเซียนในอนาคต

Advertisement

พิสุทธิ์ บุษยพรรณพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ เผยว่า การจัดงานวันยางพาราและกาชาดบึงกาฬ มีส่วนสำคัญอย่างมากต่อจังหวัด เพราะมีส่วนในการยกระดับศักยภาพในการพัฒนา เช่น ด้านการเกษตรให้พัฒนาไปสู่การเกษตรก้าวหน้า เนื่องจากยางพาราเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญของจังหวัด การจัดงานนี้จึงเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างรายได้ที่มั่นคงให้กับพี่น้องชาวสวนยาง

ทั้งนี้บึงกาฬยังมีศักยภาพทั้งด้านการท่องเที่ยว ตลอดการเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้านด้วย

“เรามีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติและทางอารยธรรม ไฮไลต์สำคัญคือ ภูทอก ‘วิมานเทวดา’ เป็นสถานที่ที่ทางอริยสงฆ์ไปวิปัสสนาภาวนา เป็นดัง ‘สกายวอล์ก’ ของแท้ ตรงนี้ก็สอดคล้องกับนโยบายของภาครัฐ นอกจากนี้ในเขตชายแดนยังมีพื้นที่ติดกับ สปป.ลาว เป็นระยะทางกว่า 120 กิโลเมตร” 

พิสุทธิ์ บุษยพรรณพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ

เเละในปี 2562 จะมีการจัดสร้างสะพานมิตรภาพไทย-ลาว เพราะฉะนั้นการจะเชื่อมโยงการค้า การลงทุน ระหว่างประเทศไทย กับลาว เวียดนาม และประเทศจีนตอนใต้จะง่ายขึ้น โดยทางจังหวัดพยายามยกระดับและพัฒนาให้จังหวัดบึงกาฬเป็นศูนย์กลางยางพาราและก่อให้เกิดอุตสาหกรรมด้านยางพาราต่อไป

“ส่วนด้านยุทธศาสตร์การพัฒนาด้านยางพารา ที่สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล สิ่งสำคัญสุดคือ ต้องรู้จัก ‘การแปรรูป’ และมีความรู้ใหม่ๆ เรื่องนวัตกรรม โดยในขณะนี้มีการเริ่มต้นในทุกภาคส่วนแล้ว ว่า ผู้ผลิต ต้องคำนึงถึง ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ เพราะหากให้ความสำคัญเฉพาะต้นน้ำ ก็จะไม่สมดุล ต้องเข้าใจกลางน้ำ เช่น การแปรรูป ซึ่งเป็นการเพิ่มมูลค่า และปลายน้ำคือเรื่องการตลาด ซึ่งมีอยู่ในนโยบาย”

ในด้านการตอบรับนั้น พ่อเมืองบึงกาฬเผยว่า ได้รับการตอบรับที่ดีจากพี่น้องประชาชนให้ความสนใจเข้าร่วมกิจกรรมและเข้าชมนวัตกรรม

“ในอนาคตของจังหวัดบึงกาฬ หวังไว้ว่าจะเปิดพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษ เป็นอุตสาหกรรมการเกษตร ซึ่งส่งผลให้การคมนาคม และการขนส่งโลจิสติกส์ดีขึ้นตามไปด้วย ซึ่งในตอนนี้การเดินทางมายังบึงกาฬอาจจะค่อนข้างไกล แต่ในอนาคตมีโอกาสที่จะขยายตัวเพิ่มเช่น สนามบินประจำจังหวัดบึงกาฬ และคาดการณ์ไว้ว่าในการจัดงานวันยางพาราฯครั้งต่อไปจะยกระดับเป็นงานที่ยิ่งใหญ่ระดับประเทศ” นายพิสุทธิ์กล่าว

ขณะที่ผู้ริเริ่มและพลักดันให้เกิดมหกรรมยางพาราอย่าง พินิจ จารุสมบัติ อดีตรองนายกรัฐมนตรี เเละประธานสภาวัฒนธรรมไทย-จีน เเละส่งเสริมความสัมพันธ์ ระบุว่า งานปีนี้มีความพิเศษมากขึ้นทั้งรูปแบบและเนื้อหา โดยเน้นในเรื่องการแปรรูป นวัตกรรม การวิจัยและการพัฒนา อย่างถนนยางพาราที่เป็นความร่วมมือระหว่างการยางแห่งประเทศไทย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (มจพ.) ก็เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจากการจัดงานวันยางพาราในครั้งที่ผ่านมา รวมถึงโรงงานหมอนยางพาราของชุมนุมสหกรณ์ยางบึงกาฬ ที่วันนี้มีคนสนใจเข้ามาดูงานและติดต่อขอซื้อจำนวนมาก ซึ่งทำให้เกิดการตื่นตัวเรื่องการแปรรูปจากต้นน้ำถึงปลายน้ำ เกิดการรวมกลุ่มเพื่อแปรรูปขึ้น

พินิจ จารุสมบัติ อดีตรองนายกรัฐมนตรี

ทั้งหมดเป็นความร่วมมือของหน่วยงานต่างๆ อย่างชัดเจนเป็นรูปธรรมและจับต้องได้ ดังที่ ดร.วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวไว้ว่า งานวันยางพาราบึงกาฬเป็นต้นแบบของประชารัฐจริงๆ

“ปีนี้ยังได้ยกระดับงานสู่ระดับภูมิภาค โดยจะมีบรรดาประเทศในกลุ่มลุ่มแม่น้ำโขงเข้าร่วมงานครั้งนี้จำนวนมาก เนื่องจากงานวันยางพารามีชื่อเสียงและได้รับการบอกต่อว่ามีเนื้อหาสาระที่เป็นประโยชน์ จึงผลักดันให้คนในประเทศมาร่วมงานแล้วนำความรู้ที่ได้กลับไปพัฒนาต่อไป ยังมีพันธมิตรจากประเทศจีนระดับผู้นำด้านยางพาราทั้งหมดจะมาร่วมงานครั้งนี้ด้วย” พินิจกล่าว

เป็นอีกคนสำคัญที่ขาดไม่ได้ สำหรับ นิพนธ์ คนขยัน นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดบึงกาฬ ผู้ผลักดันให้เกิด “บึงกาฬรับเบอร์กรุ๊ป” โรงงานผลิตหมอนยางพาราของประชาชน ที่มีออเดอร์เข้ามาเพียบ ไม่ว่าจะเป็นตลาดจากประเทศจีน ที่บอกว่าผลิตเท่าไหร่รับหมด รวมถึงเวียดนามที่ล่าสุดมาติดต่อขอรับตัวอย่างหมอนยางพาราไป 300 ใบเพื่อเปิดตลาดในงานยางพาราที่เมืองนครโฮจิมินห์ด้วย

แต่นิพนธ์ออกตัวว่า โรงงานนี้เป็นของคนไทยทุกคน!!

นิพนธ์ คนขยัน นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดบึงกาฬ

“เราถือว่าโรงงานที่เกิดขึ้นรัฐบาลและคนไทยทุกคนมีหุ้นส่วน เพราะรัฐบาลให้งบประมาณมา ดังนั้นเตรียมเสนอว่าหมอนและที่นอนของโรงพยาบาล และของทหารเกณฑ์ทั่วประเทศ ทางบึงกาฬจะเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายในราคาที่พิเศษสุด ให้คนไข้หรือทหารได้นอนหมอนและที่นอนที่มีคุณภาพและราคาถูก ยังเป็นการระบายยางในตลาดไปพร้อมกัน”

นิพนธ์บอกอีกว่า ตอนนี้เตรียมเสนอกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยว่าจะของบปี 2562 จำนวน 200 ล้านบาท เพื่อนำยางแผ่นรมควันมาทำพื้นสนามยาง ตลอดจนการสร้างโรงงานผลิตยางพาราเป็นแบริเออร์ กรวยจราจร รวมถึงล้อรถจักรยานยนต์ และรองเท้ายาง เพื่อแก้ปัญหายางพาราโดยการเพิ่มมูลค่าและระบายยางไปพร้อมกัน ปัญหาเรื่องยางก็จะหมดไปในอนาคต

 

อีกหนึ่งตัวแทนจากภาคเอกชนที่เดินทางมาไกลจากประเทศจีนเพื่อเข้าร่วมงานวันยางพาราและกาชาดเป็นประจำทุกปี อย่าง เฉิน หู้เซิง หรือ โทนี่ เฉิน ผู้อำนวยการ ฝ่ายประเทศไทย รับเบอร์ วัลเล่ย์ กรุ๊ป จำกัด ประเทศจีน บอกว่า หมอนจากบึงกาฬ ทางประเทศจีนพร้อมรับทั้งหมด เนื่องจากตลาดหมอนยางพาราในเมืองจีนกำลังพัฒนาไปอย่างต่อเนื่อง และมีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยเยอะมาก

เฉิน หู้เซิง

“จึงเห็นด้วยอย่างยิ่งว่าการแปรรูปวัตถุดิบยางพาราเป็นเรื่องสำคัญ นอกจากนี้ผู้อำนวยการใหญ่ของหน่วยงานศูนย์วิจัยและยางรถยนต์แห่งชาติ มณฑลชิงเต่า ประเทศจีน หน่วยงานที่คอยดูแลเรื่องยางพาราและยางรถยนต์ของประเทศจีน จะเป็นตัวแทนของรัฐบาลจีนเดินทางมาร่วมงานในครั้งนี้ด้วย เนื่องจากเล็งเห็นถึงความสำคัญของการจัดงานในครั้งนี้ และจะเป็นการเริ่มต้นการลงทุนก้าวใหม่ในประเทศไทย”

“เรายังยกอุตสาหกรรมแปรรูปและธุรกิจยางทั้งระบบมานำเสนอ โดยครอบคลุมตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ อาทิ โรงงานแปรรูปยาง ยางแท่ง, บริษัทผลิตล้อรถยนต์ที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศจีน และบริษัทโลจิสติกส์ที่มีประสบการณ์ชิปปิ้งให้กับนายทุนจีนที่มาลงทุนในไทยมากกว่า 10 ปี เป็นต้น” เฉิน หู้เซิง ระบุ

นอกจากกิจกรรมความรู้และนวัตกรรมการแปรรูปมากมายที่นำเสนอผ่านรูปแบบต่างๆ ในงานแล้ว อีกหนึ่งไฮไลต์สำคัญที่จะเกิดขึ้นคือ กิจกรรมประกวด “ไทยแลนด์ลูกทุ่งคอนเทสต์ 2018” กิจกรรมความบันเทิงครั้งใหญ่ระดับประเทศ โดยแชมป์จากระดับภูมิภาคร่วมชิงชัยกับแชมป์จังหวัดบึงกาฬ ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พร้อมรางวัลเงินสดรวมกว่า 500,000 บาท

กิจกรรมประกวด “ไทยแลนด์ลูกทุ่งคอนเทสต์”

ในงานครั้งนี้ยังได้คณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ อาทิ ครูสลา คุณวุฒิ, ครูเทียม-ชุติเดช ทองอยู่, ครูเรืองยศ พิมพ์ทอง และครูแดน บุรีรัมย์ มาร่วมตัดสิน ตลอดจนได้รับการสนับสนุนจากบริษัท คาราบาวกรุ๊ป จำกัด (มหาชน)

กมลดิษฐ สมุทรโคจร

กมลดิษฐ สมุทรโคจร รองกรรมการผู้จัดการสายการตลาดผู้สนับสนุนการประกวดวงดนตรีลูกทุ่งคอนเทสต์ 2018 กล่าวว่า งานวันยางพาราเเละกาชาดบึงกาฬเป็นงานที่จัดขึ้นด้วยวัตถุประสงค์ที่ดีซึ่งเป็นเรื่องที่ควรได้รับการส่งเสริมจากภาคเอกชนซึ่งเรามองในภาคอีสานอยู่พอดี นอกจากนี้กิจกรรมทางสังคมของเราที่ผ่านมาก็ได้ทำกิจกรรมกับเยาวชนพอสมควร ทั้งกิจกรรมร้องเพลงเพื่อชีวิตของ แอ๊ด คาราบาว เเละกิจกรรมกีฬา

สำหรับงานวันยางพาราพอได้ยินว่าเป็นงานที่เป็นการประกวดวงดนตรีลุกทุ่งระดับประเทศก็รู้สึกสนใจและคาดหวังว่า การร่วมงานครั้งนี้จะทำให้คนบึงกาฬได้ใกล้ชิดกับเรามากขึ้น นอกจากนี้ในงานวันยางพาราเเละกาชาดบึงกาฬคาราบาวแดงจะออกบูธเล่นเกมร่วมสนุกในงานครั้งนี้ด้วย

ยังไม่หมดเท่านี้!! สำหรับกิจกรรมในงานวันยางพาราและกาชาดบึงกาฬ ยังมีกิจกรรมนิทรรศการประกอบด้วย โซนบึงกาฬเทิดพระเกียรติ ที่สวนประดับไฟเฉลิมพระเกียรติสุดตระการตา โซนนิทรรศการ “เย็นศิระเพราะพระบริบาล” นำเสนอพระราชประวัติและพระราชกรณียกิจ ในหลวง ร.10 โซนทันโลกนวัตกรรม ยางพารา 4.0 มีการจัดแสดงนิทรรศการ “ยางสร้างสุข” และนวัตกรรมยางพาราจากหน่วยงานระดับประเทศ

โซนบึงกาฬเทิดพระเกียรติ – สวนประดับไฟเฉลิมพระเกียรติ
กิจกรรมแข่งขันกรีดยาง

นอกจากนี้ยังมีโซนบึงกาฬเมืองก้าวหน้า ที่มีกิจกรรมให้ชาวบึงกาฬได้ร่วมแสดงความคิดเห็น และร่วมถ่ายภาพกับแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ, โซนอบรมอาชีพ นำเสนอการฝึกอบรมการทำอาหารจานเด็ดกว่า 12 หลักสูตร โดยเชฟดัง โซนยนตรกรรมและ นวัตกรรมนานาชาติ ในแต่ละโซนยังประกอบไปด้วยกิจกรรมต่างๆ ที่น่าสนใจอีกมากมาย

ที่สำคัญยังได้เปิดโซนลานเด็กเล่น @บึงกาฬ โซนใหม่เอาใจเยาวชนคนบึงกาฬโดยเฉพาะยังมีการแข่งขันกรีดยางพาราชิงแชมป์ประเทศไทยที่หลายคนรอคอย ปีนี้เพิ่มความพิเศษนั้นก็คือเป็นปีแรกที่มีการแข่งขันการกรีดยางด้วยนวัตกรรมมีดกรีดยางนกเงือกชิงเงินรางวัลด้วย

นี่เป็นเพียงกิจกรรมส่วนหนึ่ง
ที่จะเกิดขึ้นตลอด 7 วันเต็มใน
“งานวันยางพาราและกาชาดบึงกาฬ 2561”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image