เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 14 มีนาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศาล จ.กันทรลักษ์ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ นายบุญเลิศ อุ่นอ่อน อายุ 63 ปี และนางแหลม อุ่นอ่อน อายุ 61 ปี พ่อและแม่ของ น.ส.จุฑาภรณ์ อุ่นอ่อน หรือ ผอ.อ้อย อายุ 37 ปี อดีต ผอ.กองการศึกษา อบต.ชำ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ พร้อมด้วย ญาติพี่น้องได้พากันเดินทางมาเพื่อที่จะเข้ารับฟังการอ่านคำพิพากษาคดีเลขดำที่ 81/61 ซึ่งพนักงานอัยการกันทรลักษ์ เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง ร.อ.ศุภชัย ภาโส หรือผู้กองเหน่ง อดีตนายทหาร ซึ่งเคยปฏิบัติหน้าที่อยู่บริเวณเขาพระวิหาร ในฐานความผิดต่อชีวิต เนื่องจากตกเป็นผู้ต้องหาคดีฆ่าโหด น.ส.จุฑาภรณ์ หรือ ผอ.อ้อย
อ่านข่าวเพิ่มเติม
พ่อ ‘ผอ.อ้อย’ ตั้งรางวัล 1 แสน ผู้แจ้งเบาะแส ค้นต่อจุดคนเห็นชายลายพรางเปื้อนเลือดออกจากป่า (คลิป)
พ่อผอ.อ้อย เครียดเฝ้าติดตามค้นหา ชิ้นส่วนร่างลูกสาว ความดันพุ่ง 170 ล้มฟุบคาบ้านพัก
ผู้กองเหน่งย่องเข้าพบพนักงานสอบสวนรับทราบข้อหาเพิ่ม พ่อ-แม่ ผอ.อ้อย ยื่นเรื่องค้านการประกันตัว
ส่งฟ้องแล้ว ‘ผู้กองเหน่ง’ ฆ่าผอ.อ้อย พ่วงกว่า 10 ข้อหา ศาลนัดสอบ 4 จำเลย 8 ม.ค.นี้
โดยพ่อแม่และญาติพี่น้อง ได้พากันถือรูปภาพของ ผอ.อ้อย มาด้วย ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และหน่วยปฏิบัติการพิเศษ รวมทั้งชุดสืบสวน กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธร จ.ศรีสะเกษ รวมจำนวนประมาณ 100 นาย ได้มารักษาความสงบเรียบร้อยรอบบริเวณศาลอย่างเต็มที่ ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่เรือนจำกันทรลักษ์ ได้นำตัวผู้กองเหน่งมาที่บริเวณด้านหลังศาล ซึ่งเป็นที่คุมขังผู้ต้องหา ซึ่งผู้กองเหน่งได้ถูกควบคุมตัวไปที่ห้องควบคุมตัวอย่างรวดเร็ว โดยมีเจ้าหน้าที่คอยรักษาความสงบเรียบร้อยอย่างเต็มที่
นายบุญเลิศ อุ่นอ่อน พ่อของ ผอ.อ้อย กล่าวว่า ตนต่อสู้เรียกร้องความเป็นธรรมให้กับวิญญาณของลูกสาวอย่างเต็มที่ ส่วนผลจะออกมาอย่างไรนั้น ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของศาลสถิตยุติธรรม แต่ตนเชื่อว่าจะต้องได้รับความเป็นธรรมจากคดีนี้ ตนต้องการให้ประหารชีวิตผู้กองเหน่ง จึงจะสาสมกับความผิดที่ทำกับลูกสาวของตนอย่างเหี้ยมโหดแบบนี้
ทางด้าน นางแหลม อุ่นอ่อน แม่ของ ผอ.อ้อย กล่าวว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา ตนนอนไม่หลับทั้งคืน กระวนกระวายใจ อยากให้ถึงรุ่งเช้าเร็วๆ เพื่อจะได้เดินทางไปฟังคำพิพากษาคดีลูกสาวของตนที่ถูกฆ่าอย่างโหดเหี้ยมทารุณ ตนคิดว่าความผิดของผู้กองเหน่งที่ทำกับลูกสาวของตนครั้งนี้ ไม่มีอะไรที่จะเหมาะสมไปกว่าการถูกประหารชีวิตเพียงสถานเดียวเท่านั้น แต่หากว่ายังไม่ได้รับความเป็นธรรมจนเป็นที่พอใจของตนและครอบครัว ญาติพี่น้อง ตนก็จะอุทธรณ์ต่อสู้คดีจนถึงที่สุด เพื่อให้ได้รับความเป็นธรรมกับคดีนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ขณะเดียวกัน ทางฝ่ายผู้กองเหน่งได้มีพ่อและแม่ รวมทั้งภรรยา เดินทางมาร่วมรับฟังคำพิพากษาในครั้งนี้ด้วย ซึ่งทุกคนมีสีหน้าเคร่งเครียด ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน และพากันเดินไปยังห้องพิจารณาคดีบัลลังก์ 4 อย่างรวดเร็ว
ทั้งนี้ คดีดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อปี 2560 โดย ผอ.อ้อย หรือ น.ส.จุฑาภรณ์ อายุ 37 ปี ผู้อำนวยการกองการศึกษา อบต.ชำ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ได้หายตัวไปตั้งแต่วันที่ 3 ส.ค.60 กระทั่งไปพบโครงกระดูก เสื้อผ้า และนาฬิกาของ ผอ.อ้อย ถูกทิ้งอยู่ห่างจากฐานปฏิบัติการอนุพงศ์ กองร้อยทหารพรานที่ 2305 อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ต่อมาเมื่อเดือน ต.ค.60 ตำรวจสามารถจับกุมตัว ร.อ.ศุภชัย ได้ พร้อมแจ้ง 3 ข้อหาหนัก คือ 1.ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา 2.หน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่น เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย 3.ซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพ
อย่างไรก็ตาม รายงานข่าวแจ้งว่า ผู้พิพากษามีคำสั่งให้ประหารชีวิต ร.อ.ศุภชัย ภาโส หรือผู้กองเหน่ง เนื่องจากมีพยานหลักฐานแน่นหนาว่าเป็นผู้สังหาร ผอ.อ้อยแล้วนำศพไปทิ้งในป่า
