ปธ.กรรมการโรงแรมดังเกาะช้าง แจงต้นเหตุหนุ่มมะกันรีวิวเสียหาย เผยพยายามติดต่อทุกทาง แต่ไม่สำเร็จ จึงดำเนินคดี

สืบเนื่องจากกรณี แชนแนลนิวส์เอเชีย รายงานเมื่อวันที่ 26 กันยายนที่ผ่านมาว่า นายเวสลีย์ บาร์นส์ นักท่องเที่ยวชาวอเมริกัน ถูกรีสอร์ตดังบนเกาะช้างฟ้องหมิ่นประมาทหลัง หลังโพสต์รีวิววิจารณ์รีสอร์ตผ่านเว็บไซต์ Tripadvisor และ Google ในแง่ลบ จนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมต้องนอนคุกในช่วงสุดสัปดาห์ โดยหากมีการตัดสินว่ากระทำความผิดจริงอาจต้องโดนโทษจำคุกสูงสุดถึง 2 ปี

ทั้งนี้ นายบาร์นส์เขียนรีวิวทั้งใน TripAdvisor และ Google โดยให้คะแนนรีสอร์ตน้อยที่สุดเท่าที่จะน้อยได้ พร้อมวิพากษ์วิจารณ์การบริหารจัดการ โดยโพสต์หนึ่งนายบาร์นส์เขียนว่า “หลีกเลี่ยงสถานที่แห่งนี้ให้เหมือนกับว่ามันเป็นโคโรนาไวรัส!”

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : หนุ่มมะกัน โดนรีสอร์ตดังฟ้องหมิ่นประมาท โดนจับนอนคุก หลังรีวิวด่าเสียหาย

ล่าสุด เมื่อวันที่ 30 กันยายน ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดตราด ได้ติดต่อไปยังประธานกรรมการโรงแรมดังเกาะช้างที่เป็นข่าว เพื่อสอบถามเรื่องนี้ เจ้าตัวกล่าวว่า นักท่องเที่ยวชาวอเมริกันรายนี้ พร้อมเพื่อนได้เข้ามาพักในโรงแรมวันที่ 27 มิถุนายน 2563 เป็นเวลา 1 คืน และได้เข้ามาใช้บริการในร้านอาหาร พร้อมนำสุราจากภายนอกมาด้วย พนักงานได้แจ้งว่า หากลูกค้านำสุราเข้ามา จะต้องจ่ายค่าเปิดขวด 500 บาท ซึ่งเป็นระเบียบที่ปฏิบัติกันทั่วไป หรือทั่วโลก ทำให้ลูกค้าไม่เข้าใจและโต้เถียงกัน ซึ่งผู้จัดการได้ออกมาเจรจาและสุดท้ายยินยอมให้ลูกค้าไม่ต้องจ่าย เพื่อยุติความขัดแย้งเพราะขณะนั้นมีลูกค้ามาใช้บริการจำนวนมาก

Advertisement

ประธานกรรมการโรงแรมดังเกาะช้างกล่าวอีกว่า จากนั้นนักท่องเที่ยวชาวอเมริกันรายนี้ได้ไปโพสต์ข้อความลงในสื่อออนไลน์ เช่น เว็บไซต์ ทริปแอดไวเซอร์ ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ซึ่งเป็นข้อความที่ได้รับความเสียหายกับโรงแรมมาก จึงได้มอบอำนาจให้ไปแจ้งความดำเนินคดีหมิ่นประมาท ส่วนเรื่องคดีความนั้นไม่ได้เกี่ยวข้อง เพราะเป็นอำนาจของผู้บริหารของทางบริษัทที่เป็นผู้รับผิดชอบ

ขณะเดียวกัน หลังเกิดปัญหา ทางโรงแรมได้ทำเอกสารชี้แจงข้อเท็จจริง โดยได้ติดต่อเจรจาไกล่เกลี่ยและให้หยุดรีวิวเท่านั้น แต่เนื่องจากไม่สามารถเจรจากับนักท่องเที่ยวรายนี้ ซึ่งไม่ยอมจะเจรจากับทางโรงแรม จึงจำเป็นต้องดำเนินการแจ้งความเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย และได้มีการจับกุมดำเนินคดีไปแล้ว

อย่างไรก็ตาม ลูกค้าท่านนี้ได้ทำการสร้างข้อความรีวิวสู่สาธารณะ ซึ่งเป็นข้อความที่สร้างความเสียหายแก่โรงแรมทั้งในเว็บไซต์ Tripadvisor และ Google ตั้งแต่ 29 มิถุนายน 2563 จนถึงปัจจุบัน จำนวนไม่น้อยกว่า 4 ครั้ง ด้วยบัญชีผู้ใช้ที่สร้างขึ้นใหม่ทุกครั้ง หลังจากถูกลบโดยผู้ดูแลระบบ มีการสร้างความข้อความรีวิวติดต่อกันทุก 1-2 สัปดาห์ และมีแนวโน้มกระทำต่อเนื่องต่อไป อันเป็นการแสดงเจตนาสร้างความเสียหายต่อโรงแรมอย่างชัดเจน

Advertisement

ต่อมา เนื้อหาของข้อความรีวิวมีการดูหมิ่นด้านสัญชาติและพฤติกรรมของพนักงานของโรงแรม โดยตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายอาหารและเครื่องดื่ม มีการกล่าวถึงการใช้ทาส เหยียดเชื้อชาติของว่าเป็นบุคคลสัญญาติเช็กและกล่าวถึงไวรัสโคโรนา ซึ่งสถานการณ์ปัจจุบันสามารถจะทำให้ผู้อ่านสับสนได้ นอกจากนี้ โรงแรมได้พยายามติดต่อลูกค้าหลายครั้งในหลากหลายช่องทางเพื่อเจรจาขอให้ยุติการกระทำดังกล่าว ทั้งทางอีเมล์ โทรศัพท์ และผ่านเว็บไซด์รีวิว แต่ลูกค้าปฏิเสธที่จะพูดคุย และยังคงสร้างข้อความรีวิวอย่างต่อเนื่อง

หลังจากรีวิวดังกล่าวถูกตีพิมพ์สู่สาธารณะ โรงแรมได้รับการสอบถามและตำหนิเกี่ยวกับการปฏิบัติต่พนักงานและการปฏิเสธที่จะเข้าพัก ทางโรงแรมจึงจำเป็นต้องแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมายต่อลูกค้าท่านนี้ เพื่อปกป้องธุรกิจ และสวัดิภาพของพนักงานที่ถูกกล่าวถึงในแง่ร้ายในข้อความรีวิวสาธารณะเหล่านั้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อได้รับการแจ้งความและมีมูลคดีอันน่าเชื่อถือได้ว่ามีการกระทำความผิดเกิดขึ้นจริง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป เจ้าหน้าที่ตำรวจอาจจะเชิญผู้กระทำผิดมาเจรจากับโรงแรมก็ยินดี สำหรับทางโรงแรมต้องใช้สิทธิอันเกิดจากการละเมิดหรือทำให้โรงแรมได้รับความเสียหายให้ถึงที่สุด โดยปัจจุบันยังไม่มีการเจรจากับลูกค้าเกิดขึ้น ในเวลาต่อมาหลังจากที่ลูกค้าท่านนี้ถูกตำรวจควบคุมตัวแล้วได้มีบุคคลติดต่อมายังโรงแรมในลักษณะข่มขู่ โดยแจ้งว่าจะให้อดีตผู้สื่อข่าวรอยเตอร์ประจำประเทศไทยท่านหนึ่ง และนักข่าวนำเสนอข่าวนี้ให้กระจายไปทั่วโลก

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image