เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 5 กุมภาพันธ์ ที่โรงพยาบาลสวนสัตว์นครราชสีมา นายณรงวิทย์ ชดช้อย รักษาการผู้อำนวยการสวนสัตว์นครราชสีมา พร้อมเจ้าหน้าที่ส่วนงานที่เกี่ยวข้อง ได้เฝ้าสังเกตติดตามการพัฒนาการของไข่พญาแร้งของแม่นุ้ย พญาแร้ง ภายในตู้อบอัตโนมัติ เพื่อเพิ่มโอกาสรอดของลูกนกและกระตุ้นให้แม่นกได้วางไข่ใบที่ 2 ตามกระบวนการเพาะพันธุ์นกนักล่าในสภาพการเพาะเลี้ยงเพิ่มจำนวนไข่ต่อฤดูกาล โดยเมื่อวันที่ 30 มกราคมที่ผ่านมา ถือเป็นครั้งแรกของเอเชียและเป็นเวลากว่า 25 ปี ที่พญาแร้งได้วางไข่ 1 ฟอง ให้เป็นของขวัญคนไทยทั้งประเทศ
นายณรงวิทย์เปิดเผยว่า สวนสัตว์ได้เลี้ยงพญาแร้งรวม 4 ตัว ได้แก่ ป๊อกกี้ เพศผู้อายุ 19 ปี แจ็ค เพศผู้ 21 ปี ตาล เพศผู้ 12 ปี และนุ้ย เพศเมีย 10 ปี เริ่มเพาะเลี้ยงขยายพันธุ์ตั้งแต่ปี 2535 ถึงปัจจุบัน
นายณรงวิทย์กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ทีมทำงานโครงการ “การฟื้นฟูประชากรพญาแร้งในถิ่นอาศัยของประเทศไทย” รอลุ้นกันมาตลอดทั้งปีว่าพญาแร้งในกรงเลี้ยงจะวางไข่หรือไม่ ทั้งนี้ ไข่ฟองนี้เกิดจากพ่อพญาแร้ง ชื่อตาล และแม่พญาแร้ง ชื่อนุ้ย จับคู่กันมาแต่ยังไม่เคยวางไข่สำเร็จ ทีมเพาะเลี้ยงจึงได้พัฒนาและปรับปรุงกระบวนการเลี้ยงเกือบทั้งระบบและดูแลของทีมเพาะเลี้ยงอย่างใกล้ชิด
“ธรรมชาติของพญาแร้งจะวางไข่ 2 ปี เพียง 1 ฟองเท่านั้น แต่ในการเพาะพันธุ์อาจวางไข่ได้ทุกปี ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย อาทิ วัยและอาหารที่อุดมสมบูรณ์ หากโชคดี แม่นุ้ยพญาแร้งวางไข่ใบที่สอง จะให้แม่นุ้ยได้ฟักไข่เอง โปรดรอฟังความคืบหน้าอีกครั้งใน 2-3 สัปดาห์ต่อจากนี้” นายณรงวิทย์กล่าว
สำหรับ “พญาแร้ง” เป็นสัตว์ป่าคุ้มครองอีกหนึ่งชนิดที่สูญพันธุ์จากธรรมชาติของประเทศไทยกว่า 30 ปี โดยหลงเหลืออยู่ในการเพาะเลี้ยงของประเทศไทยเพียง 5 ตัวเท่านั้น ซึ่งโครงการภายใต้ความร่วมมือของ 4 องค์กรหลัก ได้แก่ องค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มูลนิธิสืบนาคะเสถียร และหน่วยงานพันธมิตรที่มีเป้าหมายอนุรักษ์พญาแร้งนอกถิ่นอาศัยให้มีประชากรที่เพียงพอต่อการปล่อยสู่ธรรมชาติ เพื่ออนุรักษ์พญาแร้งในถิ่นอาศัยในผืนป่ามรดกโลกทางธรรมชาติทุ่งใหญ่-ห้วยขาแข้ง ต่อไปในอนาคต
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : สกู๊ปพิเศษ : มั่นและมิ่ง อนาคตพญาแร้ง ฟื้นคืนป่าเมืองไทย
