ขโมยมือดีฉก พระศรีอริยเมตไตย องค์เล็ก ของวัดไลย์ ปาฏิหาริย์ เอามาวางไว้ที่ศาลาพักผู้โดยสาร ที่ตำบลบ้านชี ตำรวจเชื่อว่าปาฏิหาริย์ไปไม่รอด หรือกดดัน จากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ผู้สั่ง ไม่ยอมรับ เพราะกลัวความผิด จึงนำมาทิ้งคืนวัด
จากกรณี คนร้ายได้ย่องขึ้นไปบนพิพิธภัณฑ์วัดไลย์ฉกเอาพระศรีอารย์องค์เล็กไปอย่างไร้ร่องรอยเมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2564 เครื่องสร้างความปวดหัวให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และการควานหาตัวคนร้ายมือดี ที่ฉกเอาไป คาดว่าจะได้ราคาดีเพราะเป็นพระเก่าแก่อายุ 500 กว่าปี
ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2564 เมื่อเวลา 06.00 น. นายสมศักดิ์ ปาลวัฒน์ และนายมณฑล มีลาภ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านชี ได้รับแจ้งจาก น.ส.วัลญา กลิ่นหอม อายุ 38 ปี ประชาชนบ้านเรือท่าข้ามหมู่ 3 อำเภอบ้านหมี่ จังหวัดลพบุรี ว่าได้พบพระพุทธรูป คาดว่าน่าจะเป็นพระพุทธรูปวัดไลย์ อำเภอท่าวุ้ง จังหวัดลพบุรี ที่หายไป ซึ่งนางสาววัลญาก็ได้รับแจ้งจากพระสงฆ์วัดปากบางแสวงธรรม ตำบลบางขาม อำเภอบ้านหมี่ จังหวัดลพบุรี ห่างจากวัดไลย์ซึ่งเป็นวัดที่พระองค์นี้มาทิ้งไว้ประมาณ 1 กิโลเมตร ซึ่งกำลังบิณฑบาตเรียกไปดู
จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจภูธร ตำบลท่าโขลง อำเภอท่าวุ้ง จังหวัดลพบุรี ร.ต.อ.รินทร์ศักดิ์ ตระกูลธง ร้อยเวร สภ.ตำบลท่าโขลง, พันตำรวจโท ฉันท วิชัยปะ สารวัตรหัวหน้าสถานีตำรวจ ตำบลท่าโขลง, พันตำรวจเอก ธิติพงษ์ ภิวัฒน์กุล รองผู้บังคับการตำรวจ ภูธรจังหวัดลพบุรี รุดไปยังที่เกิดเหตุ และได้นำพระพุทธรูปมาเก็บเอาไว้ยังสถานีตำรวจภูธรตำบลท่าโขลง เพื่อรอเจ้าหน้าที่ ผู้ที่เกี่ยวข้อง กับพระพุทธรูปมาสำรวจ ว่าเป็นองค์เดียวกันหรือไม่
พันตำรวจโท นันท วิชัยปะ หัวหน้าโรงพักตำรวจภูธรตำบลท่าโขลง กล่าวว่า นับว่าเป็นความโชคดีของวัดไลย์ จะได้พระพุทธรูปคืนมาโดยเร็ว โดยเฉพาะวันนี้ ชาวบ้านที่ทราบข่าวต่างก็แสดงความยินดี ดีใจ หลังจากทราบเรื่อง คนร้ายได้นำพระพุทธรูปมาวางไว้ ขอบคุณที่เจ้าหน้าที่ตำรวจที่กดดันจนคนร้ายได้นำเอามาคืนโดยเร็ว
หัวหน้าสถานีตำรวจภูธรตำบลท่าโขลงกล่าวอีกว่า คดีนี้ท่านผู้บังคับบัญชาไม่ได้นิ่งนอนใจโดยเฉพาะท่านพลตำรวจโท อำพล บัวรับพร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1, พลตำรวจตรี พัลภ แอร่มล่า ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดลพบุรี, พันตำรวจเอก อุกฤษ ผู้กลั่น รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดลพบุรี ได้กำชับให้ตำรวจทุกท้องที่ พยายามติดตามจับกุมคนร้ายในครั้งนี้ หลังจากได้มีการประกาศและสืบสวนไปทั่วประเทศ คนร้ายหรือผู้ซื้ออาจจะไม่กล้าจะรับซื้อเพราะกลัวโดนความผิด จึงได้นำของกลางมาคืนโดยทิ้งไว้ที่ศาลาพักผู้โดยสารข้างทางก็เป็นได้ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะได้เก็บหลักฐานนี้ไว้ให้ทางวัด และทางกรมศิลป์มาพิสูจน์หลักฐานก่อนว่าใช่องค์เดียวกันหรือไม่ จากนั้นก็จะได้ทำการคืนกลับทางวัดไป
