เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม นายมนัสชัย แซ่ลี อายุ 61 ปี พ่อตานายวีรวัฒน์ การุญบริรักษ์ แรงงานไทยชาวเข็กน้อย อ เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ เหยื่อระเบิดจากแคมป์คนงานใกล้ฉนวนกาซา ประเทศอิสราเอล ที่ถูกโจมตีจนประสบเหตุเสียชีวิต กล่าวว่า ได้รับแจ้งจากกระทรวงแรงงานว่าศพของลูกเขยถูกนำขึ้นเครื่องที่ประเทศอิสราเอลเมื่อเวลาราว 21.00 น.ของคืนที่ผ่านมาตามเวลาในบ้านเราแล้ว โดยศพมามาถึงสนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทยราว 12.00 น. จากนั้นจะถูกส่งมาที่บ้านเข็กน้อย ต.เข็กน้อย อ.เขาค้อ ซึ่งทางครอบครัวขณะนี้รอรับศพอยู่ จากนั้นจะจัดทำพิธีตามประเพณีของชนเผ่าม้ง 4 วัน โดย 3 วันแรกจะทำพิธีส่งวิญญาณ หลังจากนั้นในวันที่ 30 พฤษภาคม จะทำพิธีฝังตามประเพณี
อ่านข่าว : สถานทูตส่งศพ 2 แรงงานไทยในอิสราเอลกลับบ้าน ถึงกรุงเทพ 12.30 น. วันนี้
นายมนัสชัยกล่าวว่า ตอนนี้ทุกคนยังทำใจไม่ได้ โดยเฉพาะลูกสาว ซึ่งเป็นภรรยานายวีรวัฒน์ และหลานสาว ก็ยังเศร้าเสียใจและสับสน ไม่รู้ว่าจะก้าวผ่านชีวิตหลังจากนี้ไปได้อย่างไร ต้องรอให้งานศพของลูกเขยผ่านพ้นเรียบร้อยเสียก่อน ทางครอบครัวจึงค่อยๆ มาปรึกษาหารือกัน อย่างไรก็ตาม ขอขอบคุณทุกหน่วยงานที่ห่วงใยและให้ความช่วยเหลือ จนสามารถนำศพของลูกเขยกลับมาบ้าน เพื่อให้ครอบครัวส่งวิญญาณไปสู่สุขคติได้ ด้วยสิ่งนี้เป็นการช่วยปลอบประโลมครอบครัวของลูกสาวได้พอสมควร
นายมนัสชัยกล่าวอีกว่า ก่อนลูกเขยจะประสบเหตุเสียชีวิตได้โทรศัพท์พูดคุยกันตลอด เขาเขยบ่นว่าเบื่อที่ต้องหลบเข้าที่หลบภัยเพราะสัญญาณเตือนภัยดังขึ้นบ่อยมาก อยากจะกลับบ้านเพราะครบสัญญา 3 ปีในการทำงานที่อิสราเอลเดือนกรกฎาคมที่จะถึงนี้ ตั้งใจจะกลับมาหาครอบครัวที่ประเทศไทยในเดือนตุลาคมนี้ และอยู่ะหว่างการยื่นเรื่องอยู่ หากกลับมาแล้วค่อยมาหารือกันใหม่ว่าจะกลับไปอีกดีหรือไม่ เพราะสามารถต่อสัญญาไปทำงานได้อีก 2 ปี แต่ก็ต้องมาประสบเหตุที่ไม่มีใครคาดคิดจะเกิดขึ้นเสียก่อน ส่วนสิทธิประโยชน์ต่างๆ ที่ผู้ตายจะได้รับจากทางอิสราเอล ตอนนี้ยังไม่ทราบชัดเจน อยู่ระหว่างกระทรวงแรงงานช่วยติดตามและประสานให้
“ตอนนี้ยังมีหลานชายอีก 3 คนที่ยังทำงานอยู่ที่ประเทศอิสราเอล แต่อยู่คนละภาคกับอา (นายวีวัฒน์) แต่ทุกคนยังตั้งหลักไม่ได้ ผมได้แต่แจ้งข่าวการเสียชีวิตอาของเขาเท่านั้น และยังบอกด้วยว่าหากกลับได้ก็อยากให้กลับ หากประเทศเขาหตุการณ์สงบค่อยกลับใหม่ และยังกำชับขอให้หลานๆ ดูแลตัวเองให้ดี ขณะเดียวกันก็ยังมีชาวม้งที่เข็กน้อยอีกราว 30-40 คนที่ยังทำงานอยู่ที่ประเทศอิสราเอล รู้สึกห่วงใยเช่นเดียวกัน” นายมนัสชัยกล่าว
