‘ดร.พ่อบุญธรรม’ โวยสื่อเบี่ยงประเด็น โต้ปมเลี้ยงต้อย ไม่จริง ขอให้โฟกัสเรื่องหนี้สิน

จากกรณี ดร.ณัฐพงศ์ หรือพัทธนันท์ พุดหล้า อาจารย์ประจำหลักสูตรสาธารณสุขศาสตร์มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นพ่อบุญธรรมของ ทาเคชิ หรือชื่อเดิม นายชนะศักดิ์พงศ์ พุดหล้า ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น นายชนะศักดิ์ สุทธะพินทุ ดารานักแสดงและพิธีกรชื่อดังทางช่อง 7 สี เรื่อง สารวัตรแม่ลูกอ่อน และพิธีกรรายการ “ตรอกข่าวสาร” ทางทีวีพูล ออกมาเปิดเผยเรื่องราวความขัดแย้งภายในครอบครัว ถึงขั้นตัดความสัมพันธ์ความเป็นพ่อลูกบุญธรรม รวมถึงการเซ็นหย่าร้างกับภรรยา โดยยังมีภาระหนี้สินที่ถูกทิ้งไว้ให้ต้องแบกรับเพียงลำพัง

ต่อมา เพจสื่อโซเชียลรายหนึ่ง โพสต์ภาพพร้อมข้อความว่า “ดาราหนุ่ม-พ่อบุญธรรม ลั่นไม่ได้เลี้ยงต้อย คำต่อคำ! ดาราหนุ่ม-พ่อบุญธรรม ลั่นไม่ได้เลี้ยงต้อย ข้างนอกมีผู้ชายเยอะแยะ ไม่เอาคนในบ้าน” ซึ่งหลังเผยแพร่ออกไป ทำให้โลกโซเชียลเข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่พุ่งประเด็นไปในทางลบ เข้าใจว่า ดร.พ่อบุญธรรม มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในเชิงเลี้ยงเด็กหนุ่ม ซึ่งหากเป็นข้อเท็จจริงจะถือว่าเป็นเรื่องเสื่อมเสียอย่างยิ่งในฐานะเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย

ล่าสุด วันนี้ (16 มิถุนายน) ดร.ณัฐพงศ์ชี้แจงข้อเท็จจริงว่า การตัดต่อคลิปเสียงของสื่อดังกล่าวทำให้ตนเองได้รับความเสียหายอย่างมาก เนื่องจากผิดเพี้ยนไปจากข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น และเป็นการเบี่ยงเบนประเด็นจนทำให้ผิดวัตถุประสงค์จริงที่ต้องการออกมาเรียกร้องผ่านสื่อ เพราะทุกคำพูดที่ให้สัมภาษณ์ไปเป็นการยกตัวอย่างเปรียบเปรยกรณีที่มีหลายคนเข้าใจผิดคิดว่าตนประสงค์จะเลี้ยงต้อยลูกบุญธรรมเท่านั้น และความจริงตนไม่เคยมีพฤติกรรมแบบนั้น ไม่เคยมีอะไรกับคนที่อยู่ในความดูแล และไม่เคยมีพฤติกรรมอยากกิน หรืออยากมีอะไรกับเด็กนิสิต-นักศึกษา เพราะตนเป็นผู้ชายคนหนึ่งที่เคยแต่งงาน มีภรรยา ไม่เคยมีรสนิยมแบบนั้น จึงอยากวิงวอนให้สื่อทั้งหลาย รวมถึงเกรียนคีย์บอร์ดได้เข้าใจเสียใหม่ว่าตนไม่ได้มีพฤติกรรมหรือรสนิยมไปในทางที่หลายคนกำลังกล่าวถึง กล่าวหา หรือแม้แต่พิพากษาตนไปแล้ว

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

Advertisement

Advertisement

ดร.ณัฐพงศ์กล่าวว่า ประเด็นที่ตนออกมาเรียกร้องคือต้องการให้คนที่ตนเคยเลี้ยงดูมาเข้ามาพูดคุย ช่วยกันแก้ไขปัญหาภาระหนี้สินที่เกิดขึ้นร่วมกันทั้งหมด เพราะตอนนี้ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก ต้องแบกรับปัญหาอยู่เพียงลำพัง จึงขอวิงวอนไปถึงนักเลงคีย์บอร์ด รวมถึงชาวโซเชียลทั้งหลายได้เข้าใจให้ถูกต้อง และขอพื้นที่ส่วนตัว อย่าก้าวล่วงจนทำให้เกิดความเสียหายขึ้น จนถึงขั้นต้องแจ้งดำเนินคดี พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ เนื่องจากวัตถุประสงค์จริงไม่ได้ต้องการจะขอคืนดีกับอดีตภรรยา หรือขอคืนดีกับอดีตลูกบุญธรรม เพราะได้ตัดสินใจขออยู่ตัวคนเดียว ใช้ชีวิตอยู่กับมารดาและญาติพี่น้องของตนก็เพียงพอแล้ว ไม่ได้ต้องการจะยื้อเรียกร้องให้อดีตภรรยาและลูกบุญธรรมกลับมา มีเพียงประเด็นเดียวเท่านั้นคือ ต้องการให้อดีตภรรยาและลูกบุญธรรมได้หันกลับมามองดูปัญหาที่เกิดขึ้นกับตนว่ามีปัญหาหนี้สินมากน้อยแค่ไหน เพื่อจะได้ช่วยกันแบ่งเบาภาระบ้าง

ดร.ณัฐพงศ์กล่าวอีกว่า หนี้สินที่มีอยู่ตอนนี้จะเป็นหนี้ที่เกิดขึ้นในช่วงส่งเสียลูกบุญธรรมให้เล่าเรียนหนังสือทั้งที่จังหวัดมหาสารคามและที่กรุงเทพมหานคร จึงขอให้โฟกัสไปที่ประเด็นนี้เท่านั้น ไม่ต้องการให้โยงผิดเพี้ยนไปจากประเด็นที่แท้จริง ตนต้องการอยู่อย่างสงบ ส่วนเหตุผลที่ต้องออกมาร้องผ่านสื่อ เพราะเคยติดต่อเพื่อจะเจรจาพูดคุยเรื่องหนี้สินกันแล้ว แต่ไม่เป็นผล ไม่มีการสื่อสารโต้ตอบกลับมาจากอีกฝ่าย จึงยังเป็นภาระคาราคาซังอยู่แบบนี้

“การออกมาชี้แจงในครั้งนี้เป็นการแก้ข่าว ไม่ใช่การแก้ตัว เพราะการถูกบูลลี่จากคนอื่นโดยไม่ใช่เรื่องจริง ถ้าไม่เจอกับตัวเอง ย่อมจะไม่รู้ว่ารู้สึกอย่างไร จึงขอวอนไปถึงชาวโซเชียลได้เข้าใจข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นด้วย ขอให้ตระหนักและอย่าออกมาวิจารณ์โดยที่ไม่รู้ความจริง จนทำให้คนอื่นเกิดความเสื่อมเสียไปด้วย

“ที่สำคัญ ขอวิงวอนไปถึงสื่อทั้งหลาย ขอให้นำเสนอข่าวอย่างตรงไปตรงมา อย่าเบี่ยงประเด็นเพื่อสร้างกระแสจนเกิดความเสียหายเกิดกับผมโดยตรง เพราะผมต้องการขอความช่วยเหลือจากสื่อ ได้ช่วยเป็นกระบอกเสียงสื่อสารไปถึงอดีตภรรยาและลูกบุญธรรมให้เข้ามาเหลียวแล แบ่งเบาภาระหนี้สินบ้างเท่านั้น” ดร.ณัฐพงศ์กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image