คาด 7 วันมวลน้ำก้อนใหญ่ ถึงยโสธร ผู้ว่าฯ สั่งทุกหน่วยเตรียมรับมือ
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 5 ตุลาคม ที่ห้องประชุมหมอนขิด ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดยโสธร นายชลธี ยังตรง ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร เป็นประธานประชุมศูนย์บัญชาการเหตุการณ์อุทกภัยจังหวัดยโสธร การเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำในลำน้ำชีล้นตลิ่ง โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม
เบื้องต้นสนง.ปภ.ยโสธร ได้รายงานสถานการณ์น้ำจากอิทธิพลของพายุโซนร้อน เตี้ยนหมู่ ซึ่งทำให้พื้นที่การเกษตรในเขตพื้นที่อำเภอไทยเจริญ ป่าติ้ว ได้รับความเสียหาย และการขอรับการสนับสนุนเครื่องสูบน้ำ อุปกรณ์ เครื่องมือ ยานพาหนะ จากศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 13 อุบลราชธานี เพื่อพร้อมให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ประสบภัย
ส่วนการเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์น้ำชีล้นตลิ่งของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น โครงการประทานยโสธรโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาชีล่างและลำเซบายล่าง ติดตามสถานการณ์น้ำในลำน้ำชี ซึ่งจะมีมวลน้ำจากจังหวัดขอนแก่น ไหลลงมาถึงจังหวัดยโสธร ในอีกประมาณ 1 สัปดาห์ และคาดว่าลำน้ำชีจะสามารถรองรับมวลน้ำได้ เนื่องจากได้เร่งการระบายน้ำลงสู่ลำน้ำมูล ขณะเดียวกันจังหวัดอุบลราชธานี ได้เร่งระบายน้ำในลำน้ำมูลลงสู่แม่น้ำโขงอย่างต่อเนื่อง โดยน้ำในลำน้ำชีอาจจะส่งผลกระทบต่อเขตพื้นที่ริมตลิ่ง
ด้านหน่วยงานต่างๆได้เตรียมความพร้อมทั้งกำลังคนปฏิบัติงาน อุปกรณ์ เครื่องมือ ยานพาหนะ เครื่องสูบน้ำ เรือท้องแบน จุดรองรับผู้อพยพ การติดต่อสื่อสาร แผนการปฏิบัติงานร่วมกับหน่วยงานอื่น เพื่อรับสถานการณ์น้ำชีล้นตลิ่งและสามารถให้การช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบอุทกภัยได้อย่างทันที โดยเฉพาะใน 4 อำเภอพื้นที่เสี่ยงน้ำชีล้นตลิ่ง เช่นอำเภอเมืองยโสธร คำเขื่อนแก้ว มหาชนะชัยและค้อวัง
ทั้งนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร ได้เน้นย้ำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้นำไปปฏิบัติเช่น การแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงให้รับทราบสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง การประสานการปฏิบัติงานกับหน่วยงานอื่นเมื่อเกิดสถานการณ์อุทกภัยทั้งการร่วมบูรณาการเครื่องมือ ยานพาหนะ การช่วยเหลือผู้ประสบภัย การสำรวจความเสียหาย การช่วยเหลือเยียวยาหลังอุทกภัยและการสื่อสารกับประชาชนทั้งก่อนเกิดอุกทกภัย ในขณะเกิดอุทกภัยและภายหลังการเกิดอุทกภัย เพื่อสร้างคามเข้าใจที่ถูกต้องแก่ประชาชน โดยยึดหลักหน่วยงานราชการต้องแจ้งข่าวสารให้ประชาชนทราบเป็นอันดับแรก โดยการใช้สื่อประชาสัมพันธ์ที่หลากหลายและเข้าถึงประชาชนในพื้นที่
