ทหารเก๊เทงานแต่ง โดนแฉอีก เคยขอสาวแต่งงาน แต่เบี้ยวงานหมั้น อ้างแม่ไม่ยอมรับฝ่ายหญิง

ทหารเก๊เทงานแต่ง โดนแฉอีก เคยขอสาวแต่งงาน แต่เบี้ยวงานหมั้น อ้างแม่ไม่ยอมรับฝ่ายหญิง

จากกรณี หนุ่มโคราชชื่อ “เอก” (สงวนนามสกุล) ชาวบ้านหมู่ที่ 4 ต.โคกสูง อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา อ้างตัวเป็นทหาร ยศจ่าสิบเอก เป็นทหารพรานใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ ไปขอแต่งงานกับนางสาวน้ำทิพย์ (สงวนนามสกุล) อายุ 40 ปี พนักงานโรงงานย่านนิคมอุตสาหกรรมกบินทร์บุรี อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี หลังพบรักกันทางออนไลน์ เมื่อประมาณเดือนธันวาคม 2564 แล้วตกลงแต่งงานกันในวันที่ 1 พฤษภาคม 2565 โดยจะจัดค่าสินสอดเงินสด 200,000 บาท ทองรูปพรรณ 3 บาท ไปสู่ขอกับพ่อแม่ฝ่ายหญิง พร้อมกับจะเตรียมซุ้มดอกไม้ ดนตรี อาหาร เครื่องดื่มเอง แต่เมื่อถึงวันแต่งงาน ว่าที่เจ้าสาวและญาติได้จัดเตรียมงานไว้พร้อม แต่ฝ่ายชายกลับล่องหน หายตัวไปไม่มาร่วมพิธี ทำให้กลายเป็นวิวาห์ล่ม แต่ก็ต้องต้อนรับแขกเพียงลำพังจนงานเสร็จ ทำให้ฝ่ายหญิงและครอบครัวต้องเป็นหนี้ค่าจัดเตรียมงานพิธีทางศาสนา จัดโต๊ะจีนพร้อมเครื่องดื่ม 50 โต๊ะ รวมเป็นเงินกว่า 300,000 บาท

นอกจากนี้ แหล่งข่าวได้แจ้งข้อมูลเพิ่มเติมว่า เมื่อครั้งสมัยที่นายเอก เป็นการ์ดที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในจังหวัดนครราชสีมา ได้เคยหลอกลวงหญิงสาวอีกรายในลักษณะเดียวกัน ซึ่งหญิงสาวรายดังกล่าว เป็นสาวเสิร์ฟของร้าน ชื่อว่า น.ส.กัญญารัตน์ (สงวนนามสกุล) โดยหว่านล้อมให้หลงรัก พาเข้าบ้านไปรู้จักพ่อแม่ และขออยู่กินฉันสามีภรรยา ก่อนจะออกอุบายขอแต่งงาน และยื่นข้อเสนอเป็นสินสอดเงินสด 2 แสน ทองคำ 4 บาท พร้อมบ้านอีก 1 หลัง จนฝ่ายหญิงตายใจ สั่งทำการ์ดแต่งงาน 100 ใบ กำหนดแต่งวันที่ 3 พฤษภาคม 2563 แต่จะมีพิธีหมั้นในวันที่ 2 พฤษภาคม 2563 ก่อน ซึ่งเมื่อถึงกำหนดพิธีหมั้น นายเอก กลับไม่ยอมไปร่วมพิธี โดยอ้างติดราชการด่วน พอโทรสอบถามหนักเข้า บอกว่าถูกอุ้ม ทะเลาะกับแม่ แม่ไม่ยอมรับเจ้าสาว ทำให้งานหมั้นงานแต่งต้องล้มเลิกไป โดยเหตุการณ์ครั้งนั้น น.ส.กัญญารัตน์ ต้องเสียเงินทำการ์ดงานแต่งไป 600 บาท และเงินซื้ออาหารมาไว้เตรียมต้อนรับอีก 5,000 บาท

ล่าสุด เวลา 15.30 น. วันนี้ (8 พฤษภาคม 2565) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านของ น.ส.กัญญารัตน์ ที่บ้านหนองปลิง ต.ไชยมงคล อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา ซึ่งได้พบกับนางนันทวัน (สงวนนามสกุล) มารดาของ น.ส.กัญญารัตน์ ซึ่งได้นำการ์ดงานแต่งมาให้ดู พร้อมกับเปิดใจกับผู้สื่อข่าว ว่า ตนรู้อยู่ว่านายเอกได้คบหาอยู่กับลูกสาวมาก่อนแล้ว แต่ไปเช่าบ้านอยู่ข้างนอกด้วยกัน เข้าออกที่บ้านอยู่ประมาณ 5-6 เดือน ก่อนจะให้ลูกสาวมาขออนุญาตอยู่กินที่บ้านในช่วงเดือนเมษายน 2563

Advertisement

จากนั้น ประมาณ 1 เดือน นายเอกก็ขอลูกสาวของตนแต่งงาน โดยยื่นข้อเสนอเป็นสินสอด เงินสดจำนวน 4 แสนบาท และทองคำอีก 5 บาท ยอมรับว่า ตอนนั้นไว้ใจนายเอก อย่างมากเนื่องจากลูกสาวบอกว่า นายเอกเป็นนายทหาร ยศร้อยเอก และระหว่างที่มาอยู่ที่บ้าน ก็เป็นคนพูดจาไพเราะ เอาใจเก่ง นิสัยเข้าได้กับทุกคน จนมาถึงกำหนดวันหมั้น ช่วงเช้าของวันที่ 2 พฤษภาคม 2563 นายเอก ได้ขอตัวออกจากบ้าน อ้างว่า จะไปรับญาติมาร่วมพิธี แล้วก็หายตัวไปเลย จนลูกสาวต้องโทรตาม พอนายเอก รับสายก็อ้างอีกว่า มีปัญหากับแม่ แม่ไม่ยอมมาร่วมงานหมั้นและแม่ไม่ยอมรับในตัวเจ้าสาว ทำให้ต้องล้มเลิกทั้งงานหมั้นและงานแต่ง แต่ยังโชคดีที่ลูกสาวสูญเงินไปไม่ถึงหมื่นบาท

Advertisement

ซึ่งหลังจากลูกสาวของตนมาเล่าว่า นายเอก ไปหลอกลวงหญิงสาวรายอื่นอีก ตนก็รู้สึกเสียใจที่ต้องมาโดนหลอกเหมือนกับลูกสาวของตน อยากฝากให้เจ้าหน้าที่ฯ นำตัวนายเอก มาดำเนินคดีโดยเร็ว จะได้ไม่ไปทำพฤติกรรมหลอกลวงหญิงสาวรายอื่นๆ อีก

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image