ภูเก็ตแถลงผู้ป่วย ‘ฝีดาษลิง’ รายที่ 3 ในไทย หนุ่มเยอรมันวัย 25 คาดมีอาการฟักตัวจากต่างประเทศ

สสจ.ภูเก็ตแถลงผู้ป่วย ‘ฝีดาษลิง’ รายที่ 3 ในไทย รายที่ 2 ในจังหวัด เป็นหนุ่มเยอรมันวัย 25 คาดมีอาการฟักตัวจากต่างประเทศ เผยไม่ได้เป็นกลุ่มรักร่วมเพศ ส่วนมากเที่ยวกับแฟน-ไม่ได้ไปสถานบันเทิง

เมื่อเวลา 13.40 น. วันที่ 3 สิงหาคม ที่ห้องประชุม สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต นายแพทย์กู้ศักดิ์ กู้เกียรติกูล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ภูเก็ต แถลงข่าวกรณี พบผู้ป่วยฝีดาษวานร หรือฝีดาษลิง รายที่ 3 ว่ากรมควบคุมโรครายงานโรคฝีดาษวานรเคสที่ 3 ของประเทศ เป็นเคสที่ 2 ของ จ.ภูเก็ต เคสนี้ สสจ.ภูเก็ตได้รับรายงานเมื่อวานนี้ (2 ส.ค.) ว่ามีผู้ป่วยเดินเข้าไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง เป็นการดักจับเฝ้าระวังเป็นปกติอยู่แล้ว ทางโรงพยาบาลเอกชนสงสัยว่าจะเป็นฝีดาษลิง เนื่องจากมีอาการเข้าข่ายน่าสงสัย คือ มีไข้ มีผื่นขึ้น ต่อมน้ำเหลืองโต จึงได้เจาะเลือด เพาะเชื้อสวอบส่งตรวจที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ ที่ บางโจ ภูเก็ต สามารถตรวจ RT-PCR ของฝีดาษลิงได้ ใช้เวลาประมาณไม่เกิน 1 วัน

นพ.กู้ศักดิ์กล่าวว่า คนไข้รายนี้แอดมิตมาตอนสายของเมื่อวานและทราบผลพบเชื้อตอนเย็น สสจ.ภูเก็ต โดยทีมสอบสวนโรคได้ร่วมกับสาธารณสุขเมืองและโรงพยาบาลลงสอบประวัติผู้ป่วย ทราบว่า เป็นชายชาวเยอรมนี อายุ 25 ปี เดินทางบินตรงเข้า จ.ภูเก็ต เมื่อวันที่ 18 ก.ค. เข้ามาพักกับแฟนเป็นคนไทย ไม่ได้เป็นกลุ่มรักร่วมเพศ และครอบครัวของแฟน โดยพักอาศัยอยู่ในพื้นที่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ส่วนมากท่องเที่ยวกับแฟนไม่ได้ไปเที่ยวสถานบันเทิง

นพ.กู้ศักดิ์กล่าวว่า วันที่ 23-24 ก.ค. เริ่มมีไข้ มีผื่นขึ้นเล็กน้อย แต่ในช่วงวันที่ 30-31 ก.ค. มีผื่นมากขึ้น เริ่มที่อวัยวะเพศและลามไปที่แขน ข้อมือ ลำตัว จนถึงวันที่ 1 ส.ค.เริ่มมีไข้ ผื่นมากขึ้น ลุกลามไปลำตัว ในวันที่ 2 ส.ค.จึงเข้าตรวจที่โรงพยาบาล ได้เจาะเลือดเพาะชื้อ รับรักษาตัว

“กลุ่มสัมผัสใกล้ชิดเป็นแฟนและครอบครัวของแฟน ในขั้นต้นรวมแล้ว 7 คน ตอนนี้ทั้ง 7 คนที่ใกล้ชิดผู้ป่วย ยังไม่มีอาการ ส่วนแฟนของเขาได้ทำการเจาะเลือด สวอบ อยู่ระหว่างรอผลให้เขากักตัวอยู่ที่บ้าน

Advertisement

“สิ่งที่ดำเนินการคือได้กักตัวตามตัวผู้ป่วย เขาให้ความร่วมมือดี การตามตัวผู้สัมผัสใกล้ชิดในเบื้องต้น จำนวน 7 คน อยู่ในครอบครัวของแฟน ซึ่งโรคนี้ต้องสัมผัสโดยตรงกับผู้ป่วยแบบเนื้อแนบเนื้อ การแพร่กระจายไม่ง่าย” นพ.กู้ศักดิ์กล่าว

นายแพทย์กู้ศักดิ์ กู้เกียรติกูล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ภูเก็ต

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

นพ.กู้ศักดิ์กล่าวย้ำว่า ขอให้ความมั่นใจว่าฝีดาษลิงติดกันไม่ง่าย อาการไม่รุนแรง ส่วนมากจะหายเองภายใน 2-4 อาทิตย์ ผู้ป่วยรายนี้เดินทางเข้ามาไทยได้ไม่นานจึงเริ่มมีอาการ หลังจากอยู่เมืองไทยได้ประมาณ 5-6 วัน น่าจะมีอาการฟักตัวมาจากต่างประเทศ เพราะระยะฟักตัว 21 วัน

Advertisement

“ปัจจุบันมีการเฝ้าระวังโรค มีการดักจับโรคฝีดาษวานรที่ด่านควบคุมโรคระหว่างประเทศ กับการเฝ้าระวังตามโรงพยาบาลรัฐ โรงพยาบาลเอกชน คลินิกโรคผิวหนัง คลินิกโรคเพศสัมพันธ์ ซึ่งทางโรงพยาบาลรัฐและเอกชนแจ้งมาว่ามีผู้ป่วยเข้ามาตรวจและอาการเข้าข่ายประมาณ 4-5 ราย เป็นชาวพม่า ชาวเคนยา สเปน ฯลฯ รวมแล้ว 7-8 คน ที่เดินเข้ามาตรวจ เจาะเลือดสวอบ ผลตรวจไม่พบเชื้อ

“ขอชี้แจงว่า โรคนี้ติดกันไม่ง่าย ต้องสัมผัสใกล้ชิด โรคนี้รักษาหายเองใน 2-4 อาทิตย์ ทั่วโลกติดเชื้อกว่า 2 หมื่นคน เสียชีวิตประมาณ 3 คน คนที่เสียชีวิตเป็นโรคภูมิคุ้นกันบกพร่อง มะเร็งเม็ดเลือดขาว ส่วนคนปกติถ้าเป็นโรคนี้มักจะหายเอง” นพ.กู้ศักดิ์กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image