ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ตราดเปลี่ยนพรรควุ่น หลังหัวหน้าทีมย้ายขั้วการเมือง แม้เปิดตัวแล้วยังเปลี่ยน ทั้งสร้างอนาคตไทยและพลังประชารัฐ หลายคนรอชัดเจน ระบุตราดเปิดตัวแล้ว 12 คน
เมื่อวันที่ 6 มกราคม ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของ ว่าที่ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.จ.ตราด ซึ่งตลอด 3-4 เดือนที่ผ่านมามีการเปิดตัวอย่างต่อเนื่อง ทว่า ในระยะหลังที่ปรากฏการเมืองระดับชาติมีการย้ายขั้ว ตลอดจนเปลี่ยนหัวหน้าทีม ทำให้บรรดาว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ชุลมุนตามไปด้วย
ที่ผ่านมา นายพิชัย วิสุทธิแพทย์ อดีตนาย ทต.หนองเสม็ด อ.เมือง จ.ตราด 2 สมัย ประกาศลงเลือกตั้ง ส.ส.จ.ตราดในนาม พรรคเศรษฐกิจไทย ที่มี ร.อ.ธรมนัส พรหมเผ่า เป็นหัวหน้าพรรค แต่เมื่อ ร.อ.ธรมนัส ลาออกและอาจจะเข้า พรรคพลังประชารัฐ ทำให้นายพิชัยต้องกลับตัวใหม่ เพราะได้รับสัญญาณจาก นายประมวล เอมเปีย รองหัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย ว่ายังต้องรอความชัดเจนว่าจะเข้าสังกัดพรรคไหน
นายพิชัยกล่าวว่า ตอนนี้ต้องรอความชัดเจนจากนายประมวลว่าจะขยับไปสังกัดพรรคไหน ซี่งน่าจะต้องหยุดเคลื่อนไหวทางการเมืองไปก่อนจนกว่าจะมีความชัดเจน หากยังไม่สามารถได้พรรคการเมืองที่ทำประโยชน์ให้กับ จ.ตราด ได้มากก็อาจจะไม่ลงสมัครรับเลือกตั้งในครั้งนี้
ขณะที่ นายกิตติธัช ไชยอรรถ ที่ก่อนหน้านี้อยู่ในทีมของ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม ซึ่งได้รับการแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีด้วย และทำโครงการพัฒนาอาชีพดีพร้อมให้กับกระทรวงอุตสาหกรรม จำนวน 80โครงการ มีชาวตราดกว่า 10,000 คน เข้าร่วมโครงการ ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้นายกิตติธัชได้เปิดตัวกับ พรรคสร้างอนาคตไทย ไปแล้วอย่างเป็นทางการ
แต่เมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงในขั้วของ นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ที่จะย้ายไป พรรครวมไทยสร้างชาติ ทำให้ นายประทีป เลขาพันธ์ ที่เป็นผู้ลงสมัครลง ส.ส.ตราด ในนามพรรคพลังประชารัฐไปแล้ว และมีการสร้างสำนักงานพรรคพลังประชารัฐอย่างใหญ่โต สุดท้ายต้องปลดป้ายทั้งหมดออกเพื่อเตรียมเปิดตัวอยู่ในสังกัดพรรครวมไทยสร้างชาติ ตามหัวหน้าทีมคือนายสุชาติ
นายกิตติธัชกล่าวว่า ได้ทำงานให้กับพรรคพลังประชารัฐอย่างต่อเนื่อง ในนามที่ปรึกษาและลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชน พร้อมช่วยเหลือประชาชนมาอย่างต่อเนื่อง แต่สุดท้ายต้องตัดสินลงในนามพรรคสร้างอนาคตไทย ทั้งนี้ ภายในพรรคสร้างอนาคตไทยยังมีความไม่แน่นอน เพราะมีการรวมพรรคกัน 1-2 พรรค จึงตัดสินใจลงสมัคร พรรคพลังประชารัฐ หลังผู้สมัครเดิมต้องถอนตัวออกไป ซึ่งได้รับการสนับสนุนด้วยดี
ฟาก นายศักดินัย นุ่มหนู ส.ส.ตราด พรรคก้าวไกล เปิดเผยผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า ผมขอยืนหยัดทำงานการเมืองกับพรรคก้าวไกล ไม่เคยสนใจ ไม่เคยหวั่นไหวกับสิ่งล่อใจทางการเมืองให้ต้องมาทรยศต่ออุดมการณ์ ทรยศต่อประชาชนชาวตราดที่อุตส่าห์ให้ความไว้วางใจต่อกระผมในครั้งเลือกตั้งที่ผ่านมาในปี 2562
“ขอให้พี่น้องชาวตราดมั่นใจในตัวกระผม ผมไม่มีวันทรยศขายตัวเพียงเพื่อเห็นแก่เงิน แม้นผมไม่ใช่คนมีฐานะร่ำรวย แต่เงินที่มาจากการซื้อขายทางการเมือง ผมถือว่ามันคือสิ่งสกปรก ผมรับไม่ได้” นายศักดินัยระบุ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับเขตการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จ.ตราด มีเพียง 1 เขต โดยการเลือกตั้งในปี 2566 มีผู้ประกาศตัวจะลงสมัคร ส.ส.จ.ตราดแล้ว 12 พรรคการเมือง คือ
1.นายศักดินัย นุ่มหนู พรรคก้าวไกล
2.นายวศิน พงษ์ศิริ พรรคภูมิใจไทย
3.นายธีระ สลักเพชร พรรคประชาธิปัตย์
4.นายประทีป เลขาพันธ์ (คาดว่า) พรรครวมไทยสร้างชาติ
5.นายกิตติธัช ไชยอรรถ พรรคพลังประชารัฐ
6.นายทินวัฒน์ เจียมอุย พรรคเพื่อไทย
7.นายพิชัย วิสุทธิแพทย์ พรรคเพื่อแผ่นดิน
8.นายลือเกษ ยิสารคุณ พรรคเสรีรวมไทย
9.นายวีระชัย จูห้อง พรรคเเผ่นดินไทย
10.นายกฤติเดชกรกฤษ สุขเกียรติกังวล พรรคชาติพัฒนากล้า
11.นายเชษฐ์ฐา ทองเพิ่ม พรรคทางเลือกใหม่
12.นายมานพ ระวัง พรรคท้องที่ไทย
มีการจับตา “ตัวเต็ง” ที่คาดว่าจะได้รับการเลือกตั้ง ประกอบด้วย นายทินวัฒน์ เจียมอุย จากพรรคเพื่อไทย ปัจจุบันเป็นรองนายก อบจ.ตราด ซึ่งมีกลุ่มลูกเมืองตราดที่มีฐานสมาชิกสภา อบจ.ตราดสนับสนุน รวมทั้ง นายวิเชียร ทรัพย์เจริญ นายก อบจ.ตราด เป็นผู้สนับสนุน
นายวศิน พงษ์ศิริ จากพรรคภูมิใจไทย ที่ได้รับความนิยมสูงขึ้น หลังพ่ายแพ้การเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ได้ออกหาเสียงและผลักดันนโยบายของพรรคภูมิใจไทยและแก้ปัญหาต่างๆ ของ จ.ตราด และได้แรงสนับสนุนจากประชาชนเพิ่มขึ้นมาก โดยเฉพาะกลุ่มข้าราชการและองค์กรเอกชน
ขณะที่ นายศักดินัย นุ่มหนู ส.ส.ก้าวไกล ยังมีฐานฐานคะแนนนิยมส่วนตัวที่เพิ่มขึ้น นอกเหนือจากคะแนนจากพรรคก้าวไกล และ นายธีระ สลักเพชร อดีต ส.ส.ตราด 5 สมัย จากพรรคประชาธิปัตย์ รวมทั้ง นายกิตติธัช ไชยอรรถ จากพรรคพลังประชารัฐ
