คุ้มครองแรงงานโคราช สั่ง โรงแรมดังเข้าให้ข้อมูล 21 ส.ค. ปม สาวถูกหัวหน้าไล่ออก

คุ้มครองแรงงานโคราช สั่ง โรงแรมดังเข้าให้ข้อมูล 21 ส.ค. ปม สาวถูกหัวหน้าไล่ออก หลังขอลาไปงานศพแม่

กลายเป็นประเด็นร้อนแรงที่สังคมวิพากษ์วิจารณ์จำนวนมาก หลังจากผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ซึ่งเป็นพนักงานโรงแรมดัง ได้โพสต์ข้อความแชตกับเจ้านาย พร้อมข้อความว่า “แล้วฉันผิดอะไร เรื่องแบบนี้ พี่ควรเห็นใจ หรือเข้าใจหรือเปล่า เกินไปไหม”

โดยเธอนั้นสูญเสียคุณแม่ และจะขอลางานกับหัวหน้า แต่หัวหน้ากลับให้ลาออกแทนนั้น

เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม ที่สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายนิสัย สุขระ สวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า ภายหลังจากที่ทราบเรื่องนี้จากสื่อต่างๆ ก็ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตรวจแรงงานเดินทางไปตรวจสอบที่โรงแรมดังกล่าวในพื้นที่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา แต่ไม่พบผู้บริหารของโรงแรมซึ่งเป็นนายจ้าง พบเพียงหัวหน้า รปภ.เท่านั้น

ADVERTISMENT

นายนิสัยกล่าวต่อว่า โดยหัวหน้า รปภ.แจ้งว่า ผู้บริหารได้เดินทางไปร่วมงานศพของแม่พนักงานคนดังกล่าวที่ จ.บุรีรัมย์ กันหมด ส่วนรายละเอียดอื่นๆ ไม่สามารถให้ข้อมูลได้ ต้องอยู่ที่ผู้บริหารเท่านั้น เจ้าหน้าที่ตรวจแรงงานจึงได้มีหนังสือเชิญนายจ้างให้มาพบในวันจันทร์ที่ 21 สิงหาคมนี้ ที่สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดนครราชสีมา เพื่อให้ข้อมูลรายละเอียดต่างๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้

นายนิสัยกล่าวต่อว่า โดยเฉพาะเรื่องของกฎระเบียบเรื่องของการลากิจที่โรงแรมกำหนดไว้ แต่ถ้าดูตามกฎหมายแรงงานนั้น ให้นายจ้างกำหนดให้ลูกจ้างมีสิทธิในการลากิจธุระอันจำเป็นได้ ปีละไม่น้อยกว่า 3 วันทำงาน โดยให้นายจ้างจ่ายเงินค่าจ้างให้กับลูกจ้างในวันที่ลากิจธุระ เท่ากับวันทำงานปกติได้ปีละไม่เกิน 3 วันทำงาน ซึ่งทางสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดนครราชสีมาก็จะดูว่ากรณีที่ลูกจ้างลากิจธุระไปดูแลแม่ที่ป่วย และต่อมาแม่ก็เสียชีวิตลงนั้น ลูกจ้างได้ใช้สิทธิในการลากิจธุระอันจำเป็นอะไรไปบ้างแล้วหรือไม่

ADVERTISMENT
นายนิสัย สุขระ สวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดนครราชสีมา

นายนิสัยกล่าวอีกว่า กรณีของการเลิกจ้างนั้น เรื่องของการจ้างและการเลิกจ้าง ก็เป็นสิทธิของนายจ้าง แต่ก็ต้องดูเหตุว่าเข้าข่ายข้อยกเว้นที่นายจ้างจะต้องจ่ายเงินชดเชยด้วยหรือไม่ ถ้าไม่เข้าข่ายข้อยกเว้น นายจ้างก็สามารถเลิกจ้างเมื่อใดก็ได้ โดยที่ไม่ต้องจ่ายเงินชดเชย แต่หากเข้าข่ายข้อยกเว้น นายจ้างก็ต้องจ่ายเงินชดเชยให้ลูกจ้างตามอายุงาน และตามข้อกฎหมายที่กำหนด

นายนิสัยกล่าวต่อว่า ถ้าเข้าข่ายข้อยกเว้น และมีลูกจ้างมายื่นคำร้องกับสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดนครราชสีมา ก็จะเข้าสู่กระบวนการวินิจฉัยคำร้อง พร้อมกับเชิญฝ่ายนายจ้างเข้าพบเพื่อให้ได้ข้อมูลทั้งสองฝ่าย แต่ถ้าทั้งสองฝ่ายมีการตกลงกันได้ ไม่ว่าจะเป็นการยินยอมรับเข้าทำงานตามปกติ หรือหากไม่รับเข้าทำงานแต่มีการจ่ายเงินชดเชยให้ตามที่กฎหมายกำหนด การยื่นคำร้องก็จะเป็นอันยุติลง

แต่หากทั้งสองฝ่ายไม่สามารถตกลงกันได้ พนักงานตรวจแรงงานก็จะมีคำสั่งเป็นหนังสือภายใน 60 วัน นับแต่วันที่ลูกจ้างมายื่นคำร้อง โดยประมวลตามข้อมูลเอกสารต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการจ้างงาน แล้ววินิจฉัยออกมาว่าลูกจ้างมีสิทธิได้รับเงินค่าชดเชยหรือไม่

โดยเมื่อทั้งสองฝ่ายได้รับหนังสือคำสั่งไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นหนังสือคำสั่งให้ลูกจ้างได้รับเงินค่าชดเชยก็ตาม หรือหนังสือคำสั่งลูกจ้างไม่ได้รับเงินค่าชดเชยก็ตาม ทั้งสองฝ่ายก็สามารถนำหนังสือคำสั่งนี้ไปยื่นอุทธรณ์ที่ศาลแรงงานภาค 3 ซึ่งตั้งอยู่ที่ อ.เมือง จ.นครราชสีมา ได้ภายใน 30 วัน หลังจากที่ได้รับหนังสือคำสั่ง ถ้าหากนายจ้างเป็นฝ่ายอุทธรณ์ กรณีพนักงานตรวจแรงงานมีคำสั่งให้จ่ายเงินชดเชย นายจ้างก็ต้องนำเงินตามจำนวนในคำสั่งนั้นไปวางเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันที่ศาลก่อน จึงจะสามารถขอยื่นอุทธรณ์ได้

แต่ถ้าหากภายใน 60 วัน เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถรวบรวมพยานหลักฐานได้ครบถ้วน ก็มีสิทธิขอขยายเวลาต่อได้อีก 30 วัน ซึ่งกรณีการขอขยายเวลาก็จะเป็นดุลพินิจของผู้ว่าราชการจังหวัดจะพิจารณาอนุญาตให้หรือไม่
ถึงอย่างไรก็ตาม กรณีลูกจ้างรายนี้ที่เป็นข่าว ขณะนี้ก็ยังไม่มีข้อมูลว่านายจ้างได้เลิกจ้างลูกจ้างรายนี้ไปแล้วหรือไม่ ดังนั้น จึงต้องรอนายจ้างมาชี้แจงรายละเอียดอีกครั้ง ในวันจันทร์ที่ 21 สิงหาคมที่จะถึงนี้ก่อน

อ่านข่าวเพิ่มเติม

นายนิสัย สุขระ สวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดนครราชสีมา
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image