ศาลนนท์ ยกฟ้อง ‘แซน วิศาพัช’ ฟ้อง ‘แม่แตงโม-ทนาย’ ข้อหาหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 50 ล้าน

ศาลนนท์ ยกฟ้อง ‘แซน วิศาพัช’ ฟ้อง ‘แม่แตงโม-ทนาย’ ข้อหาหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 50 ล้าน

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 9 ตุลาคม ศาลจังหวัดนนทบุรีมีคำพิพากษาในคดีดำ เลขที่ อ.274/66
ที่ นายวิศาพัช หรือ แซน วิศาพัช เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นางภนิดา ศิระยุทธโยธิน กับพวกอีก 2 คน หลังแจกเอกสารให้นักข่าว ที่หน้าศาลจังหวัดนนทบุรี เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2566 โดยกล่าวว่า แซน วิศาพัช มีพฤติกรรมเข้าไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานในคดีการเสียชีวิตของ แตงโม นิดา บุตรสาว จึงขออำนาจศาลให้เพิกถอนการประกันตัวในชั้นศาลของแซน วิศาพัช

ซึ่งต่อมาทาง แซน วิศาพัช ได้มอบหมายให้ นายพรศักดิ์ วิภาสอาภานนท์ ทนายความส่วนตัว ยื่นฟ้อง นางภนิดา แม่ของแตงโม และทีมทนายความของนางภนิดาอีก 2 คน ในข้อหาหมิ่นประมาท โดยตรงกับศาลจังหวัดนนทบุรี เมื่อวันที่ 9 มีนาคมที่ผ่านมา

ต่อมาเมื่อวันที่ 4 กันยายน แซน วิศาพัช พร้อมทนายความเดินทางมาถอนฟ้องคดีหมิ่นประมาทที่ฟ้องนางภนิดาไว้พร้อมเปิดเผยว่า สาเหตุที่ตัดสินใจถอนฟ้องคุณแม่ของแตงโมนั้น เชื่อว่าเอกสารในลักษณะที่หมิ่นประมาทที่นำมาแจกจ่ายให้กับสื่อที่หน้าศาลในวันนั้น นางภนิดาแม่ของแตงโม ไม่น่าที่จะเป็นผู้จัดทำเอกสารมาเผยแพร่แจกจ่ายได้ด้วยตัวเอง เชื่อว่าแม่ของแตงโมทำไปตามคำสั่งของที่ปรึกษา จึงถอนฟ้องคดีหมิ่นประมาทที่เรียกค่าเสียหายไปด้วย 50 ล้านบาท กับทางศาลจังหวัดนนทบุรี

Advertisement

ซึ่งต่อมาศาลจังหวัดนนทบุรีได้มีคำสั่งให้ถอนฟ้องนางภนิดา ตามที่ฝ่ายโจทก์ได้ยื่นเรื่องมา ส่วนที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมายของนางภนิดา ทาง แซน วิศาพัช ไม่ได้ถอนฟ้อง ศาลจังหวัดนนทบุรี จึงมีคำสั่งนัดฟังคำตัดสินในเช้าวันนี้

โดยศาลได้พิเคราะห์แล้วเห็นว่า ทางฝ่ายโจทก์ไม่มีพยานหลักฐานใดยืนยันว่า จำเลยที่สองและสามเป็นผู้แจกเอกสารให้กับผู้สื่อข่าวในวันเกิดเหตุ เมื่อไต่สวนแล้วพบว่า ผู้สื่อข่าวได้รับเอกสารดังกล่าวจากตัวแทนของจำเลยที่ 1 เท่านั้น การที่โจทก์อ้างว่าเป็นการหมิ่นประมาทและดูหมิ่นโจทก์ด้วยการโฆษณา คงปรากฏเพียงข้อความที่จำเลยที่สองกล่าวถึงพยานหลักฐานในคดีว่า อาจมีผลในทางบวกเท่านั้น กับการที่จำเลยที่ 2 และที่ 3 ในฐานะที่ปรึกษากฎหมายของจำเลยที่ 1 อยู่ร่วมด้วยในการสัมภาษณ์ของจำเลยที่ 1 กับผู้สื่อข่าวในขณะเกิดเหตุไม่ปรากฏพยานหลักฐานหรือพฤติการณ์อื่นใด ที่แสดงให้เห็นชัดเจนว่าจำเลยที่สองและจำเลยที่สามมีส่วนร่วมในการจัดทำเอกสารหมายหรือกล่าวถ้อยคำในลักษณะยืนยันข้อเท็จจริงอันเป็นเท็จหรือใส่ความ โดยยืนยันข้อเท็จจริงให้ผู้อ่านหรือผู้ฟังเชื่อและเกิดความรู้สึกดูหมิ่นเกลียดชังอันจะเป็นการหมิ่นประมาทโจทก์ จึงยังไม่อาจรับฟังให้เป็นผลร้ายแก่จำเลยที่สองและสามได้ว่ามีส่วนร่วมกระทำความผิดดังกล่าว การกระทำของจำเลยที่สองและสามจึงไม่มีมูลความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 326, 328, 393

พิพากษายกฟ้องทั้ง 2 คนที่เหลือ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ทางฝ่ายโจทก์ได้ยื่นถอนฟ้องจำเลยที่ 1 (แม่แตงโม) ไปก่อนหน้านี้แล้ว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image