ปะทุอีก ไฟไหม้ มาบตาพุดแทงค์ เสียชีวิตแล้ว 1 ราย เร่งอพยพ พนักงาน 300 คน
ความคืบหน้าไฟไหม้ถังเก็บสารไพรโรไลลิส แก๊สโซลีน ของบริษัท มาบตาพุด แทงค์ เทอร์มินัล จำกัด ไฟปะทุขึ้นมาอีกรอบ คาดโฟมฉีดดับหมด เบื้องต้นทางบริษัทขอสนับสนุนรถโฟมเทศบาลเมืองมาบตาพุดแล้ว ขณะที่วัดตา-กวน มี ปชช.อพยพมาอยู่จำนวนมาก ส่วนผู้บาดเจ็บเป็นพนักงานที่ทำงานหน้างานถูกหามส่ง รพ.ระยองด่วน
เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 9 พฤษภาคม ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีถังเก็บสารไพรโรไลลิส แก๊สโซลีนของบริษัทมาบตาพุด แทงค์ เทอร์มินัล จำกัด ในนิคมอุตสาหกรรมมายตาพุด อ.เมือง จ.ระยอง เกิดระเบิดและไฟไหม้ ล่าสุดหลังดับไฟสงบได้แล้ว เวลาประมาณ 12.30 น. ไฟได้เกิดปะทุขึ้นมาอีกรอบ โดยลุกไหม้มีควันไฟลอยสูงขึ้นท้องฟ้า ก่อนจะมีเสียงระเบิดดังสนั่นตามมา 1 ครั้ง
โดยเจ้าหน้าที่ประจำรถตรวจวัดคุณภาพภาพอากาศของเทศบาลเมืองมาบตาพุด ซึ่งสแตนด์บายอยู่จุดฝั่งชายหาดตา-กวน ได้รับแจ้งจากทางบริษัทฯ ร้องขอสนับสนุนรถดับเพลิงด้วยโฟมจากเทศบาลเมืองมาบตาพุดโดยด่วน ซึ่งคาดว่าโฟมที่ฉีดคลุมไฟหมด จึงทำให้ไฟปะทุขึ้นมาอีกรอบ ขณะนี้ยังไม่สามารถดับไฟไหม้ที่ปะทุขึ้นมาอีกรอบได้
ส่วนที่วัดตา-กวน มีพนักงานบริษัทใกล้เคียง กลุ่มประมงตา-กวน ซึ่งอยู่บริเวณชายหาดใกล้จุดเกิดเหตุ และ ปชช.อพยพมาอยู่วัดรวม 100 ครัวเรือน ขณะที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยฯได้นำพนักงานบริษัทฯ คาดทำงานอยู่หน้างานจุดเกิดเหตุ ได้ถูกนำตัวส่ง รพ.ระยอง ด่วน โดยได้รับบาดเจ็บ 5 ราย ในจำนวนนี้มีคนเจ็บวิกฤตในขั้นสีแดง 3 ราย และเจ้าหน้าที่ได้ทำการ CPR จำนวน 1 ราย
ด้าน บริษัท มาบตาพุด แทงค์ เทอร์มินัล จำกัด ได้ส่งหนังสือแถลงการณ์ ชี้แจงกรณีเกิดกลุ่มควัน บริษัท มาบตาพุด แทงค์ เทอร์มินัล จำกัด ว่า ได้เกิดกลุ่มควันบริเวณถังจัดเก็บสารประกอบไฮโดรคาร์บอน C9+ โดยบริษัทฯ ได้ระดมทีมเพื่อควบคุมสถานการณ์ในทันทีที่เกิดเหตุตามแผนรับมือเหตุฉุกเฉิน
จากเหตุการณ์ดังกล่าว ได้รับแจ้งว่ามีพนักงานเสียชีวิต 1 ราย ซึ่งบริษัทฯ รู้สึกเสียใจเป็นอย่างยิ่งสำหรับการสูญเสียที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ โดยบริษัทฯ ได้ดูแลและให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บและผู้เสียชีวิตอย่างเต็มที่
ส่วนพนักงานของบริษัทจำนวน กว่า 300 คน ซึ่งเป็นพนักงานโรงงานรอบๆ จุดเกิดเพลิงไหม้ ได้อพยพพาพนักงานไปรวมตัวกันที่อาคารอเนกประสงค์ ชุมชนตากวน-อ่าวประดู่ ซึ่งอยู่ห่างจากประมาณ 10 กิโลเมตร โดยมีเจ้าหน้าที่สาธารณสุข มาช่วยรักษาพยาบาลและตรวจร่างกาย ส่วนใหญ่จะมีอาการตื่นตระหนก ไม่มีอาการรุนแรง
